พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 597

“แค่กๆ จริงๆ แล้วข้าพาเด็กสาวผู้นี้มาขอขมาท่าน วันนี้นางทำท่านตกน้ำ สมควรถูกลงโทษ ข้ามอบนางให้ท่านแล้ว สุดแท้แต่ท่านจะลงทัณฑ์เลย!”

อย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็ทนทายาดยิ่งนัก

จากนั้นเฟิ่งเหมียนก็หลุบสายตาที่ซับซ้อนลง ก่อนเบือนหน้าหนีไปเล็กน้อย “กระหม่อมซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระชายารัชทายาท คงไม่ต้องถึงกับขอขมาหรอก”

อีกฝ่ายโมโหอย่างเห็นได้ชัด อวิ๋นหลิงจึงรีบสะกิดเอวของเสวียนจี

ฝ่ายหลังบิดตัวเหมือนหนอนผีเสื้อ จากนั้นก้าวเข้าไปอย่างยอมจำนนในชะตา เอ่ยอย่างหมดอาลัยตายอยาก “ขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว”

นางพูดประโยคนี้มาแล้วหากไม่ถึงหนึ่งหมื่นก็ต้องหนึ่งพันรอบ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสำนักกับคำว่าขอโทษเลยแม้แต่น้อย

เฟิ่งเหมียนตอบอย่างไร้ความรู้สึกว่า “พูดเช่นนี้ไม่มีประโยชน์หรอก หากพระชายารองไม่ยอมแก้ไขตัวเอง ต่อให้ยอมรับผิดเป็นพันครั้งหรือถูกลงโทษเป็นหมื่นครั้ง ก็ป่วยการเปล่า”

ถึงอย่างไรปากนางก็มักจะตะโกนว่าข้าผิดไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังกล้าทำอีก

หลายวันนี้เฟิ่งเหมียนไม่ได้ใช้คำว่า ‘พระชายารอง’ มาเรียกขานเสวียนจีเสียนาน

ประการแรก เป็นเพราะหวั่นจะกระทบถึงการรักษาความลับสถานะของนาง ประการที่สอง เสวียนจีเกลียดสถานะนี้จริงๆ

แต่วันนี้เขากลับเรียกขานนางอย่างเย็นชาและห่างเหินด้วยใบหน้าบึ้งตึง เสวียนจีก็รู้ว่าเฟิ่งเหมียนโกรธเข้าแล้วจริงๆ

ทันใดนั้นเสวียนจีก็หน้าเผือดสี เอ่ยทั้งน้ำตาว่า “อย่าโกรธนะ วันนี้ข้าไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งท่าน ข้าสาบานได้ว่าเป็นอุบัติเหตุแน่นอน! ท่านลองคิดดูอย่างจริงจังสิ ถ้าข้าตั้งใจแกล้งท่านละก็ ไยต้องทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วยเล่า”

นางมิใช่คนโง่

เฟิ่งเหมียนสูดหายใจเข้าลึกๆ กล่าวว่า “ดูท่าพระชายารองจะไม่รู้ว่าตนเองผิดตรงไหน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ขอขมาไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด โปรดกลับไปเสียเถิด”

ได้ยินเช่นนี้ เสวียนจีก็สะดุ้งโหยงเล็กน้อย มองเฟิ่งเหมียนด้วยแววตามึนงงเล็กน้อย

นางไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และก็ขอโทษอย่างจริงใจ ตามหลักแล้วนกโง่ก็ไม่ควรแสดงท่าทีเช่นนี้

เหตุใดจึงโกรธขึ้งขึ้นอีก

อวิ๋นหลิงมองทั้งสองอย่างครุ่นคิด พลันบังเกิดความคิดบางอย่างในใจ นางก็เข้าใจว่าเฟิ่งเหมียนหมายถึงอะไร

ไม่แปลกที่ชั่วครู่ต่อมา สายตาของเฟิ่งเหมียนก็กวาดมองไปตามเนื้อตามตัวของเสวียนจีที่พันผ้าพันแผลไว้ น้ำเสียงเยียบเย็นขึ้นหลายเท่า

“พระชายารองทำตัวประมาทเลินเล่อเช่นนี้ วันนี้ผู้ที่โดนหางเลขมีเพียงกระหม่อมก็แล้วไป หากไม่แก้ไขปรับปรุงตน ภายภาคหน้าก็จะก่อเรื่องมากยิ่งขึ้น เกรงว่าจะต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่านี้!”

ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป ในใจเขายังมีความกรุ่นโกรธที่มอดดับไม่หมดสิ้น

ทางชันที่สูงลาดเทเช่นนั้น เด็กสาวผู้นี้ถึงกับวิ่งตุปัดตุเป๋ลงไปอย่างไม่ไยดีเช่นนี้ นางถือว่าร่างกายและชีวิตของตนไม่มีค่าเลยหรืออย่างไร

วันนี้พุ่งชนสระบัวนับว่าโชคช่วยแล้ว ถ้าไปชนกำแพงวังหรือประตูใหญ่เข้าจะทำอย่างไรกัน

เสวียนจีรู้จักเฟิ่งเหมียนมานานแล้ว ทำให้อีกฝ่ายเดือดดาลจนเส้นเลือดปูนโปนก็เป็นเรื่องปกติ แต่เฟิ่งเหมียนไม่เคยพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน

เขาสั่งสอนนางบ่อยครั้ง บางครั้งก็สบถถ้อยคำรุนแรงบาดหู แต่ไม่เคยเผยความโกรธอย่างเย็นชาเหมือนที่ทำในยามนี้

หัวใจของเสวียนจีเต้นแรงตึกตัก จบกัน จบกัน คราวนี้ล่วงเกินนกโง่มากไปแล้ว

นั่นสินะ ในฐานะราชครู เฟิ่งเหมียนแทบจะเป็นหน้าเป็นตาของแคว้นตงฉู่ แต่ไรมาเขาก็ใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่ตอนนี้พังทลายไปหมดสิ้นแล้ว จะไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟสิแปลก

ครุ่นคิดพักหนึ่ง นัยน์ตาดุจวิฬาร์ของเสวียนจีพลันแดงก่ำ ย่นจมูกน้อยๆ เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

“ขอโทษที ข้าก็อยากจะหยุดเหมือนกัน แต่ตอนนั้นท่านจับเอวข้าอยู่ จนข้าควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ ฮือๆๆ...”

“ตอนนั้นอยู่บนทางลาดชัน ถ้าหยุดกะทันหันละก็ เราทั้งคู่จะฟันหน้าหัก ท่านไม่ยอมปล่อยมือ ข้าก็ได้แต่พยายามปรับสมดุลให้ดีที่สุดแล้ว ฮือๆๆ...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ