พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 434

คนที่ตอบคือหน้ากากเงิน เขาจ้องพวกอวิ๋นหลิงด้วยความงวยงง ไม่เข้าใจว่าพระชายาจิ้งอ๋องแห่งแคว้นซีโจวไปมีความสัมพันธ์กับเยว่หลงเย่แห่งแคว้นถังใต้ได้อย่างไร

หลิวฉิงเผยสีหน้าแปลกใจ ถามเสียงขรึม “พวกเจ้ารู้จักหลงเย่?”

หน้ากากเงินอยากจะพูดต่อ ทว่าถูกกงจื่อโยวทำหน้าบึ้งใส่ อีกฝ่ายตะคอกใส่ว่า

“หน้ากากเงิน หุบปาก”

เสียงของกงจื่อโยวเจือความเกรี้ยวกราดและความเย็นยะเยือก หน้ากากเงินคอหด รู้ว่าเจ้าสำนักน้อยที่ปกติเป็นคนนิสัยดี ยามนี้กำลังโกรธขึ้ง

ไม่ใช่จะเปิดเผยเพศที่แท้จริงของเยว่หลงเย่ได้ง่าย ๆ เมื่อครู่เขาเผลอไผลพูดออกมาด้วยความตกตะลึง ยามนี้รู้สึกเสียใจที่ตนเองรักษาคำพูดไม่ได้

รอยยิ้มของอวิ๋นหลิงลดระดับลงเล็กน้อย “เจ้าจะช่วยตามหาไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงไม่พูดต่อ?”

กงจื่อโยวเม้มปาก ใบหน้าไม่มีความผ่อนคลายและขี้คร้านของเมื่อครู่แล้ว ยามนี้มีเพียงความระมัดระวังและหยั่งเชิง

“พระชายาจิ้งอ๋อง ขออภัยที่ข้าพูดตรงๆ...คนที่ท่านต้องการตามหา หากเป็นศิษย์ในสำนักเดียวกัน เหตุใดถึงไม่รู้สถานะของอีกฝ่ายเลย?”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว พอจะคาดเดาถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของกงจื่อโยว ฉะนั้นจึงกวาดสายตามองผู้คนรอบข้าง ก่อนจะกล่าวเสียงจริงจังว่า “มีบางอย่างที่ไม่สะดวกพูดต่อหน้าทุกคน เจ้าสำนักน้อยโปรดตามข้ามา”

นางหาข้ออ้างให้สาวกป้ายประกาศิตแดงของสำนักทิงเสวี่ยออกไปได้แล้ว ก็ให้เยี่ยเจ๋อเฟิงนำพวกเขาเหล่านั้นไปยังด้านหน้าลานเรือน ภายในห้องโถงจึงเหลือเพียงพวกนางห้าคน

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงนั่งด้านซ้ายมือ ส่วนทางด้านขวาจะมีกู้ฉางเซินจับเก้าอี้รถเข็นของหลิวฉิงไว้ ดวงตาทั้งสี่คู่ล้วนมองไปยังกงจื่อโยว

อวิ๋นหลิงเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน “เจ้ารู้จักหลงเย่ แล้วนางก็สนิทกับสำนักทิงเสวี่ยมากด้วย ใช่หรือไม่?”

กงจื่อโยวนิ่งเงียบไม่ตอบ ดวงตาทรงจิ้งจอกมองอวิ๋นหลิง รอนางพูดต่อไป

ทว่าต่อให้เขาไม่ตอบ อวิ๋นหลิงพอจะอนุมานจากข้อมูลที่รู้ได้แล้วว่า แคว้นถังใต้เป็นเพศนิยม หากหลงเย่เป็นองค์ชายปลอม กงจื่อโยวในฐานะเพื่อนของนางต้องไม่เปิดเผยความลับของหลงเย่ง่าย ๆ อยู่แล้ว

เมื่ออวิ๋นหลิงวิเคราะห์มาถึงจุดนี้ก็โล่งอก รู้ว่าหลงเย่กับสำนักทิงเสวี่ยเป็นมิตรกัน หาใช่ศัตรูไม่

นางคลี่ยิ้ม ก่อนจะอธิบายอย่างมีจังหวะ “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังสงสัยว่าเหตุใดพวกเราที่อยู่กันคนละทิศทางถึงเป็นศิษย์ร่วมสำนักกันได้ แท้จริงแล้ว...”

อวิ๋นหลิงคิดใคร่ครวญ หลงเย่เป็นคนรอบคอบและระแวงสูง ชอบซ่อนเร้นความรู้สึก ไม่เหมือนหลิวฉิงที่ใสซื่อ ตรงไปตรงมา ฉะนั้นหลงเย่ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ แน่

ดูจากท่าทีของกงจื่อโยวแล้ว เขาน่าจะไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากหลงเย่ทั้งหมด หลงเย่คงไม่เคยเล่าเรื่องอดีตกับเรื่องพี่น้องในกลุ่มให้เขาฟังแน่ หาไม่แล้วกงจื่อโยวคงไม่สงสัยขนาดนี้หรอก

เมื่อเทียบกับกู้ฉางเซิน เจ้าอ๋องคนนี้รู้ชีวประวัติของพวกนางอย่างละเอียดแล้ว

สุดท้ายแล้วอวิ๋นหลิงก็เปรยเรื่องเทวดาถ่ายทอดวิชาในความฝันออกมา กงจื่อโยวฟังแล้วได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ

เขาขมวดคิ้วแน่นเป็นปม พูดด้วยความเหลือเชื่อ “อะไรน่ะ? พวกท่านรู้จักกันในความฝัน ตอนนี้ยังไม่เคยพบหน้ากัน?”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า อ้าปากพูดว่า “เป็นเช่นนี้แล หาไม่แล้วไยข้าถึงภาพใบหน้าหลงเย่ได้เล่า? เจ้าอาจจะไม่รู้ว่านางเป็นคนสอนข้าวาดรูปเอง”

กงจื่อโยวไม่ส่งเสียง เมื่อครู่คนสำนักทิงเสวี่ยล้วนดูออกว่าเทคนิคการวาดของพวกนางเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ