นอกจากความอิ่มเอมใจระคนตื่นเต้นแล้ว กงจื่อโยวยังรู้สึกว้าวุ่นใจเหลือแสนอีกด้วย
หลังจากข่มตาไม่หลับมาสองคืนติดต่อกัน เขาก็มาหาอวิ๋นหลิงที่ตำหนักบูรพาพร้อมรอยคล้ำใต้ตาสองข้าง
อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้มตาหยีกล่าวทักทายเขา “ไงแขกที่นานๆ มาครั้ง! วันนี้ลมอะไรหอบท่านมาเป็นแขกที่บ้านข้าได้”
นับตั้งแต่เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นจินอ๋อง กงจื่อโยวก็ก้มหน้าก้มตาปรับปรุงจวนจินอ๋องทุกวัน จึงไม่ได้พบเขามาหลายวันแล้ว
กงจื่อโยวพรูลมหายใจยาว ตอบด้วยสีหน้าอมทุกข์ “ข้ากระสับกระส่าย นอนไม่หลับมาสองวันแล้ว”
“เป็นเพราะหลงเย่กำลังจะมา ก็เลยตื่นเต้นเกินไปหรือเปล่า” อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงติดตลก “ท่านมาหาข้าทำไม หรือว่าอยากให้ข้าช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ?”
กงจื่อโยวรับน้ำผลไม้ที่นางรินมาให้ นี่เป็นรสชาติสุดโปรดของเขาเลยในยามปกติ แต่ตอนนี้เขาหดหู่จนดื่มไม่ลง
“ไม่ต้องหรอก นี่ข้ากินยามาสองวันแล้วก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี”
เขาส่ายหน้า คล้ายมีอะไรจะพูดก่อนเอ่ยถาม “ข้ามาที่นี่เพื่อถามว่าความสามารถอ่านใจของหลงเอ๋อร์...ใช้ได้ผลกับทุกคนหรือไม่ แล้วมีวิธีใดจะป้องกันได้หรือเปล่า”
อวิ๋นหลิงหรี่ตาลง ตอบเสียงนุ่มทุ้ม “ตามทฤษฎีแล้ว ขอเพียงอยู่ในระยะที่ใกล้พอประมาณ จะใช้ได้ผลกับคนธรรมดาทั่วไป แต่อ่านใจผู้ที่มีพลังจิตได้ยากมาก เว้นเสียแต่ว่าพลังจิตของอีกฝ่ายจะอ่อนกว่าของหลงเย่มากนัก”
การอ่านใจเป็นความสามารถเหนือธรรมชาติที่ได้มาจากพลังจิต พลังแบบนี้ย่อมขัดขวางการอ่านใจได้อยู่แล้ว
แน่นอนว่าบังคับอ่านความคิดของผู้มีพลังจิตได้ แต่จะค่อนข้างลำบาก ฉะนั้นการอ่านใจคนธรรมดาจะง่ายกว่า
หลังจากทำความคุ้นเคยกับแม่สาวน้อยเสวียนจีแล้ว กงจื่อโยวก็ล่วงรู้ความลับของพี่น้องสี่สาวมาคร่าวๆ บางส่วน ถึงแม้จะฟังคำแปลกๆ ไม่รู้เรื่องอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางจนเขาไม่เข้าใจความหมายของคำเหล่านั้น
“นั่นก็หมายความว่าถ้าอยากป้องกันการอ่านใจของหลงเย่ ข้าจะต้องมีพลังจิตอย่างพวกท่านก่อนใช่หรือไม่”
คิดได้ดังนี้ กงจื่อโยวพลันฉายแววสีหน้าขมขื่น เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาที่อ่อนแอและหน้าหวาน แล้วจะไปมีพลังพิเศษเช่นนั้นได้อย่างไรกันเล่า
เวลานี้เซียวปี้เฉิงกลับมาถึงตำหนักบูรพาพอดี เขาพลันบังเกิดความคิดในใจ ก้าวเข้าไปโอบไหล่ของอีกฝ่ายด้วยสายตาทอประกายเจิดจ้าทันที
“สหาย ท่านมีพลังจิตได้อย่างไร ช่วยสอนข้าทีได้หรือไม่”
กงจื่อโยวมองเซียวปี้เฉิงด้วยตาละห้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เซียวปี้เฉิงจับต้นชนปลายไม่ถูก “เหตุใดจู่ๆ ท่านถึงถามเรื่องนี้”
“เลิกถามอะไรมากมายได้แล้ว สอนข้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
เซียวปี้เฉิงส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน หลิงเอ๋อร์บอกว่าข้าเองก็เป็นผู้มีพลังจิตซ่อนอยู่ เพราะตอนที่นางรักษาดวงตาข้านั้น ได้กระตุ้นเยื่อหุ้มสมองกับเส้นประสาทของข้า บังเอิญทำให้ข้าไปปลุกพลังนี้ตื่นขึ้นมา แต่เราสองคนแค่คาดเดาเฉยๆ ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดหรอก”
อวิ๋นหลิงเล่าว่าในชาติก่อนองค์กรของพวกนางทำวิจัยและสำรวจพลังจิตอยู่ในขั้นเริ่มต้น ยังไม่อาจเข้าใจความลับของมันได้อย่างถ่องแท้
จู่ๆ กงจื่อโยวก็ก้มหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก “จบกันๆ มันจบลงแล้ว...ไยเทวดาจึงไม่ประทานพลังจิตให้ข้าบ้าง”
เซียวปี้เฉิงไม่รู้ว่าเหตุใดกงจื่อโยวจึงนึกถึงพลังพิเศษนี้ขึ้นมากะทันหัน แม้เขาจะไม่มีพลังจิต แต่เขามีเงินมหาศาลนี่นา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...