พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 648

ฟงอิ๋งอิ๋งถูกหลงเย่สอบปากคำ เทียบเท่ากับถูกพลังจิตโจมตี นางก็หมดสติไปอย่างรวดเร็ว

พวกอวิ๋นหลิงทิ้งนางไว้ แล้วออกจากคุกไปก่อน

หลังจากได้ข้อมูลที่ต้องการซักถามจากฟงอิ๋งอิ๋งเรียบร้อย ศาลต้าหลี่ก็จะประหารชีวิตนางอย่างลับๆ

ข้ารับใช้รับคำสั่ง นำสมุดบันทึกมนุษย์พิษที่ฟงอิ๋งอิ๋งเขียนรวบรวมไว้กลับมาอย่างรวดเร็ว

อวิ๋นหลิงเปิดออกดูก็ตกตะลึงจนตาค้างทันที

“นี่มันของบ้าบออะไรกัน”

นางเห็นคำที่ไม่คุ้นเคยอัดแน่นยุบยับเขียนบิดเบี้ยวราวกับยันต์กันผีอยู่บนนั้น นางไม่รู้จักแม้แต่คำเดียว

เป็นภาษาเหมียวหรือเปล่า

กงจื่อโยวกวาดตามองแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วมุ่น “ข้อความที่เขียนนั้นดูเหมือนจะเป็นอักษรเหมียวโบราณ เห็นทีเหมียวเจียงในยามนี้มีแค่ไม่กี่คนที่อ่านออก ว่ากันว่าราชวงศ์ตระกูลฟงจะใช้ภาษาประเภทนี้ส่งสัญญาณข่าวคราวสำคัญให้แก่กัน”

อวิ๋นหลิงอดรู้สึกลำบากใจและกลัดกลุ้มไม่ได้

ไม่ได้พูดเกินจริงว่าชาติก่อนนางก็เคยถูกบังคับให้เรียนถึงแปดภาษา แต่ไม่เข้าใจภาษาเหมียวเลยจริงๆ นับประสาอะไรกับอักษรเหมียวโบราณ

นางพลิกดูสมุดบันทึกมนุษย์พิษราวกับกำลังอ่านตำราอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก

เกิดภาพลวงตาว่ากำลังถอดรหัสข้อความที่เป็นความลับบนแผ่นหินของอียิปต์

เวลานี้เอง หัวหน้าศาลต้าหลี่เข้ามาอีกครั้ง “รัชทายาท ไส้ศึกชาวเหมียวในสำนักศึกษาถูกจับกุมมาไต่สวนแล้ว!”

อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นเอ่ยว่า “เอาคนไปที่โถงใหญ่ก่อนแล้วกัน”

นางสงสัยว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงแอบเข้าไปในสำนักศึกษาชิงอี้เพียงลำพัง นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยเลยสักคน

ตามรายงานสังเกตการณ์ขององครักษ์เงา ช่วงหนึ่งเดือนที่เขาอยู่ในสำนักศึกษาชิงอี้ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเขาทำเพียงสี่อย่าง

นั่นคือกินข้าว นอนหลับ กวาดพื้น และอ่านหนังสือนิยาย

ฟงอิ๋งอิ๋งนำลูกน้องไปร่วมกลุ่มเสร็จสิ้น เขายังควบตำแหน่งเป็นอันธพาลอยู่ข้างนอกเสียด้วย

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถูกแยกออกจากเพื่อนร่วมกลุ่มชาวเหมียวคนอื่นๆ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลึกแก้วของเขาถูกขโมยไป

ตอนที่ไป๋ชวนถูกจับก็มึนงงไปหมด

ตอนนั้นเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า เสียงกริ่งอาหารกลางวันดังขึ้นในสำนักศึกษาชิงอี้ ทันทีที่โรงอาหารเปิดประตู เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหยิบชามข้าว

เมนูอาหารวันนี้มีหัวสิงโตน้ำแดง ไก่ผัดพริกถั่วลิสง หมูผัดพริก มะเขือเทศผัดไข่ หมูสามชั้นผักกาดดอง...

ดีมาก เขาชอบทุกอย่างเลย!

ควรจะบอกว่าไม่มีอาหารในสำนักศึกษาชิงอี้ที่เขาไม่ชอบต่างหาก หลังจากกินไปหนึ่งเดือน ไป๋ชวนก็ทนแมงป่องทอดกับกบย่างไม่ไหวอีกแล้ว

เขายกอาหารมาตั้งเป็นภูเขาลูกหย่อมๆ เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง เตรียมเริ่มต้นวันที่สวยงามและมีความสุข

ยังไม่ทันจะตักช้อนข้าวเข้าปาก จู่ๆ เขาก็ถูกองครักษ์เงาที่บุกเข้ามากดลงกับพื้น จับกุมเขาไว้ตรงนั้นเลย

“ไม่ใช่ พี่ใหญ่พวกท่านทำอะไรกัน ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย!”

เย่ซานพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไว้เข้าศาลต้าหลี่ จะมีข้าวในคุกให้เจ้ากินเหลือเฟือ”

สิ้นคำ ไป๋ชวนก็ถูกใส่กุญแจทั้งสองขาสองเท้า แล้วถูกหิ้วปีกออกไป

ระหว่างทาง หลังจากซักถามเขาไปสักพัก ในที่สุดก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเมื่อคืนนี้ เขาดูตกใจมาก

“ฟงอิ๋งอิ๋งถูกจับได้ว่าก่อเรื่องใช่หรือไม่”

เย่ซานแค่นหัวเราะเย็นชา “ไม่ใช่แค่หญิงสติฟั่นเฟือนคนนั้น ไส้ศึกของพวกเจ้าชาวเหมียวที่กบดานอยู่ในเมืองหลวงล้วนถูกจับได้ทั้งหมดแล้ว เจ้ารีบไปรวมกลุ่มกับพวกเขาเดี๋ยวนี้”

ไป๋ชวนฟังแล้วสีหน้าฉายแววโศกเศร้า

หมดกัน ชาตินี้เขาคงอดกินอาหารของสำนักศึกษาชิงอี้แล้ว...

ถ้ารู้แต่แรก เขาคงไม่ตามฟงอิ๋งอิ๋งร่วมเดินทางมาแคว้นต้าโจวด้วยกัน!

หญิงผู้นี้ไปก่อเรื่องลับหลังเขาก็ช่างเถอะ แต่ยังไม่วายหลอกเขาให้พลอยเข้าปิ้งไปด้วย เขาไปทำชั่วอะไรไว้กันแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ