เฟิงอู๋จีกระแอมเบาๆ คราหนึ่ง “ฮั่นม่อก็เหมือนกับศิษย์ ชื่นชมพระชายารัชทายาทมานานแล้ว”
ก่อนหน้านี้สมัยที่โม่อ๋องยังเป็นองค์ชายห้า เขาสนใจภาพวาดดินสอของอวิ๋นหลิงเป็นอย่างมาก ถึงขนาดตั้งใจมาศึกษาถึงจวนจิ้งอ๋องอยู่พักหนึ่ง
ต่อมางานฝึกวาดและภาพร่างเก่าๆ รั่วไหลออกมาจำนวนมาก กู้ฮั่นม่อก็ได้รับภาพวาดบางส่วนมาโดยบังเอิญ
เขาสนใจวิธีวาดภาพอันเป็นเอกลักษณ์นี้มาก จึงสังเกตภาพร่างเก่าๆ ขององค์ชายห้า แล้วเขาก็ค้นพบวิธีวาดภาพบางอย่างได้ด้วยตนเอง จากนั้นค่อยๆ ใช้ดินสอวาดออกมาเป็นรูปภาพจนได้
ครั้งก่อนที่รุ่ยอ๋องเกิดวิวาทกับจางอวี้ซู กู้ฮั่นม่อได้สัมผัสใกล้ชิดกับอวิ๋นหลิงเป็นครั้งแรก เขาจึงจดจำลักษณะท่าทางของนางไว้ ก่อนบรรจงวาดออกมาเป็นภาพได้สองสามภาพ
พอเฟิงอู๋จีเห็นม้วนภาพแขวนอยู่ในห้องของเขา ในใจก็แทบจะอดทนไม่ไหว จึงเอาวันเกิดมาอ้างขอภาพวาดมาใบหนึ่ง
สีหน้าของเซียวปี้เฉิงเปลี่ยนไปหลายอารมณ์ทีเดียว สุดท้ายก็กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “วาดได้ดี แต่ต่อไปอย่าวาดอีก”
“หากพวกเจ้าสนใจวาดภาพดินสอ ภายหน้าสำนักศึกษาจะพิจารณาเปิดสอนเป็นวิชาเลือก อยากวาดอะไรก็ได้ แต่ห้ามวาดภาพหลิงเอ๋อร์อีก”
เฟิงอู๋จีรีบพยักหน้า “ศิษย์เข้าใจแล้ว เป็นความผิดของศิษย์เอง”
เทียบกับตุ๊กตาดินเผาแล้ว ภาพวาดนั้นดูเกินไปจริงๆ หากแพร่งพรายออกไปมีหวังถูกเอาไปนินทาได้ง่ายๆ
หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีพบเข้า จะพลอยเกิดปัญหาที่ไม่ควรเกิดแก่ทั้งสองฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
เซียวปี้เฉิงเหลือบมองข้าวของที่อยู่ในหีบ แล้วรู้สึกว้าวุ่นใจยิ่งนัก
เขารู้สึกยินดีและดีใจที่ชายาได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ถึงเพียงนี้ แต่ภาพวาดและตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ทำให้เขาค่อนข้างอึดอัดอยู่ทีเดียว
“ข้าจะริบภาพนี้ไป ส่วนพวกตุ๊กตาดินเผาที่เหลือข้าจะไม่ยุ่ง เจ้าเก็บไว้เองแล้วกัน”
สายตาของเฟิงอู๋จีจ้องมองไปที่ม้วนภาพ อาลัยอาวรณ์เล็กน้อย แต่มิกล้าเอ่ยปากขัดขืน ทำได้เพียงผงกศีรษะ
เซียวปี้เฉิงม้วนภาพเก็บเรียบร้อย ชั่งใจครู่หนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้...เก็บไว้เป็นคู่จะดีกว่า หากเจ้ามีเวลาว่างก็ไปหาช่างปั้นดินเผาให้ทำเป็นรูปข้าสักหลายๆ ตัวเอามาวางประกบเข้าด้วยกัน ข้าจะจ่ายเงินให้เอง”
เก็บสะสมและชื่นชมตุ๊กตาดินเผาของพวกเขาสามีภรรยานั้นได้ แต่จะดูแค่ของชายาเขาเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้
มิฉะนั้นเขาจะเอาแต่รู้สึกว่าที่ไหนๆ ก็ดูไม่เหมาะไม่ควรไปเสียหมด ในใจจะรู้สึกแปลกๆ
เฟิงอู๋จี “...ศิษย์น้อมรับพระบัญชา”
จากนั้นเขาก็น้อมส่งเซียวปี้เฉิงด้วยความเคารพไปถึงหน้าประตูจวนเฟิง หลังจากเห็นอีกฝ่ายเอาม้วนภาพออกไป ในใจก็พรูลมหายใจยาว
ภาพวาดใบนั้นเป็นภาพที่ดีที่สุดที่กู้ฮั่นม่อวาด เขารบเร้าขอกู้ฮั่นม่ออยู่พักหนึ่ง ก่อนอีกฝ่ายจะยอมใจอ่อนมอบให้เขา
เขากับกู้ฮั่นม่อเป็นสหายร่วมสำนักที่สำนักศึกษาเป่ยลู่มาสองปี ตอนแรกก็เป็นเพียงคนรู้จัก ต่อมาโชคชะตาฟ้าลิขิตกลายเป็นสหายสนิทกันเพราะอวิ๋นหลิง
สำนักศึกษาเป่ยลู่ส่วนใหญ่เป็นบุตรหลานตระกูลขุนนางอย่างตระกูลเฟิงกับตระกูลหลี่ ในสถานที่เช่นนี้ ยากนักจะได้พบกับผู้ที่ชื่นชมอวิ๋นหลิงเหมือนกัน
......
เมื่อเซียวปี้เฉิงกลับถึงตำหนักบูรพา ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
“เหตุใดกลับมาดึกขนาดนี้ เฟิงอู๋จีล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...