เสวียนจียืนหยัดอย่างหนักแน่นมาโดยตลอดว่า การระเบิดสิ่งของเป็นศิลปะที่โรแมนติกอย่างหนึ่ง
ก็เหมือนหลงเย่หมกมุ่นกับการวิจัยทักษะการสะกดจิต อวิ๋นหลิงชอบสมุนไพรและยาพิษ ส่วนหลิวฉิงหลงใหลอาวุธและวิชาการต่อสู้ยุคโบราณมาก ส่วนนางก็ชอบเรื่องระเบิดเป็นชีวิตจิตใจ
ชาติที่แล้วตอนเสวียนจีอยู่ในองค์กร นางเกลียดอาวุธไร้เสียงที่สุด
นางชอบเสียงดังกึกก้องที่กระตุ้นแก้วหูกับโสตประสาทที่สุด จะรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจเมื่อเห็นเพลิงไฟพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า
ระหว่างที่นักวิจัยอื่นคิดสุดชีวิตว่าควรออกแบบให้อาวุธเก็บเสียงและเป็นรูปทรงที่คนอื่นดูไม่ออกอย่างไรอยู่นั้น นางกลับทำตรงกันข้าม
ไม่เพียงแต่ยิ่งเสียงดังยิ่งดี แค่เสียงระเบิดอันดังสนั่นหวั่นไหวนางยังไม่พอใจ นางอยากให้เกิดภาพลวงตาประกอบด้วย
ก็เหมือนโลกของเด็กต้องคึกคักมีสีสัน ดังนั้นโลกมายากลของแม่สาวน้อยจะต้องโดดเด่นกว่าผู้อื่น
ปืนสีชมพูหวานแหววเมื่อยิงแล้วเกิดเสียงเหมียวๆก็ถูกสร้างขึ้นด้วยประการฉะนี้
แต่ความคิดเห็นของหลิวฉิงคือ “ถ้าเวลาพวกเราออกไปปฏิบัติภารกิจแล้วโดนเปิดเผยสถานะ งั้นก็ต้องเป็นเพราะเธอ”
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่พวกนางไปปฏิบัติภารกิจแถวชายแดน พวกนางแอบแฝงตัวเข้าค่ายพ่อค้ายาเสพติด อวิ๋นหลิงทำหน้าที่ปล่อยอาวุธเคมีที่เป็นลูกอาบยาพิษ
อวิ๋นหลิงกับเสวีนจีเป็นคนประดิษฐ์ลูกอาบยาพิษขึ้นมาเอง เป็นหนูแฮมสเตอร์รูปทรงกลม ขนสีเทา
เสวียนจีจะเป็นคนออกแบบอาวุธภายนอก ส่วนอวิ๋นหลิงก็ผลิตยาพิษทางเคมีขึ้นมา
ใครจะไปคิด ตอนกดปุ่ม หนูแฮมสเตอร์สีเทากลับกระโดดไปเอย ดวงตาฉายแสงหลากสีออกมา ทั้งยังร้องเพลงเด็กอย่างสนุกสนามอีกด้วย
จากนั้นยาพิษผงสีชมพูก็พ่นออกจากก้นหนูแฮมสเตอร์ ชวนให้คนแยกแยะไม่ออกว่าตกลงอยู่ในบาร์ที่แสนอันตรายหรืออยู่ในสวนสนุกกันแน่
ภารกิจครั้งนั้นเกือบล้มเหลว สาเหตุหลักเป็นเพราะแสงที่ฉายออกจากดวงตาหนูแฮมสเตอร์แยงตา ทำให้เวลาหลิวฉิงยิงศัตรูต้องพลาดเป้าไปหลายครั้ง
หลังจากครั้งนั้น ทุกครั้งก่อนออกปฏิบัติการ หลงเย่จะตรวจอาวุธก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เช็ดให้มั่นใจว่าไม่มีของประหลาดปะปนเข้าไป
หลังจากที่ทะลุมิติมายังโลกแห่งนี้ เสวียนจีก็สูญเสียความลุ้นระทึกที่เป็นความสุขในชีวิตไป
เพราะเทคโนโลยีของยุคนี้ล้าหลังกว่าศตวรรษที่ยี่สิบสาม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาวุธทันสมัยต่างๆเลย แม้แต่ปืนคาบศิลาที่ชาวต่างชาติผลิตขึ้นก็ยังเป็นรุ่นแรกอยู่เลย
นางคิดจะผลิตปืนใหญ่เพื่อเรียกความสุขที่หายไปกลับมา นางจะได้เพลิดเพลินกับงานระเบิดอันเป็นที่รักอีกครั้ง
สองปีมานี้ชาวตงฉู่กับชาวญี่ปุ่นเกิดความขัดแย้งหนักขึ้นเรื่อย ๆ การรบทางทะเลก็มีบ่อยขึ้น จึงเป็นโอกาสทองที่นางจะผลิตปืนใหญ่ขึ้นมา
เสียดายที่ชาวแคว้นตงฉู่ทำการค้าเก่งอย่างเดียว ไม่ถนัดด้านอุตสาหกรรม ยิ่งฝีมือการรบนั้นยิ่งแย่จนดูไม่ได้
มีสมองซะเปล่า แต่กลับไร้ความประดิษย์ของสำคัญขึ้นมาได้
รัชทายาทแห่งแคว้นตงฉู่พบว่านอกจากสิ้นเปลืองเงินทองแล้วก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อันใด จึงยุติการร่วมมือกับเสวียนจี หลังจากนั้นนางก็เสียเงินสนับสนุนไป
สาเหตุที่นางหนีออกมาอย่างไม่ลังเล เพราะต้องการรวมตัวกับพวกอวิ๋นหลิง และเป็นเพราะแคว้นต้าโจวเป็นผู้นำด้านการผลิตอาวุธซึ่งเป็นสถานที่สานฝันของนางได้
หลังจากที่เสวียนจีได้ป้ายประกาศิตดำของสำนักทิงเสวี่ยแล้ว นางก็จะใช้งานลูกน้องในสำนักอย่างไม่เกรงใจ
“พี่เขยใหญ่ งานแต่งตั้งรัชทายาทเหลือไม่ถึงเดือนแล้ว ท่านต้องรีบให้ช่างเหล็กกับช่างไม้ผลิตสิ่งของตามรูปวาดนี้ออกมาให้ทันนะ”
กงจื่อโยวรับภาพวาดมา เลิกคิ้วถามว่า “วาดรูปอะไรอยู่รึ?”
“ฮ่าๆๆ...การแสดงดอกไม้ไฟด้วยปืนใหญ่ แค่เอาดอกไม้ไฟไว้ในนี้ มันก็จะยิงดอกไม้ไฟขึ้นบนท้องฟ้า พี่เขยใหญ่ต้องช่วยข้าเก็บเป็นความลับนะ ให้พวกศิษย์พี่สามรู้ไม่ได้ ไม่งั้นก็จะไม่เซอร์ไพรส์แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...