พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 612

เฟิ่งเหมียนรู้สึกแค่ว่าต่อต้านไม่ไหว ผลักเสวียนจีออกไปทันที รีบตอบตกลงคำขอของนาง

“เหลวไหล ทำเช่นนี้เหมาะสมที่ไหนกัน เอาสมุดให้ข้า เจ้าไปนั่งเงียบๆ”

เสวียนจียิ้มอย่างเบิกบานขึ้นมาทันที ไหนเลยจะถือสาที่ถูกด่า รีบยื่นสมุดให้เฟิ่งเหมียน จากนั้นก็นั่งลงข้างกายเขาอย่างเชื่อฟัง

“พี่เหมียนจื่อช่างดีจริงๆ”

เฟิ่งเหมียนสีหน้าเขียวคล้ำ แต่ใบหูกลับร้อนและแดงอย่างผิดปกติ ทำหน้าบึ้งพลางเปิดสมุดออกมา

บนสมุดลำดับราชวงศ์เขียนวันเดือนปีเกิดของลูกหลานตระกูลเซียวเอาไว้ เขาพลิกอ่านทีละหน้า ไม่ช้าก็หาวันเดือนปีเกิดขององค์หญิงหกเซียวโยว่หรง

หลังจากกวาดตามองแวบหนึ่ง เฟิ่งเหมียนเอาด้ายแดงที่ผูกอยู่บนข้อมือออกมา บนเส้นด้ายมีเหรียญทองแดงเก่าแก่สามเหรียญที่เปล่งประกายอยู่

เสวียนจีกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที รู้ว่าเขาเตรียมจะทำการทำนายลิ่วเหยาพยากรณ์แล้ว

เฟิ่งเหมียนไม่ชำนาญในการดูโหงวเฮ้งมากนัก เพราะการทำนายลิ่วเหยาพยากรณ์เป็นวิชาที่เขาศึกษามาอย่างแท้จริง อีกทั้งยังสามารถมีความรู้ในศาสตร์ด้านนี้อย่างลึกซึ้งทั้งที่อายุยังน้อย

ในตงฉู่ แต่ไหนแต่ไรก็มีคนยกย่องว่าเขาเป็นลูกศิษย์ลัทธิเต๋ามาแต่กำเนิด มีเงินพันตำลึงก็ยากจะให้เขาดูดวงให้ได้

เฟิ่งเหมียนตั้งสมาธิใบหน้าเคร่งขรึม วางเหรียญทองแดงทั้งสามเหรียญไว้บนฝ่ามือ ไม่ช้าก็จะเริ่มการพยากรณ์แล้ว

โยนเหรียญทองแดงหกครั้งถือเป็นหนึ่งกว้า บวกเข้ากับธาตุทั้งห้าและต้นฟ้ากิ่งดิน เขารวบรวมสมาธิเริ่มการพยากรณ์

เวลาค่อยๆผ่านไป ธูปหอมตรงหน้ารูปวาดของไท่ซั่งเหล่าจวินไหม้หมดไปแล้ว ไม่นานสีหน้าของเฟิ่งเหมียนก็มีแววประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย หยิบเอาสมุดลำดับราชวงศ์ขึ้นมาผลิกดูอีกครั้ง

เสวียนจีเห็นดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมเกิดอะไรขึ้น หรือว่ามีปัญหาอะไร”

เฟิ่งเหมียนส่ายหน้าเบาๆ “พยากรณ์ได้แล้ว ดูจากผลของวันเดือนปีเกิดและการเสี่ยงทาย ช่วงครึ่งแรกในชีวิตขององค์หญิงหกแห่งซีโจวนั้นเส้นทางรักมีอุปสรรค ในดวงชะตามีความทุกข์จากเรื่อง‘ไม่ได้ดังที่ใจปรารถนา’และ‘ต้องจากคนที่รัก’ โชคดีที่สามีในอนาคตของนางจะปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจ”

“แต่ว่า ข้าทำนายได้ว่าวาสนาเรื่องการแต่งงานของนางอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นชะตาที่ต้องแต่งงานจากบ้านไปไกล ส่วนสำนักศึกษาชิงอี้นั้นอยู่ใกล้กับพระราชวังใต้ภูเขาทางทิศใต้”

เสวียนจีอดไม่ได้ที่จะเขยิบเข้าไปใกล้ “ก็หมายความว่า นางไม่จำเป็นต้องไปที่สำนักศึกษา แล้วท่านเปิดสมุดขึ้นมาอีกครั้งทำไม”

“เพราะนอกจากเรื่องนี้แล้ว ข้ายังทำนายได้ว่าการไปที่สำนักศึกษาชิงอี้ในครั้งนี้ของนางต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวนางเลย แต่พัวพันไปถึงดวงชะตาของอีกคนหนึ่ง”

ดวงชะตาพิเศษเช่นนี้ ที่จริงก็ยากจะพบเห็น เพราะเฟิ่งเหมียนเกิดความรู้สึกสนใจขึ้นมา จึงคิดจะทำนายอีกครั้ง

เสวียนจีถามอย่างอยากรู้ว่า “ใครกัน”

นิ้วมือเรียวยาวของเฟิ่งเหมี่ยนวางลงบนหน้าหนึ่งของสมุด

“จักรพรรดิ”

ตอนนี้ไม่เพียงแค่เฟิ่งเหมียน แม้แต่เสวียนจีก็รู้สึกสนใจขึ้นมา “นี่มันหมายความว่าอย่างไร”

“รอให้ข้าทำนายอีกครั้งก็จะรู้เอง”

หลังจากที่จดจำวันเดือนปีเกิดของจักรพรรดิจาวเหรินแล้ว เฟิ่งเหมียนก็เริ่มการพยากรณ์ หลังจากนั้นก็เสี่ยงทายพร้อมกันทั้งสองกว้า ไม่ช้าก็ค้นพบความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในนั้น

“ชะตาชีวิตของจักรพรรดินั้นราบรื่นตลอดชีวิต ลูกหลานมีบุญวาสนาสูง ไม่ว่าจะมีอุปสรรคกี่ครั้งก็สามารถผ่านไปได้อย่างแคล้วคลาดปลอดภัย แต่ว่าบุพเพสันนิวาสของเขานั้นเบาบาง ในด้านนี้เขามีชะตาที่ต้องโดดเดี่ยว”

เสวียนจีลูบคางตัวเอง พยายามอธิบายว่า “จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยพูดไว้ ถ้าดวงชะตาโดดเดี่ยวจะเป็นตัวกำหนดว่าต้องโดดเดี่ยวตลอดชีวิต เช่นนั้นความหมายของท่านก็คือจักรพรรดิจะเป็นโสด แต่เขาก็มีภรรยาตั้งมากมายนี่นา”

เฟิ่งเหมียนเอ่ยเสียงเรียบว่า “ที่ข้าพูดหมายถึงวาสนารักของเขา ไม่ใช่วาสนาแต่งงานของเขา”

ถ้าหากสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงอยู่ด้วยในตอนนี้ คงจะเข้าใจในความหมายของคำพูดนี้ทันที

พระสนมของจักรพรรดิจาวเหรินมีหลายคนก็จริง แต่ไม่ได้เป็นคนที่ต่างก็รักกัน

เสี่ยวเฟิงที่เขาเคยรักด้วยใจจริงก็ถูกลงโทษจนตายไปแล้ว ส่วนพระสนมหลี่ที่รักเขาเต็มหัวใจ ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาชื่นชอบ

ส่วนพระสนมคนอื่นๆ จี้ซูเฟยนั้นไม่ต้องพูดถึง เหลียงเฟยให้ความสำคัญกับลูกชายอ๋องโม่ยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง สนมลี่ผินนั้นเข้าวังเพียงเพราะต้องการจะหนีจากสำนักทิงเสวี่ยเท่านั้น นางไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความรัก

ยังมีพระสนมที่ตายไปอีกสองคน คนหนึ่งคือฮองเฮาที่ให้กำเนิดบุตรสาวคนโตให้กับจักรพรรดิจาวเหริน อีกคนที่แม่ผู้ให้กำเนิดของเซียวปี้เฉิง

ต่างคนต่างก็ไม่มีวาสนาต่อกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ