ที่แท้อวิ๋นหลิงลอบอ่านหนังสือพวกนี้หรือนี่
กู้ฉางเซินนิ่งคิดครู่หนึ่ง เมื่อเห็นเขาไม่เอ่ยคำ หลิวฉิงก็อดหยุดกินข้าวไม่ได้
“ทำไมไม่อ่านต่อล่ะ”
ใครจะอ่านต่อกันเล่า
สีหน้าของกู้ฉางเซินไม่ได้เผยความแปลกประหลาดใดๆ ก่อนปิดหนังสือลงตามปกติ
“เพิ่งลองอ่านดูครู่หนึ่ง คล้ายจะเป็นหนังสือที่พวกเราอ่านกันไปแล้ว ข้าจะไปหยิบเล่มใหม่ๆ สักสองเล่มแล้วกัน”
กล่าวจบ เขาก็ถือโอกาสหอบหนังสือเจ็ดแปดเล่มที่อยู่หัวเตียงใส่อก แล้วหยัดกายลุกขึ้นออกไป
ด้วยความไว้วางใจในตัวเจ้าอ๋อง หลิวฉิงก็ไม่ได้คิดมาก “เช่นนั้นดีเลย ข้าใกล้จะกินเสร็จพอดี คืนนี้ไม่ต้องอ่านหรอก”
อวิ๋นหลิงไม่รู้ว่าช่วงนี้นางอ่านหนังสืออะไรอยู่ จึงหยิบเล่มที่อ่านซ้ำๆ มาให้ก็เป็นไปได้
กู้ฉางเซินถอนใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย ดูจากท่าทางหลิวฉิงแล้ว คงไม่รู้ว่ามีหนังสือต้องห้ามแทรกอยู่ข้างใน
เขาไม่แน่ใจว่ายังมีหนังสือที่อ่านไม่ได้อีกกี่เล่มอยู่ในกองหนังสือนี้ จึงแก้ตัวด้วยการหอบหนังสือทั้งหมดกลับไปที่ห้อง จากนั้นจึงตรวจสอบทีละเล่มอย่างละเอียด สุดท้ายก็เลือกเจ้าตัวปัญหาออกมาได้สามเล่ม
ชั่งใจครู่หนึ่ง กู้ฉางเซินก็หยิบหนังสือพวกนี้ไปหาเซียวปี้เฉิง
“สหายกู้ เหตุใดวันนี้จึงว่างมาหาข้าได้เล่า”
กู้ฉางเซินแสดงความกังวลอย่างสุภาพก่อนว่า “ช่วงนี้เจ้าคงยุ่งมากสิท่า ไม่ค่อยเห็นเจ้ากลับบ้านกลับช่องสักเท่าใด”
เซียวปี้เฉิงเพิ่งกลับมาถึงจวน หน้าผากยังมีเหงื่อบางๆ ผุดพรายไม่จางหาย
“ใช่ เรือนทองคำกำลังก่อสร้าง หลิงเอ๋อร์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนัก ข้าจะทำสะเพร่าไม่ได้อยู่แล้ว ย่อมต้องเฝ้าดูบ่าวไพร่ใต้อาณัติทำงานถึงจะเบาใจ”
การสร้างห้องสมุดสักหลังไม่ใช่สักแต่พูดอย่างเดียว
อวิ๋นหลิงเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับห้องสมุด แต่นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสำนักศึกษาตงหลีเลย
ดังนั้นภาพวาดการก่อสร้างอาคารจึงได้ข้อสรุป หลังจากเซียวปี้เฉิงเรียกพวกองค์ชายห้ามาปรึกษาหารือกับจักรพรรดิจาวเหรินสองสามคืนในพระราชวัง
เขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับภาพวาดมากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จอย่างราบรื่น หมู่นี้เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลและตรวจสอบงานในสำนักศึกษาตงหลี
ตอนที่กุลีกุจอกับงานในมือ บางครั้งไม่ได้กลับจวนสองคืนติดต่อกันก็มี
“ช่วงนี้ยากลำบากหน่อยนะ” กู้ฉางเซินผงกศีรษะเป็นเชิงบอกเขา แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “แต่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ก็ควรเจียดเวลามาอยู่กับน้องสามให้มากบ้าง”
“ขอบคุณสหายกู้ที่เป็นห่วง”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย กู้ฉางเซินมาที่นี่เพียงเพื่อบอกเขาเรื่องแค่นี้เองหรือ
อวิ๋นหลิงเป็นสตรีที่แสดงความรู้สึกตรงไปตรงมา ปกติแล้วหากนางคิดถึงเขาจริงๆ ก็จะแสดงออกผ่านการกระทำโดยตรง แต่เห็นชัดว่าพักนี้อีกฝ่ายยุ่งเสียจนไม่มีเวลาจะสนใจเขา
กู้ฉางเซินครุ่นคิดใช้คำครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วันนี้น้องสามส่งหนังสือไปให้หลิวฉิงหลายเล่ม ข้าคาดเดาว่านางอาจจะหยิบเล่มผิดเนื่องจากเลินเล่อไปชั่วขณะ ก็เลยเอามาส่งให้เจ้า”
เขาวางหนังสือลงบนโต๊ะ นิ่งไปอึดใจก่อนเอ่ยช้าๆ สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย
“นอกจากเจียดเวลาอยู่กับนางยามค่ำคืนให้มากขึ้นแล้ว เจ้ายังต้องกำชับนางว่า อย่าลืมทบทวนบทเรียนที่เรียนก่อนหน้านี้ นางยังสอบไม่ผ่าน ตอนนี้จะละเลยไม่ได้ ต้องใช้เวลาจริงจังกับเรื่องสำคัญให้มากหน่อย”
ความหมายโดยนัยของถ้อยคำนี้มิได้หมายความว่าอวิ๋นหลิงไม่เอาถ่าน?
เซียวปี้เฉิงฟังแล้วรู้สึกสับสน ก็ได้แต่พยักหน้ารับคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...