พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 657

ปีนี้จักรพรรดิจาวเหรินอายุสี่สิบห้าปี ทว่าปกติดูแลสุขภาพดี

กอปรกับเซียวปี้เฉิงเป็นรัชทายาท องค์ชายอื่นก็เริ่มมีตำแหน่งงานเป็นของตัวเอง ภาระจึงเบาลงไม่น้อย

แม้นจะกังวลเรื่องลูกเป็นบางครั้ง ทว่าก็ไม่ได้เครียดเหมือนเมื่อก่อน บัดนี้ถือว่าได้ใช้ชีวิตอิสระเสรีดุจเทพเซียนแล้ว

เวลาคนเรารู้สึกผ่อนคลาย หน้าตาก็จะดูอ่อนเยาว์ขึ้น ใบหน้าของเขาจึงอ่อนกว่าอายุจริงหกถึงหกปี

และเขาก็ดูแลรูปร่างได้ดีเยี่ยม ตอนนี้ใส่เสื้อตัวที่นางเตรียมให้กู้ฮั่นม่อแล้วก็พอดีตัว รู้สึกแน่นเล็กน้อยเท่านั้น

“ขอบคุณที่ฮูหยินช่วยข้า ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก”

จักรพรรดิจาวเหรินเปลี่ยนเสื้อตัวสะอาดสะอ้านแล้วก็ส่งสายตาให้ฝูกงกงจ่ายเงิน

ฝูกงกงควานหาแขนเสื้อและกระเป๋าบนเสื้ออันว่างเปล่าแล้วก็ต้องพูดด้วยความระมัดระวัง “นายท่าน วันนี้พวกเราออกมาโดยไม่ได้พกเงินติดตัวขอรับ”

ถึงแม้บอกว่าจะออกมาดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ทว่าแค่ตั้งใจจะมาเดินดูบรรยากาศการเรียนการสอนของสำนักศึกษาเท่านั้น ไม่คิดว่าต้องใช้เงิน

“...”

จักรพรรดิจาวเหรินต้องขายหน้าต่อหน้าสาวงามสองครั้งก็หน้าแดงเขียวสลับกัน

แม่นางหลียิ้มพูดเพื่อกู้สถานการณ์ “นายท่านไม่ต้องเกรงใจ ผ้าหยามนี้ไม่มีราคาหรอก ไม่ต้องจ่าย”

จักรพรรดิจาวเหรินกระแอมเสียง เอ่ยด้วยสีหน้าปกติ “งั้นก็ต้องขอบคุณฮูหยินมาก ไม่ทราบว่าฮูหยินชื่อกระไร สำเนียงไม่เหมือนคนเมืองหลวงเลย?”

“ข้าชื่อหลีหว่านเจิง คนหลินอันแห่งเมืองหยุนโจว นายท่านเรียกข้าแม่นางหลีก็พอ เพราะบุตรชายสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ได้ ด้วยความที่รัชทายาทกับพระชายารักใคร่ประชาชน ข้าจึงมีโอกาสเปิดร้านขายหวานสร้างรายได้”

จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินก็รู้สึกตกตะลึง

บัณฑิตที่สอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ได้ต้องมีอายุประมาณยี่สิบปี แสดงว่าหญิงแต่งงานแล้วตรงหน้าต้องมีอายุสามสิบกว่าแล้ว

เขาชวนคุยไม่กี่ประโยคก็ทราบว่าแม่นางหลีปีนี้อายุสามสิบเจ็ดปีดังคาด

“สิ่งแวดล้อมมณฑลเจียงหนานเป็นมิตรกับคนจริงๆ”

นางดูแล้วอายุแค่ยี่สิบเจ็ดปีเท่านั้น รูปลักษณ์ไม่แพ้นางสนมในวังเลย เป็นความสวยโดยธรรมชาติอันแท้จริง

แม่นางหลีแย้มยิ้ม “ไม่ทราบว่านายท่านเป็นใคร ชื่ออะไร?”

จักรพรรดิจาวเหรินกระแอมเสียงก่อนจะตอบว่า “ข้าแซ่หวง เป็นลูกคนที่เก้าของในบ้าน เจ้าเรียกข้าว่านายท่านเก้าหวงก็พอ”

แม่นางหลีพยักหน้า พูดด้วยความสงสัย “นายท่านเก้าหวงมาเยี่ยมลูกที่สำนักศึกษาชิงอี้รึ?”

จักรพรรดิจาวเหรินส่ายหน้า “ไม่ใช่ ข้าเป็นคนสนับสนุนงบประมาณสร้างสำนักศึกษาชิงอี้ วันนี้ว่างจึงมาดู”

“ที่แท้ก็เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณนี่เอง แสดงว่าข้ามีแหล่งพักพิงได้ก็เพราะความช่วยเหลือจากท่านบางส่วนด้วย”

แม่นางหลีรู้จักสำนึกบุญคุณ เมื่อรู้ว่าเขาเป็นผู้บริจาคสำนักศึกษา จึงลุกขึ้นแล้วนำเต้าหู้อัลมอนต์ที่ยังเหลือสองถ้วยให้เขากับฝูกงกงชิม

จักรพรรดิจาวเหรินกับฝูกงกงล้วนเผยประกายแสงแห่งความประหลาดใจ

“ฝีมือการทำของแม่นางหลีเหมือนในวังเลย”

“ท่านปู่ของข้าเคยทำงานในห้องเครื่อง ไม่คิดว่าท่านชิมคำเดียวก็รู้เลยว่าเป็นรสชาติในวัง”

“ข้าเคยชิมในโรงอาหารของสำนักศึกษาแล้วรู้สึกแปลกใจ”

เขาคุ้นคเยกับรสชาตินี้มาก ตอนเด็กกินแบบนี้เป็นประจำ

แม่นางหลีอธิบายก็ทำให้จักรพรรดิจาวเหรินนึกถึงวัยเยาว์ ตอนนั้นในวังมีพ่อครัวแซ่หลีจริง ซึ่งเต้าหู้อัลมอนด์เป็นฝีมือขึ้นชื่อของอีกฝ่าย ยากจะหาคนเทียบได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ