พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 454

ที่แท้อวิ๋นหลิงลอบอ่านหนังสือพวกนี้หรือนี่

กู้ฉางเซินนิ่งคิดครู่หนึ่ง เมื่อเห็นเขาไม่เอ่ยคำ หลิวฉิงก็อดหยุดกินข้าวไม่ได้

“ทำไมไม่อ่านต่อล่ะ”

ใครจะอ่านต่อกันเล่า

สีหน้าของกู้ฉางเซินไม่ได้เผยความแปลกประหลาดใดๆ ก่อนปิดหนังสือลงตามปกติ

“เพิ่งลองอ่านดูครู่หนึ่ง คล้ายจะเป็นหนังสือที่พวกเราอ่านกันไปแล้ว ข้าจะไปหยิบเล่มใหม่ๆ สักสองเล่มแล้วกัน”

กล่าวจบ เขาก็ถือโอกาสหอบหนังสือเจ็ดแปดเล่มที่อยู่หัวเตียงใส่อก แล้วหยัดกายลุกขึ้นออกไป

ด้วยความไว้วางใจในตัวเจ้าอ๋อง หลิวฉิงก็ไม่ได้คิดมาก “เช่นนั้นดีเลย ข้าใกล้จะกินเสร็จพอดี คืนนี้ไม่ต้องอ่านหรอก”

อวิ๋นหลิงไม่รู้ว่าช่วงนี้นางอ่านหนังสืออะไรอยู่ จึงหยิบเล่มที่อ่านซ้ำๆ มาให้ก็เป็นไปได้

กู้ฉางเซินถอนใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย ดูจากท่าทางหลิวฉิงแล้ว คงไม่รู้ว่ามีหนังสือต้องห้ามแทรกอยู่ข้างใน

เขาไม่แน่ใจว่ายังมีหนังสือที่อ่านไม่ได้อีกกี่เล่มอยู่ในกองหนังสือนี้ จึงแก้ตัวด้วยการหอบหนังสือทั้งหมดกลับไปที่ห้อง จากนั้นจึงตรวจสอบทีละเล่มอย่างละเอียด สุดท้ายก็เลือกเจ้าตัวปัญหาออกมาได้สามเล่ม

ชั่งใจครู่หนึ่ง กู้ฉางเซินก็หยิบหนังสือพวกนี้ไปหาเซียวปี้เฉิง

“สหายกู้ เหตุใดวันนี้จึงว่างมาหาข้าได้เล่า”

กู้ฉางเซินแสดงความกังวลอย่างสุภาพก่อนว่า “ช่วงนี้เจ้าคงยุ่งมากสิท่า ไม่ค่อยเห็นเจ้ากลับบ้านกลับช่องสักเท่าใด”

เซียวปี้เฉิงเพิ่งกลับมาถึงจวน หน้าผากยังมีเหงื่อบางๆ ผุดพรายไม่จางหาย

“ใช่ เรือนทองคำกำลังก่อสร้าง หลิงเอ๋อร์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนัก ข้าจะทำสะเพร่าไม่ได้อยู่แล้ว ย่อมต้องเฝ้าดูบ่าวไพร่ใต้อาณัติทำงานถึงจะเบาใจ”

การสร้างห้องสมุดสักหลังไม่ใช่สักแต่พูดอย่างเดียว

อวิ๋นหลิงเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับห้องสมุด แต่นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสำนักศึกษาตงหลีเลย

ดังนั้นภาพวาดการก่อสร้างอาคารจึงได้ข้อสรุป หลังจากเซียวปี้เฉิงเรียกพวกองค์ชายห้ามาปรึกษาหารือกับจักรพรรดิจาวเหรินสองสามคืนในพระราชวัง

เขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับภาพวาดมากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จอย่างราบรื่น หมู่นี้เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลและตรวจสอบงานในสำนักศึกษาตงหลี

ตอนที่กุลีกุจอกับงานในมือ บางครั้งไม่ได้กลับจวนสองคืนติดต่อกันก็มี

“ช่วงนี้ยากลำบากหน่อยนะ” กู้ฉางเซินผงกศีรษะเป็นเชิงบอกเขา แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “แต่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ก็ควรเจียดเวลามาอยู่กับน้องสามให้มากบ้าง”

“ขอบคุณสหายกู้ที่เป็นห่วง”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย กู้ฉางเซินมาที่นี่เพียงเพื่อบอกเขาเรื่องแค่นี้เองหรือ

อวิ๋นหลิงเป็นสตรีที่แสดงความรู้สึกตรงไปตรงมา ปกติแล้วหากนางคิดถึงเขาจริงๆ ก็จะแสดงออกผ่านการกระทำโดยตรง แต่เห็นชัดว่าพักนี้อีกฝ่ายยุ่งเสียจนไม่มีเวลาจะสนใจเขา

กู้ฉางเซินครุ่นคิดใช้คำครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วันนี้น้องสามส่งหนังสือไปให้หลิวฉิงหลายเล่ม ข้าคาดเดาว่านางอาจจะหยิบเล่มผิดเนื่องจากเลินเล่อไปชั่วขณะ ก็เลยเอามาส่งให้เจ้า”

เขาวางหนังสือลงบนโต๊ะ นิ่งไปอึดใจก่อนเอ่ยช้าๆ สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย

“นอกจากเจียดเวลาอยู่กับนางยามค่ำคืนให้มากขึ้นแล้ว เจ้ายังต้องกำชับนางว่า อย่าลืมทบทวนบทเรียนที่เรียนก่อนหน้านี้ นางยังสอบไม่ผ่าน ตอนนี้จะละเลยไม่ได้ ต้องใช้เวลาจริงจังกับเรื่องสำคัญให้มากหน่อย”

ความหมายโดยนัยของถ้อยคำนี้มิได้หมายความว่าอวิ๋นหลิงไม่เอาถ่าน?

เซียวปี้เฉิงฟังแล้วรู้สึกสับสน ก็ได้แต่พยักหน้ารับคำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ