ตอนที่จักรพรรดิจาวเหรินเร่งไปถึงห้องสมุดก็ไม่เห็นเงาใครดังคาด
ตอนนี้เป็นช่วงกินข้าวเย็น ประตูหน้าห้องสมุดแขวนป้ายไม้ไว้ว่า ‘ปิดชั่วคราว โปรดอย่าเข้าไป’
บัณฑิตที่เดินผ่านเตือนด้วยความหวังดี “ท่านลุง ตอนนี้ไปกินข้าวเย็นกันหมดแล้ว คนดูแลห้องสมุดไม่หยุด ต้องรอหลังหกโมงครึ่งแล้ว”
“ออ...ขอบคุณที่บอก”
จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินก็มึนงง เขารู้ว่าเวลาของสำนักศึกษาชิงอี้ไม่เหมือนทั่วไป ฟังไม่รู้เรื่องว่าหกโมงครึ่งคืออะไร
ดังนั้นจำต้องรออยู่ที่นี่กับฝูกงกงไปก่อน
“นายท่านไปกินข้าวเย็นก่อนไหมขอรับ?”
จักรพรรดิจาวเหรินโบกมือ “ยังไม่ต้อง เจอหน้าหรงเอ๋อร์แล้วค่อยกินก็ได้ เมื่อครู่กินของหวาน น้ำชากับแม่นางหลีไปเยอะแล้ว ตอนนี้ยังแน่นท้องอยู่เลย”
ต้องโทษที่เขามัวแต่คุยจนลืมว่ามาทำอะไรไป
ควรมาเยี่ยมองค์หญิงหกเร็วหน่อย ตอนนี้ค่ำแล้ว เจ้าสามกับลูกสะใภ้บอกว่าต้องกลับก่อนเวลายามอู้ หาไม่แล้วอาจจะมีอันตรายระหว่างเดินทางกลับได้
ฝูกงกงได้ยินประโยคนี้ก็ลูบท้องด้วยความเศร้าใจ
ฝ่าบาทกินอิ่มแปล้ ทว่าเขายังหิว
ทว่าเขาไม่กล้าพูด ได้แต่รอองค์หญิงหกเป็นเพื่อน
มีเส้นทางไปยังโรงอาหารสำหรับเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ ทว่าองค์หญิงหกไม่ได้ไปกินข้าว แค่เอาของว่างกับผลไม้แล้วย้อนกลับห้องสมุด
ตอนเย็นของทุก ๆ วันพุธ หากไม่มีธุระ คนนั้นจะเข้าห้องสมุดจนถึงเวลาปิด
ตอนแรกนางต้องดูแลห้องสมุดระหว่างเก้าโมงเช้าถึงบ่ายสาม ทว่าเพื่อให้ตัวเองมีโอกาสพบปะกับอีกฝ่าย นางจึงขอเปลี่ยนเวลากับคนอื่น
วันนี้ไม่รู้เพราะเหตุใด นางกลับไม่เจอหน้าอีกฝ่ายตลอดทั้งบ่าย และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาตอนกลางคืนหรือไม่
องค์หญิงหกกำลังครุ่นคิดก็เห็นมีสองคนที่คุ้นตายืนด้านหน้าประตู
“เสด็จพ่อ ฝูกงกง?” นางแปลกใจ รีบเข้าไปทักทาย “ไฉนเสด็จพ่อจึงมาสำนักศึกษาเพคะ แล้วยังแต่งกายเยี่ยงนี้อีก?”
คงเป็นเพราะจักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้เจอหน้าองค์หญิงหกมานาน จึงแสดงสีหน้าดีใจออกมา
“ก็มาเยี่ยมเจ้าอย่างไรเล่า ไม่เจอกันนาน เจ้าผอมลงนะ”
“เสด็จพ่อพูดไปเรื่อย ลูกส่องกระจกทุกวัน รู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นด้วยซ้ำ เหตุใดถึงมาตอนค่ำเพคะ?”
องค์หญิงหกดึงป้ายออกแล้วไขกุญแจห้องสมุด เชิญให้พวกเขาเข้าไปนั่ง
จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินคำถามนี้ก็เผยความอึดอัดใจ กระแอมเสียงแล้วกล่าว
“ข้าออกมาสำรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้าน จึงทำให้มาสาย เมียเจ้าสามบอกว่าเจ้ากลับเมืองหลวงได้ทุกๆครึ่งเดือนมิใช่หรือ? ตอนนี้เกือบสองเดือนแล้วแต่เจ้าไม่เคยกลับไปเลยสักครั้งเดียว?”
เขาพูดเฉไฉอย่างแนบเนียน องค์หญิงหกก็ไม่ได้คิดมาก
“ลูกเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ควรทำความคุ้นชินเยอะๆ จึงไม่รับกลับเมืองหลวงเพคะ”
“เสด็จพ่องานยุ่งตลอด วันหยุดทั้งทีควรพักผ่อนดีๆ ไม่มาหาลูกก็ได้ ลูกสบายดี ผู้ดูแลให้การต้อนรับลูกเป็นอย่างดี เสด็จพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพคะ”
“ตอนนี้เป็นเวลากินข้าวเย็น เสด็จพ่อกับฝูกงกงกินหรือยังเพคะ?”
ฝูกงกงรีบเอ่ยว่า “ฝ่าบาทเดินสำรวจทั้งวัน ยังไม่มีเวลากินข้าวเย็นเลยพ่ะย่ะค่ะ”
องค์หญิงหกได้ยินก็หยิบกล่องอาหารให้พวกเขา
“ข้ากำลังลดน้ำหนักอยู่พอดี เจ้ากับเสด็จพ่อกินรองท้องไปก่อนแล้วกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...