เช้าวันถัดมา เวลาประชุมราชการเช้า จักรพรรดิจาวเหรินพูดปลอบประโลมคนตระกูลหลี่ด้วยใบหน้าสดใส
เพราะเรื่องที่เกิดบนถนนตะวันตกเอิกเกริกปานนั้น ดังนั้นชาวบ้านชาวช่องจึงรู้เรื่องของหลี่เมิ่งเอ๋อร์กันหมดแล้ว
หัวใจหวาดวิตกของเสนาบดีขวาหลี่คลายลง เดิมทีเขาคิดว่าหลี่เมิ่งเอ๋อร์พูดจากเหยียดหยามรุ่ยอ๋อง จักรพรรดิจาวเหรินจะไม่พอพระทัย
ไม่คิดว่าเจ้าอยู่หัวผู้นี้จะไม่เอ่ยถึงรุ่ยอ๋องสักคำ ทางกลับกันยังปลอบใจตระกูลหลี่ด้วย
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เห็นใจ หลานสาวของกระหม่อมไม่เป็นอะไรมากพ่ะย่ะค่ะ”
ดูเหมือนตำแหน่งพระชายารองรัชทายาทยังมีหวัง เสนาบดีขวาหลี่แอบดีใจ อดมองไปยังเสนาบดีซ้ายเฟิงอย่างลำพองใจไม่ได้
หลังเลิกประชุม เขาก็พูดเนิบๆว่า “โชคลาภมักจะหมุนเวียนกันไปจริงๆ อดีตตระกูลเฟิงหมายปองตำแหน่งฮองเฮาสูง ยามนี้กลับตกอับถึงขั้นไม่ได้ร่วมเป็นทองแผ่นเดียวกันกับราชวงศ์ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้เสนาบดีขวาจะมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ เช่นนั้นข้าก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าแล้วกัน”
เสนาบดีซ้ายเฟิงสีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านกับคำโอ้อวดและเหน็บแนม มีแต่แอบหัวเราะเยาะเงียบๆเท่านั้น
คิดว่าควบคุมตัวจิ้งอ๋องง่ายเพียงนั้นหรือ?
ก่อนหน้านี้เฟิงจิ่งเหวยก็สรรหาสารพัดวิธีเพื่อเข้าจวนจิ้งอ๋อง แต่สุดท้ายจิ้งอ๋องเกือบจะเอาปืนไปยิงจวนสกุลเฟิงแล้ว บัดนี้เขาจึงไม่กล้าคาดหวังในด้านนี้แล้ว
อีกฝ่ายทั้งโง่ทั้งแก่ ตอนนี้ทำเป็นได้ใจ คอยดูเถอะต่อไปเจอดีแน่
หลังจากทั้งสองเฒ่าปะทะฝีปากกันสักพักก็แยกย้ายออกจากพระราชวัง
......
เซียวปี้เฉิงไปพระที่นั่งบำรุงฤทัยด้วยตัวเอง เพื่ออธิบายเรื่องเมื่อคืนให้กระจ่าง
จักรพรรดิจาวเหรินขมวดคิ้วมุ่น “นางก็แอบเข้ามาลับๆรึ?”
พวกศิษย์พี่ศิษย์น้องของเสียเจ้าสามชอบทำพิเรนทร์กันทุกราย
“ทูลเสด็จพ่อ ศิษย์น้องเล็กไม่อยากกลับแคว้นตงฉู่ หลิงเอ๋อร์จึงอยากดูท่าทีของแคว้นตงก่อน”
“ก็คงต้องทำเช่นนี้ สถานะนางพิเศษ ต้อนรับดีๆละ อย่าให้เกิดเรื่องใดๆขึ้น” จักรพรรดิจาวเหรินครุ่นคิดดูแล้วก็สั่งการว่า “พยายามอย่าให้นางปะทะกับคนตระกูลหลี่ ถ้าเผลอไปมีเรื่องเข้าก็อย่าให้นางโดนรังแก หาไม่แล้วข้าจะอธิบายกับแคว้นตงฉู่ยาก”
เป็นถึงชายารองรัชทายาทแห่งแคว้นตงฉู่ ใช่ว่าตระกูลหลี่จะล่วงเกินได้ง่าย
เซียวเปี้เฉิงพยักหน้า “เสด็จพ่อวางพระทัยได้ ลูกรู้จักประมาณพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อย้อนกลับมาดูเสวียนจี นางอยู่ในจวนจิ้งอ๋องอย่างเรียบร้อยตลอดสองวันที่ผ่านมา
ประการแรกเพราะมีอวิ๋นหลิงกับหลิวฉิงคอยคุมเป็นอย่างดี ประการที่สองเพราะงานตั้งแต่รัชทายาทใกล้จะมาถึงแล้ว ประการที่สามเพราะด้านนอกตามล่าตัวนางอยู่ ฉะนั้นจึงออกจากจวนไม่ได้
เสวียนจีกลัวสร้างปัญหาให้อวิ๋นหลิงกับพี่เขย จึงเชื่อฟังอย่างหาได้ยาก
ทว่าเพิ่งผ่านไปสองวัน นางก็ตีสนิทกับทุกคนในจวนจิ้งอ๋องได้แล้ว ทั้งยังเรียกพี่เรียกน้องกับคนสำนักทิงเสวี่ยอีกด้วย
นอกจากน้องชายที่ชื่อสื่อจิ่วแล้ว ผู้ที่เสวียนจีคลุกคลีมากที่สุดเห็นจะเป็นกงจื่อโยวแล้ว
ปกติเซียวปี้เฉิงจะยุ่งมาก กอปรกับพี่เขยสามชอบทำหน้าเย็นชาบึ้งตึงตลอดเวลา ราวกับเป็นเทพอสูรก็ไม่ปาน ทำให้นางไม่กล้าก่อเหตุ
ท่าทางของกู้ฉางเซินอ่อนโยน ทว่าเสวียนจีพบว่าเขาเป็นคนเข้มงวดยิ่งกว่าเซียวปี้เฉิงเสียอีก ชวนให้นางนึกถึงผู้อำนวยการศูนย์วิจัยที่เอะอะก็จะวิจารณ์และคอยตักเตือนไม่หยุด
หลังจากเสวียนจีมีปฏิสัมพันธ์กับทุกคนแล้ว พบว่าทุกคนล้วนเหมือนผู้ปกครองที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชนางอยู่ มีเพียงกงจื่อโยวที่ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายบ้าง
กงจื่อโยวยิ้มถาม “เด็กน้อย ไยเจ้าชอบมาหาข้าจัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...