พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 606

อวิ๋นหลิงสังเกตดูพวกแม่นางต่อไป “แม่นางตระกูลหลิ่วรู้จักเข้าสังคมมาก”

พวกผู้หญิงชอบจับกลุ่มจับพวกกัน อย่างตอนนี้พวกนางก็มักจะชอบนั่งกับเพื่อนที่พักเรือนเดียวกัน

ทว่าหลิ่วชิงเยี่ยนกลับสามารถตีสนิทกับแม่นางอื่นในช่วงที่ฝึกร่างกายเหมือนทหารได้ ซึ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เห็นได้ว่ามีความสามารถสูง

ทุกคนรู้สึกเป็นมิตรกับนาง ยกเว้นหรงรั่ว

อวิ๋นหลิงสังเกตเห็นรายละเอียดหนึ่งว่า หลิ่วชิงเยี่ยนจะส่งกระบอกน้ำถึงมือคนอื่นตลอด มีเพียงตอนที่เดินไปอยู่ตรงหน้าหรงรั่ว นางแค่วางไว้ด้านข้างเท่านั้น

ระหว่างพักผ่อน นางก็ไปนั่งด้านข้างสุด ข้างเมิ่งฝูเอ๋อร์

จากใบหน้าเบิกบานของหรงรั่ว เมื่อเห็นหลิ่วชิงเยี่ยนก็ยิ้มค้าง หันหน้าไปคุยกับหลี่เมิงซูต่อ ไม่ได้หยิบน้ำขึ้นมาดื่ม

เซียวปี้เฉิงก็เห็นสิ่งนี้ด้วย กดเสียงต่ำพูดว่า “ดูเหมือนข่าวลือที่ว่าคุณหนูหลิ่วกับคุณหนูหรงไม่ถูกกันจะเป็นเรื่องจริง”

“ยังไงรึ?” อวิ๋นหลิงเริ่มอยากรู้เรื่องชาวบ้านขึ้นมา

“ระหว่างที่ข้าฝึกพลังจิต บางครั้งก็ได้ยินเสียงนินทาด้วย ไม่รู้ว่าจริงเท็จประการใด บอกว่าสาเหตุที่หรงรั่วไม่ไปมาหาสู่กับคู่หมั้น เป็นเพราะหลิ่วชิงเยี่ยน แต่ข้าไม่รู้รายละเอียด”

ตระกูลหรงกับตระกูลหลิ่วมีลูกหลานแต่งงานกัน แม่นางสองคนนี้ต้องพบปะกันเป็นประจำอยู่แล้ว

เซียวปี้เฉิงฉุกคิดบางอย่างได้ก็อุทาน “ตอนพวกเราจัดเรือนพักเอาแต่จับฉลาก ไม่ได้สำรวจอย่างละเอียดก่อน”

หลี่เมิงซูกับเมิ่งฝูเอ๋อร์พักในเรือนฝั่งตะวันออก นั่นหมายถึงแม่นางสองคนนี้ต้องพักด้วยกันที่เรือนฝั่งตะวันตก

เป็นรายละเอียดยิบย่อยที่มองข้ามไป

“ถ้าเกิดพวกนางผิดใจกันขึ้นมาจริงๆ อยู่ใต้ชายคาเดียวกันก็จะอึดอัดใจ แล้วอาจมีการปะทะกันด้วย”

อวิ๋นหลิงตรึกตรองแล้วกลับเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าพวกนางคงไม่ทะเลาะกันหรอก”

“เจ้ามั่นใจเพียงนี้เชียว?” เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้ว

บอกตามตรงเขาปวดหัวกับเรื่องผู้หญิงตีสองหน้าใส่กัน เรื่องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในเรือนหลัง คนตระกูลเซียวนับว่าไม่ไดเรื่องเลย มีข้อดีอย่างเดียวคือยอมฟังคำพูดของภรรยา

กระทั่งผู้ฉลาดหลักแหลมอย่างพระเจ้าหลวงก็รู้สึกยุ่งยากด้วย ดังนั้นจึงยึดคติที่ว่า ยิ่งมีเมียน้อยปัญหาก็ยิ่งน้อยลง

ความจริงก็บอกเซียวปี้เฉิง อย่าได้พัวพันกับสตรีให้มาก หาไม่แล้วจะนำมาซึ่งหายนะได้

กรณีศึกษาที่มีให้เห็นก็อย่างคู่รุ่ยอ๋องกับฉู่อวิ๋นหาน เสียนอ๋องกับซ่งเชว่อวี่

อวิ๋นหลิงเริ่มวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน “อันดับแรก หรงรั่วมีนิสัยเหมือนผู้ชาย ได้ยินว่านางเป็นคนตรงไปตรงมา เกลียดพฤติกรรมชั่วร้ายที่สุด ทั้งยังถูกฟูมฟักเลี้ยงดูอย่างดี จึงเป็นคนตรง ไร้เดียงสา”

“หลิ่วชิงเยี่ยนเป็นลูกอนุ ปกติต้องระมัดระวังตัวทุกอย่าง การกระทำเมื่อครู่ถือว่านางฉลาดมาก นางใจกว้างกว่าหรงรั่ว ถ้าต้องการหักหน้าหรงรั่ว เมื่อครู่นางก็ควรยื่นกระบอกน้ำให้หรงรั่วโดยตรง”

เซียวปี้เฉิงตั้งใจฟังแล้วก็เข้าใจความหมายของอวิ๋นหลิง

“สมมุติว่าถ้าหรงรั่วรับไม่น้ำมา แม่นางอื่นก็จะคิดว่าหรงรั่วคบยาก หลิ่วชิงเยี่ยนอุตส่าห์หวังดีแต่กลับทำให้เสียน้ำใจ”

“แล้วถ้าหรงรั่วต้องรับน้ำมาก็เท่ากับเป็นการตบหน้าหลิ่วชิงเยี่ยน”

อวิ๋นหลิงยิ้มเอ่ยกับเขา ชมว่า “ไม่เลว ไม่เลว พัฒนาขึ้นเยอะเลย”

นางสอนสามีมาดี

“ดังนั้นข้าถึงบอกว่าความสัมพันธ์ของพวกนางไม่ได้แย่ขนาดนั้น อย่างน้อยหลิ่วชิงเยี่ยนก็ทายได้ว่าหรงรั่วไม่รับกระบอกน้ำ จึงวางไว้ด้านข้าง”

“ถ้าหรงรั่วเกลียดหลิ่วชิงเยี่ยนก็ต้องหาว่าอีกฝ่ายตอแหล เตือนให้เมิ่งซูระวังตัว แต่หรงรั่วแค่ทำตัวเฉยชา ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น ไม่ได้เข้าแทรกตอนที่เมิ่งชูกับหลิ่วชิงเยี่ยนคุยกันด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ