พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 6

“เอ๋ ท่านอ๋องมาขอโทษเพราะเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ช่างทำให้หม่อมฉันรู้สึกคาดไม่ถึงจริงๆเพคะ”

อวิ๋นหลิงแสร้งทำเป็นตกตะลึง ท่าทีแปลกประหลาด

หางตาของเซียวปี้เฉิงกระตุก กำหมัดไว้แน่น “ที่ข้ามา มีเรื่องอื่นจะคุยกับเจ้าต่างหาก”

“เรื่องอะไรเพคะ” อวิ๋นหลิงกะพริบตาปริบๆ ถามทั้งที่รู้ดีอยู่แล้ว

เซียวปี้เฉิงใช้เสียงต่ำพูดเรื่องของเยี่ยนอ๋องให้นางฟัง “ขาข้างขวาของอวี้จือเจ็บมาก เจ้าต้องรีบไปช่วยฝังเข็มเพื่อระงับปวดให้เขา”

เหมือนจะกลัวว่าเพราะเรื่องบาดหมางกันก่อนหน้านี้จะทำให้ฉู่อวิ๋นหลิงไม่ตอบตกลง ไม่รอให้นางตอบ เซียวปี้เฉิงก็รีบพูดขึ้นมาทันที เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม

“เมื่อวานเจ้าทำให้อวี้จือบาดเจ็บ ย่อมต้องทำความดีชดเชยความผิด อีกทั้งเขาก็เป็นคนใจกว้าง เห็นด้วยว่าจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่เช่นนั้นหากเรื่องนี้ส่งไปถึงหูของหวงกุ้ยเฟย เจ้าคงหนีความผิดไม่พ้น”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย นางย่อมต้องไปช่วยรักษาอาการเจ็บขาเรื้อรังของเยี่ยนอ๋องอยู่แล้ว

เดิมทีก็ไม่จำเป็นต้องขอร้องนาง แต่ท่าทีของเซียวปี้เฉิงทำให้นางรู้สึกไม่พอใจมาก

รู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่ง แต่อวิ๋นหลิงยังคงรักษารอยยิ้มอบอุ่นเอาไว้

“เยี่ยนอ๋องเห็นด้วยที่จะรักษาเรื่องนี้เป็นความลับ ที่แท้เป็นเพราะความใจกว้าง หรือเพราะใครกันแน่ คิดว่าท่านอ๋องคงจะรู้ดีกว่าใคร”

อวิ๋นหลิงรับรู้ได้จากความทรงจำ เซียวปี้เฉิงสูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก หลังจากนั้นก็ถูกเลี้ยงดูโดยหวงกุ้ยเฟย ดังนั้นจึงผูกพันกับเยี่ยนอ๋องมาก

แต่ว่าตั้งแต่เยี่ยนอ๋องถูกลอบทำร้ายจนขาทั้งสองข้างพิการ หวงกุ้ยเฟยก็หันมาระบายความโกรธกับเซียวปี้เฉิง ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับเขา ตอนนี้ความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกนั้นค่อนข้างเย็นชา

คนที่ทำร้ายเยี่ยนอ๋องคือฉู่อวิ๋นหลิงไม่ผิด แต่ถ้าหากเรื่องที่เยี่ยนอ๋องได้รับบาดเจ็บจากจวนจิ้งอ๋องถูกแพร่ออกไป หวงกุ้ยเฟยก็ต้องหาเรื่องเซียวปี้เฉิงแน่

ดังนั้น เยี่ยนอ๋องจึงต้องปิดบังเรื่องนี้เอาไว้

และเป็นไปดังคาด เมื่อได้ยินประโยคนี้ เซียวปี้เฉิงก็นิ่งขรึมไป

ฉู่อวิ๋นหลิงฉลาดกว่าที่เขาคิดเอาไว้ และไม่ได้มีท่าทีตกใจเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยค

อวิ๋นหลิงสีหน้าเรียบเฉย “ขอพูดอย่างไม่ปิดบังว่า ข้าไม่กลัวเลยว่าเรื่องนี้จะแพร่ออกไป หากหวงกุ้ยเฟยทรงรู้เข้า ข้าสามารถอาศัยเรื่องการรักษาพิษเย็นลบล้างความผิดได้ แต่ท่านอ๋องคงหาความดีจากเรื่องนี้ไม่ได้เลย”

ไม่เพียงแต่จะไม่ตกใจ กลับย้อนเขาอีก

หัวใจของเซียวปี้เฉิงหนักอึ้งลง

ระหว่างเขากับฉู่อวิ๋นหลิงนั้นมีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจกันมาก ต่างก็รำคาญอีกฝ่าย ถ้าหากนางจงใจกลั่นแกล้ง เขาก็จนปัญญาจะรับมือ

อวิ๋นหลิงวิเคราะห์สีหน้าของเซียวปี้เฉิง รู้ว่าเขาน่าจะรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร จึงไม่แสร้งวางมาดอีกต่อไป

“ท่านอ๋องจะยืนนิ่งอยู่ทำไม ในเมื่อเจ้าเด็กนั่นปวดขามาก ก็รีบพาหม่อมฉันไปซิเพคะ”

เซียวปี้เฉิงนิ่งอึ้ง “เจ้าจะไปช่วยระงับปวดให้อวี้จือหรือ”

เดิมทีเขากำลังจะรอให้ฉู่อวิ๋นหลิงกลั่นแกล้ง ปรากฏว่านางทำท่าแข็งกระด้างแค่ชั่วครู่ แต่ก็ไม่คิดจะทำอะไร

“ก็ท่านมาเรียกให้ข้าไปมิใช่หรือ หรือท่านอ๋องคิดว่าข้าจะฉวยโอกาสนี้หาเรื่องท่าน” อวิ๋นหลิงกลอกตาให้กับเซียวปี้เฉิงโดยที่เขามองไม่เห็น

“ที่จริง ถ้าหากท่านอ๋องไม่พูดประโยคเมื่อครู่ หรือท่าทีดีกว่านี้หน่อย บางทีข้าอาจจะไปกับท่านอ๋องตั้งนานแล้ว”

อวิ๋นหลิงยิ้ม “แต่ไปตอนนี้ก็ยังไม่ถือว่าสาย เพียงแต่ต้องลำบากเยี่ยนอ๋องต้องอดทนมากเสียหน่อย”

นางหาทางลงให้กับเซียวปี้เฉิง

“เป็นข้าเองที่ใจแคบเกินไป”

สีหน้าของเซียวปี้เฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาจ้องมองเงาร่างที่เลือนรางภายใต้โลกที่มืดมัวใบนี้ แววตาสับสนอยู่บ้าง

“เช่นนั้นก็ตามข้ากับลู่ฉีมาเถอะ”

ตงชิงประคองอวิ๋นหลิงที่มีบาดแผลทั่วร่างให้ลุกขึ้น เดินตามเซียวปี้เฉิงไปยังเรือนเยี่ยนหุยโดยไม่พูดจา

นางรู้สึกตกตะลึงอยู่ลึกๆ ไม่คิดว่าคุณหนูจะมีวิชาแพทย์ดีเช่นนี้

ไม่น่าล่ะเมื่อก่อนคุณหนูมักจะขังตัวเองเอาไว้ในห้องคนเดียว ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ทุกคนต่างก็คิดว่านางไม่อยากจะพบหน้าผู้คนเพราะใบหน้าที่อัปลักษณ์ของตนเอง ที่แท้ก็เพราะกำลังศึกษาเรื่องการแพทย์

ตงชิงลิงโลดอยู่ในใจ คุณหนูมีความสามารถเช่นนี้ เช่นนั้นวิกฤติที่อยู่ข้างหน้าก็สามารถแก้ตกไปตามๆกันได้แล้ว

ฝนในฤดูใบไม้ผลิตกโปรยปราย

ระหว่างทางที่ไปยังเรือนเยี่ยนหุย ที่สุดเซียวปี้เฉิงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ