มือของจักรพรรดิจาวเหรินที่ถือตะเกียบกำแน่นขึ้น เอ่ยด้วยสีหน้าเขียวคล้ำว่า “ถ้าเจ้าพยักหน้าตกลงจัดการเรื่องนี้ ย่อมยืนยันว่าเจ้าไม่ใช่คนเช่นนั้น”
เซียวปี้เฉิงนิ่งเงียบ ไม่พูดจา
อาหารเลิศรสเต็มโต๊ะจู่ๆก็ไร้รสชาติขึ้นมาทันที ในตำหนักเต็มไปด้วยความกดดันและความเงียบ เขาไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากพระที่นั่งบำรุงฤทัยตั้งแต่เมื่อไหร่ กระทั่งลมเย็นพัดโชยมา จึงได้สติและความรู้สึกกลับคืนมาบ้าง
ฝ่ามือที่หยาบกร้านมีความอบอุ่นนุ่มนวลแทรกเข้ามา อวิ๋นหลินดึงมือเขาค่อยๆก้าวเดินอยู่ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
เดินมาจนถึงหน้ารถม้า ฝูกงกงเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “องค์รัชทายาท วันนี้ฝ่าบาททรงกริ้วจนพูดอย่างไม่ทันคิด ทรงอย่าได้นำไปใส่ใจเลย จะเป็นการทำให้พ่อลูกหมางใจกันเสียเปล่า”
เซียวปี้เฉิงหันกลับไปพยักหน้าด้วยท่าทีเหม่อลอย และไม่ได้พูดอะไร หมุนตัวขึ้นรถม้าไปก่อน
อวิ๋นหลิงหันกลับไปเอ่ยเสียงอบอุ่นว่า “กลางคืนอากาศหนาว ฝูกงกงรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
ฝูกงกงกลับไม่รีบร้อนจะกลับ “วันนี้พระชายารัชทายาทไม่ได้มีท่าทีโกรธฝ่าบาท ทำให้กระหม่อมรู้สึกประหลาดใจอยู่หลายส่วน”
“เดิมทีข้าก็คิดจะด่าสักคำสองคำ แต่พอนึกถึงพระเจ้าหลวง ก็แล้วไปเถอะ”
ตอนที่จักรพรรดิจาวเหรินเอ่ยคำพูดนั้นออกมา นางรู้สึกโกรธและปวดใจอย่างไม่ต้องสงสัย หากเป็นเมื่อก่อนคงจะตอบโต้เหมือนที่เคยทำกับรัฐทายาทผู้เฒ่าซึ่งเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน ด่ากราดอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว
แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย จิตใจของอวิ๋นหลิงเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างไม่รู้ตัว มีการเติบโตมากขึ้น
เมื่อก่อนขอแค่นางมีเหตุผลมากพอ ต้องตอกกลับจักรพรรดิจาวเหรินจนพูดไม่ออกแน่ แต่ตอนนี้นางไม่ได้หวังแค่ว่าตนเองจะได้รับความสะใจจากการด่าเท่านั้น ยังมีคนที่ต้องใส่ใจอีกมาก
เธอนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ใบหน้าของตาแก่น้อยที่จ้องมองภาพครอบครัว สายตาที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และความเจ็บปวด
“พระเจ้าหลวงหวังว่าพวกเขาพ่อลูกจะรักกัน พี่น้องสามัคคีกัน ปี้เฉิงพยายามอยากจะได้รับการยอมรับจากเสด็จพ่อมาตลอด ให้เขาสามารถสบายใจและผ่อนคลายลงบ้าง ถ้าเมื่อครู่ข้าทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น นั่นก็ยิ่งเป็นการผลักให้พวกเขาสองพ่อลูกยืนกันคนละฝั่ง ผลที่ตามมาจากเรื่องนี้จะยิ่งแย่ลง ชีวิตต่อจากนี้ไม่ว่าใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุขเลย”
อวิ๋นหลิงเบือนหน้าหันไปมองในรถม้า เงาร่างของเซียวปี้เฉิงดูโดดเดี่ยวมาก
เหมือนพระพันปี เขาก็ใส่ใจและมีความหวังว่าครอบครัวจะรักใคร่สามัคคีกัน และเพราะความใส่ใจ จึงทำให้ถูกทำร้ายจิตใจอย่างสาหัส
ถ้าทะเลาะกับจักรพรรดิจาวเหริน ก็ไม่ต่างอะไรกับการโรยเกลือไปบนแผลของเขา ดังนั้นเมื่อครู่อวิ๋นหลิงจึงไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
แววตาของฝูกงกงมีแววดีใจอยู่หลายส่วน “พระชายารัชทายาทเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก องค์รัชทายาทก็เช่นเดียวกัน”
แต่จักรพรรดิจาวเหรินยังคงเป็นเหมือนวันวาน
เซียวปี้เฉิงกลับไปยังตำหนักบูรพา นั่งอยู่ข้างหน้าต่างเป็นเวลานานไม่ยอมเข้านอน นั่งเงียบอยู่นานก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนที่เรื่องเสี่ยวเฟิงทำให้แม่ข้าตายถูกเปิดเผย ตอนที่เขาสั่งประหารหญิงคนนั้น ข้าทั้งรู้สึกเสียใจและดีใจ เสียใจที่ท่านแม่ตายไปอย่างน่าสงสาร ดีใจที่เขาไม่ได้ปกป้องหญิงคนนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...