พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 453

เฉียงเวยยิ้มอย่างเอาแต่ใจ “มีพระชายาคอยช่วยเหลือข้าอย่างเต็มที่เช่นนี้ ถ้าหากยังจับเขาไม่ได้ ข้าก็ไม่มีหน้าพบท่านแล้ว”

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกเรือน ต่างคนต่างก็ปรับสีหน้าให้เรียบร้อยทันที

“เจ๋อเฟิง เจ้ากลับมาแล้วหรือ”

เจ๋อเฟิงเข้ามาเห็นอวิ๋นหลิง ทำการคำนับ สายตาเหลือบไปมองหนังสือที่ถูกพลิกดูและวางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะ

ไม่ง่ายกว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ลงมาได้ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว เอ่ยอย่างกระดากอาย “พระชายา คือว่า......หนังสือพวกนั้น......ประเดี๋ยวข้าจะรีบเอาไปทำลายด้วยตนเองทันที”

“หนังสือต้องห้ามเหล่านี้มอบให้ข้าจัดการดีกว่า คนบริจาคหนังสือมีเยอะมาก พวกเราก็ซื้อหากันตามอำเภอใจ เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีหนังสือต้องห้ามเหล่านี้ปะปนเข้ามาด้วย”

อวิ๋นหลิงหยุดไปชั่วครู่ กำชับพวกเขาอย่างจริงจัง

“เจ๋อเฟิง เจ้ากับเฉียงเวยต้องเปิดอ่านทุกหน้าให้ละเอียดเชียว อย่าได้ตกหล่นอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นหากหนังสือเหล่านี้หลุดเข้าไปในห้องสมุด กระทบต่อสุขภาพและจิตใจของประชาชนอย่างรุนแรงจะไม่ดี”

เยี่ยเจ๋อเฟิงอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองเฉียงเวยแวบหนึ่ง รู้สึกแค่หวาดกลัวและกังวลมาก และรู้สึกหมดอาลัยตายอยากอยู่บ้าง

แต่เขาไม่เคยขัดคำสั่งของอวิ๋นหลิงเลย ดังนั้นจึงได้แต่พยักหน้า

“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”

หลังจากนั้นเยี่ยเจ๋อเฟิงก็ก้มหน้าไม่พูดจา นำเอาหนังสือต้องห้ามที่ตรวจพบออกมาวางไว้ในกล่องแยกต่างหากด้วยใบหูที่ร้อนผ่าว

อวิ๋นหลิงเรียกลู่ฉีมา นำเอาหนังสือต้องห้ามเหล่านี้ออกไป ในห้องจึงเหลือแค่เยี่ยเจ๋อเฟิงกับเฉียงเวย

เยี่ยเจ๋อเฟิงไม่เคยรู้สึกไม่เป็นตนเองเช่นนี้มาก่อน ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร สายตาก็ไม่รู้ว่าควรจะมองไปทางไหนดี

จึงทำตามคำสั่งของอวิ๋นหลิง ก้มหน้าก้มตาตรวจดูเนื้อหาในหนังสือ หลังจากนั้นยิ่งอ่านหูก็ยิ่งแดง

อีกทั้งเฉียงเวยยังคอยาคุยกับเขาอยู่เป็นระยะ เหมือนตั้งใจจะเข้าใกล้เข้า สมองของเยี่ยเจ๋อเฟิงเชื่องช้าลงอย่างกะทันหัน

ได้แต่ใช้หางตาเหลือบมอง เขาก็สามารถมองเห็นใบหน้าที่สวยงามของเฉียงเวยได้ พอเก็บสายตากลับมา ในดวงตาก็เต็มไปด้วยตัวอักษรที่ไม่อาจจะพรรณนาได้

ดังนั้นจึงใช้เวลาช่วงบ่ายด้วยความทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ เกลียดที่ตนเองทำไมไม่เป็นคนไม่รู้หนังสือ

......

หลังจากที่อวิ๋นหลิงนำเอาหนังสือต้องห้ามที่คัดเลือกออกไปแล้ว ก็เดินไปยังทิศทางของเรือนหลันชิง

หนังสือเหล่านี้เป็นของล้ำค่า โยนทิ้งไปก็น่าเสียดายมาก ของดีย่อมต้องแบ่งปันกับทุกคน

อวิ๋นหลิงนำกล่องหนังสือต้องห้ามซ่อนเอาไว้ที่ใต้เตียงของตนเอง จากนั้นก็เลือกออกมาสองสามเล่ม พุ่งตรงไปยังห้องคนป่วยด้วยความตื่นเต้น

“พี่ฉิงพี่ฉิง ฉันมีของล้ำค่าให้พี่ดู”

ขาของหลิวฉิงเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก ไม่รู้ว่านอนอยู่บนเตียงนานแค่ไหนแล้ว ตอนนี้ใบหน้าสงบนิ่งเฉยชาราวกับมองโลกได้อย่างถ่องแท้และรู้เท่าทันโลกิยะแล้ว

“มีหนังสือเล่มใหม่หรือ”

ในยุคสมัยนี้ไม่มีมือถือและโทรทัศน์ ขาดแคลนความบันเทิงจนน่าสงสาร

บวกกับหลายวันมานี้กู้ฉางเซินก็เอาแต่ช่วยอวิ๋นหลิงจัดการหนังสือ ไม่มีเวลามาอยู่กับนางทั้งวัน ไม่สามารถมาอ่านหนังสือฆ่าเวลาให้นางฟัง

แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะให้คนส่งหนังสือบทละครพื้นบ้านมาให้ แต่หลิวฉิงรู้สึกว่าการที่ตนเองอ่านไม่สนุก ไม่สู้กู้ฉางเซินมาอ่านให้นางฟังเอง

อวิ๋นหลิงกดเสียงลงต่ำ เขยิบเข้าไปใกล้นางและพูดข้างหู “เป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจของเฉียงเวย พวกนี้เป็นหนังสือต้องห้ามทั้งหมด พี่แอบดูอย่าให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ