พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 694

เสวียนจีเกาหัว “บางทีเขาอาจจะกินตอนเช้ามากเกินไปกระมัง ส่วนข้าหิวจะตายอยู่แล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ!”

นางคลอเพลง กระโดดไปยังโรงอาหารเป็นคนแรก

โรงอาหารคึกคักยิ่งนัก เกือบทุกคนพากันพูดถึงรถล้อไม้

“หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงิน...เฮ้อ ของล้ำเลิศเช่นนี้คุ้มค่ากับราคา แต่ชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเราจ่ายไม่ไหวหรอก”

“บรรดาผู้ดูแลเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าสำนักศึกษาชิงอี้จะมีรถล้อไม้สาธารณะไว้ชุดหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนเดินทางสะดวกในยามปกติ เจ้าไม่ต้องจ่ายเงินซื้อหรอก”

“คูปองส่วนลดร้อยละยี่สิบนั่นน่าจะเก็บไว้ให้พวกเราใช้หลังเรียนจบ หรือหากมีญาติหรือสหายที่บ้านอยากซื้อก็ให้คูปองนี้ไปเป็นของขวัญได้เช่นกัน”

ศิษย์บางคนพยักหน้าเห็นด้วย “พวกเราครอบครัวใหญ่ สามปีก็ยังเก็บเงินหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงไม่ได้ อีกอย่างพี่สะใภ้ข้าเพิ่งคลอดลูกเมื่อเดือนที่แล้ว ข้ากะว่าจะเอาคูปองส่วนลดสามสิบตําลึงเงินไปช่วยจุนเจือครอบครัว”

จักรยานไม้ราคาหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงิน รถสามล้อไม้ราคาสามร้อยตำลึงเงิน เห็นชัดว่าคูปองส่วนลดอย่างหลังจะคุ้มค่าที่สุด

แต่คนธรรมดาสามัญก็ยังซื้อยากอยู่ดี คงขายให้คนรวยที่อยากได้รถสามล้อไม้ได้ อีกฝ่ายจะประหยัดเงินได้สามสิบตำลึงเท่ากับเขาหาเงินได้สามสิบตำด้วย

ลูกศิษย์ส่วนใหญ่รู้สึกว่ายังจ่ายไม่ไหว แต่กลับไม่มีใครคิดว่ารถไม้ราคาแพง อย่างไรเสียก็เห็นกับตาตนเองถึงการใช้งานได้จริงและความมหัศจรรย์ของรถไม้

โดยเฉพาะรถสามล้อไม้ที่ฝีมือประณีตอย่างน่าอัศจรรย์

ขับได้โดยไม่ต้องใช้ม้าอาชาไนย เบาะหลังก็กว้างขวาง ว่ากันว่าสองที่นั่ง แต่สามคนเบียดเสียดกันได้ไม่มีปัญหา

ด้านบนสามารถกันลมฝน เบาะหลังถอดออกได้ วางราบแล้วเปลี่ยนอะไหล่จุดรับน้ำหนักก็บรรทุกสินค้าได้เหมือนเกวียน

“เดี๋ยวถ้าได้คูปองส่วนลดครึ่งราคาก็คงจะดีไม่น้อย เก็บเงินสักสองสามปีก็ซื้อคันหนึ่งได้ ต่อไปจะหาภรรยาก็ง่ายมากขึ้น”

อวิ๋นหลิงได้ยินแล้วก็อดนึกขำไม่ได้

เซียวปี้เฉิงมองนางอย่างสงสัยใคร่รู้ “ทำไม คิดว่าตลกหรือ”

“ข้าเพิ่งฉุกนึกเรื่องบางอย่างจากชาติที่แล้วได้” อวิ๋นหลิงเบาเสียงลงอธิบายว่า “โลกของข้าในปี1970 มีคำพูดที่เรียกว่า ‘สามสิ่งใหญ่’ หมายถึงสิ่งของทั่วไปที่ผู้คนแสวงหาตอนแต่งงาน จักรยานก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย”

จากราคา ณ เวลานั้น การซื้อจักรยานคันหนึ่งไม่ใช่ถูกๆ สำหรับครอบครัวทั่วไป ต้องสะสมเงินอยู่นานกว่าจะได้

ถึงแม้ราชวงศ์แคว้นต้าโจวจะแตกต่างกันในเรื่องเวลา แต่วิถีประวัติศาสตร์ก็คล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจอยู่เสมอ

อวิ๋นหลิงประเมินว่าในอีกไม่กี่ปี รถล้อไม้จะกลายเป็นของหมั้นและเป็นสินเดิมที่จำเป็นต่อการแต่งงานของประชาชน

เซียวปี้เฉิงอดเงียบไปครู่หนึ่งไม่ได้ ตามที่อวิ๋นหลิงพูด คนธรรมดาในโลกนั้นจะแต่งงานกันก็ต้องดูราคาบ้าน

พระราชวังกับตำหนักบูรพาที่เขาพำนักอยู่นั้นเป็นทรัพย์สินสาธารณะทั้งคู่ เงินส่วนตัวสิบเดือนก็พอจะซื้อรถสามล้อไม้ได้

หากไปอยู่บ้านเกิดของอวิ๋นหลิง เขาคงจะโสดสนิท

ทันใดนั้นก็ไม่อิจฉาโลกอื่นอีกแล้ว

วันนี้แตกต่างจากวันวาน ไม่นานโรงอาหารก็เงียบสงบ ทุกคนต่างคิดแต่เรื่องจับรางวัล กินข้าวเที่ยงเสร็จก็วิ่งไปเข้าแถวที่ลานสำนักศึกษา

จับรางวัลเริ่มบ่ายโมงตรงเวลา อวิ๋นหลิงเดินเนิบช้า เห็นหางแถวจับรางวัลยาวมาแต่ไกล

นางเหลือบมองนาฬิกาพกเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกสิบนาทีกว่าจะเริ่มต้น

นานมากแล้วที่ไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนอย่างวันนี้ ยากนักที่เซียวปี้เฉิงจะเริ่มสนใจ แล้วดึงอวิ๋นหลิงไปเข้าแถว

สองมือเสวียนจีถือไม้ปัดขนนกสีสันสดใส โบกไม่หยุดราวกับเป็นแท่งไฟเรืองแสง ยืนอยู่ข้างหน้าแถวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น

“ทุกคนกรุณาเข้าแถว ห้ามแซง!”

“แต่ละคนจับสลากได้อันเดียว จับแล้วก็ไปขอลายเซ็นกับศิษย์พี่ข้าได้”

สองสามีภรรยามาถึงช้า ต่ออยู่ข้างหลังท้ายแถว ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮ้อแว่วมาจากด้านหน้าเป็นระยะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ