สีหน้าของเฟิงอู๋จีตึงเครียดเล็กน้อย มึนงงจนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ในใจรู้สึกสับสนอยู่บ้าง
ถึงแม้คนในโลกต่างมีคนที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ผู้คนในยุคสมัยนี้กลับสงวนท่าทีมากนัก มักจะเขียนบทกวีสรรเสริญอีกฝ่ายก็เป็นเรื่องที่พบเห็นอยู่บ่อยๆ การเก็บรวบรวมภาพของอีกฝ่ายก็ถือเป็นการกระทำที่กล้าหาญเช่นกัน
พระชายารัชทายาทมีผู้ติดตามในเมืองหลวงล้นหลาม ผู้คนจำนวนมากล้วนชอบซื้อเครื่องเขียนที่พิมพ์ลายดอกไม้สี่แฉก
แต่ไม่มีอะไรหรอก ผู้คนก็ไม่ได้อวดโอ่ข้าวของเหล่านี้มากนัก
ยามปกติเมื่อเห็นดอกไม้สี่แฉกอยู่บนข้าวของที่พกติดตัวของกันและกัน ก็มักจะมองหน้ากันยิ้มๆ อย่างรู้ใจกัน แต่ไม่เอ่ยออกมา
แต่การสะสมตุ๊กตาดินเผาเช่นนี้ จะใช้คำว่าคลั่งไคล้มาบรรยายไม่ได้แล้ว ใครเห็นต่างก็อุทานในใจว่าเป็นพฤติกรรมที่ ‘วิปริต’
สิ่งที่เขาซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเรื่อยมาดันมาเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจเสียได้ เฟิงอู๋จีจึงต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน
จะอธิบายหรือไม่อธิบายดีนะ?
ถ้าอธิบายจะถือว่าเป็นคนแปลกประหลาด แต่ถ้าไม่อธิบาย รัชทายาทจะ...
เฟิงอู๋จีลอบเหลือบมองเซียวปี้เฉิง เห็นอีกฝ่ายยังตกอยู่ในห้วงภวังค์งุนงง
ขณะที่เขากำลังคิดสับสนวุ่นวาย บรรดาเด็กรับใช้ก็ลุกขึ้น ขอขมาด้วยความตื่นตระหนกระรัว
“ล้วนเป็นความผิดของผู้น้อยเองที่ซุ่มซ่าม คุณชายรองโปรดอภัย!”
พูดจบ พวกเขากำลังจะไปเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายเหล่านั้น
เฟิงอู๋จีรีบตะโกน “ไม่ต้องหรอก ข้าทำเอง!”
เซียวปี้เฉิงเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่มาสักพักแล้ว ก่อนสายตาจะเลื่อนไปยังข้าวของชิ้นอื่นที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นโดยไม่รู้ตัว
เขาสายตาดีมาก อาศัยแสงโคมไฟจนมองเห็นได้ชัดเจนท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสลัวยามโพล้เพล้
ทั้งซองจดหมาย ที่ใส่ปากกา ที่ทับกระดาษ ที่คั่นหนังสือ...จี้ห้อยพัด ถ้วยชาเล็กๆ ที่หักครึ่ง...
ทั้งหมดดูเป็นของธรรมดา แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาก็คือเขาจะพบลายดอกไม้สี่แฉกบนของเหล่านั้นด้วย
รวมทั้งมีตุ๊กตาดินเผาแบบเดียวกับในมือเขามากกว่าหนึ่งตัว และยังมีอีกหลายตัวที่สวมกระโปรงสีครามและสีเหลืองอมชมพู...
บ้างถือปากกา บ้างถือดอกไม้ บ้างถือตะกร้าผลไม้ ดูเสมือนจริง และประณีตวิจิตรงดงามอย่างยิ่ง
สิ่งที่แปลกที่สุดคือมีม้วนภาพที่กลิ้งคลี่กางออกมาครึ่งหนึ่งเป็นรูปอวิ๋นหลิงอย่างชัดเจน!
เหตุที่เซียวปี้เฉิงจำได้ก็เพราะเขาคุ้นเคยกับวิธีวาดภาพแบบนั้นเป็นอย่างดี เห็นชัดว่าเป็นแบบร่างภาพที่อวิ๋นหลิงใช้ตอนทำดินสอ!
ขณะนี้ นอกจากรูม่านตาของเซียวปี้เฉิงที่สั่นไหวแล้ว ใบหน้าก็เริ่มเขียวคล้ำขึ้นมา
เขารีบหยิบม้วนภาพขึ้นมาม้วนเก็บ แล้วกดไหล่ของเฟิงอู๋จีไว้
“เจ้า เดี๋ยวไปดื่มชากับข้าตามลำพัง”
ฟังเสียงอันน่าครั่นคร้ามนั้น เฟิงอู๋จีก็รู้สึกมึนชาไปทั้งตัว ฝืนใจเอ่ยว่า “ศิษย์น้อมรับพระบัญชา”
พวกเด็กรับใช้ยกหีบมา เฟิงอู๋จีก็รีบใส่ของทั้งหมดวางลงไปแล้วปิดดัง ‘ปัง’
ลานบ้านใหม่ได้รับการเก็บกวาดอย่างสะอาดสะอ้าน เตรียมเครื่องเรือนใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากวางหีบลง พวกเด็กรับใช้ก็ถอยออกไปอย่างรู้ความ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...