พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 613

ระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังปรึกษาหารือกันอยู่ ก็เห็นว่าเสวียนจีวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน

“ข่าวด่วนข่าวด่วน ข่าวด่วนมาก”

อวิ๋นหลิงเห็นนางมา ก็เอามือนวดขมับด้วยความเคยชิน “มีข่าวน่าตื่นตระหนกตกใจอะไรอีกแล้ว”

เสวียนจีไม่สนใจจะดื่มน้ำสักคำด้วยซ้ำ รีบเล่าเรื่องที่เฟิ่งเหมียนทำการเสี่ยงทายเมื่อครู่ให้ทั้งสองฟังจนหมด

หลังจากที่ทั้งสองฟังจบ ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ

อวิ่นหลิงเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย มองไปทางเซียวปี้เฉิงก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เขาบอกว่าวาสนาแต่งงานขององค์หญิงหกอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมีดวงจะได้แต่งงานไกลบ้าน”

เซียวปี้เฉิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ตอบกลับเสียงขรึมว่า “ตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นต้าโจว……เป็นชนเผ่าทูเจวีย”

จู่ๆเขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้หลังจากที่เกิดความวุ่นวายภายในของชาวทูเจวียทางตะวันออก ทำให้เกิดอ๋องทูเจวียอายุน้อยคนหนึ่งขึ้นมา

ตอนนี้อีกฝ่ายติดอยู่กึ่งกลางระหว่างแคว้นต้าโจวกับชาวทูเจวียทางตะวันตก อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายและยากลำบาก

ดังนั้นจึงได้แอบส่งจดหมายให้กับแคว้นต้าโจว ยินยอมที่จะกลับคืนมาเป็นแคว้นบริวาร และอยากจะขอแต่งงานกับองค์หญิงด้วย

เหมือนอวิ๋นหลิงจะนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้เช่นกัน “องค์หญิงหกคงไม่ใช่ผู้ที่มีดวงแต่งงานเพื่อสงบศึกกระมัง”

เว้นเสียแต่ว่าองค์หญิงของราชวงศ์จะแต่งงานจากบ้านไปไกลเพียงเพราะต้องการสงบศึก มิเช่นนั้นจะอยู่ในเมืองหลวงตลอดชีวิต

แต่ด้วยนิสัยของจักรพรรดิจาวเหริน และกำลังของแคว้นต้าโจวในตอนนี้ จะส่งองค์หญิงหกไปแต่งงานเพื่อสันติภาพได้อย่างไร

เซียวปี้เฉิงเอ่ยขึ้นช้าๆว่า “ใครจะพูดเรื่องในอนาคตได้แม่นยำ ประมาณช่วงสิ้นปี ชาวทูเจวียจะมาถึงเมืองหลวง ถึงเวลาก็สามารถรู้บทสรุปเอง”

แม้ว่าแคว้นต้าโจวตอนนี้จะไม่หวาดกลัวทูเจวีย แต่ก็มีความประสงค์ที่จะพูดคุยกับชาวทูเจวียทางตะวันออก เพราะนอกจากชาวทูเจวียแล้ว ทางด้านนั้นยังมีพวกชนเผ่าเร่ร่อนที่มีนิสัยป่าเถื่อนอย่างเผ่าโยวหราน เผ่าชิตัน เผ่าเซียนเปยที่อาศัยอยู่กันอย่างไม่เป็นระเบียบ

ทูเจวียเป็นชนเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาชนเผ่าเหล่านี้ ถ้าหากเจรจาต่อรองราบรื่น ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็จะมีแนวป้องกันการรุกรานจากแคว้นอื่นเพิ่มมากขึ้น

อีกอย่าง ยังสามารถใช้ทูเจวียตะวันออกในการเปิดเส้นทางการค้าสู่ภายนอกอีกเส้นทางหนึ่ง

แคว้นตงฉู่ทำการค้ากับชาวตะวันตก แคว้นถังใต้ทำการค้ากับเปอร์เซีย

มีเพียงแคว้นพี่น้องอย่างซีโจวและเป่ยฉิน ที่ทำสงครามอย่างเอาเป็นเอาตายกับชาวทูเจวียมาหลายปี ไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุขเลย

ถ้าหากสามารถเปิดเส้นทางการค้าทางภูมิภาคตะวันตกได้ ตำแหน่งของซีโจวบนผืนแผ่นดินนี้ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เสวียนจีกะพริบตาปริบๆ เอ่ยเสียงสดใสว่า “ข้าได้ยินมาว่าการเดินทางจากทูเจวียมาถึงเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าโจวต้องใช้เวลาถึงสี่เดือน ตามมาตรฐานการเดินทางของยุคโบราณแล้ว ถ้าหากองค์หญิงหกต้องแต่งงานเพื่อสงบศึกจริงๆละก็ ชาตินี้คงกลับมาได้เพียงไม่กี่ครั้งแล้วกระมัง หรือว่านี่จะเป็นดังที่นกโง่ทำนายไว้ว่ารักต้องจากลา”

พลัดพรากจากคนที่รัก รวมไปถึงการพลัดพรากกับคนในครอบครัว นี่เป็นหนึ่งในเจ็ดความทุกข์ของชีวิตคน

อวิ๋นหลิงถอนหายใจยาวๆออกมาเฮือกหนึ่ง “ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริงๆละก็ ข้ากลับรู้สึกว่าองค์หญิงหกน่าสงสารอยู่บ้าง ที่นี่ไม่มีมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถวิดีโอคอลได้ และไม่มีเครื่องฉายภาพ......ถ้าหากได้รับความลำบากใจจากทางบ้านสามี แม้แต่คนที่จะสามารถร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มี”

หวนนึกถึงองค์หญิงที่ต้องแต่งงานเพื่อสันติภาพในประวัติศาสตร์ คนที่มีจุดจบที่ดีมีไม่มาก

เสวียนจีเอ่ยปลอบใจว่า “นกโง่บอกว่า สามีในอนาคตของนางจะปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจ”

จากการเสี่ยงทาย ชีวิตการแต่งงานขององค์หญิงหกนั้นโดยรวมแล้วมีความสุขดี อีกทั้งยังมีลูกหลานเต็มบ้าน ไม่มีลางว่าต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

เซียวปี้เฉิงได้ยินดังนั้น คิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆคลายออก “แม้จะไม่รู้ว่าเรื่องที่เฟิ่งเหมียนทำนายนั้นอนาคตจะเกิดขึ้นเช่นไร แต่ถ้าหากการแต่งงานเพื่อสันติภาพไม่ใช่เจตนาขององค์หญิงหก ข้าก็ไม่อาจยื่นมือเข้าไปช่วยนางได้”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า เมื่อก่อนนางตระหนักไม่ลึกซึ้ง แต่ตอนนี้มีลูกแล้ว ความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

หากเปลี่ยนมุมมอง ถ้าหากคนที่ต้องแต่งงานเพื่อสันติภาพเป็นลูกสาวของนาง แม้ว่าอีกฝ่ายจะยินดีที่จะไป นางก็คงจะรู้สึกอาลัยอาวรณ์มาก อยากจะให้อีกฝ่ายอยู่ข้างกายตลอดไปมากกว่า

เสวียนจีกลอกตาใช้ความคิด “เมื่อเทียบกับวาสนาแต่งงานขององค์หญิงหกแล้ว ข้าประหลาดใจในดวงโดดเดี่ยวของตาแก่จักรพรรดิซะมากกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ