พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 693

เวลานี้เอง แม้แต่สายตาของบรรดาผู้ชมก็ตกใจขึ้นอีกเล็กน้อย

แต่เฟิ่งเหมียนยังคงดูเย็นชา ไม่เผยริ้วอารมณ์บนใบหน้าแม้แต่น้อย ทำเหมือนมองไม่เห็นผู้คน ราวกับจมจ่อมอยู่ในโลกกายกรรมของตนเอง

หลังจากแสดงท่าผาดโผนแล้ว เสวียนจีก็เริ่มขายอุปกรณ์ตกแต่งรถล้อไม้ เช่น เบาะรองนั่งกับถุงมือ

“ถ้าอากาศหนาวจะทำอย่างไรดี ไม่ต้องกลัว ทางเรามีถุงมือผ้าฝ้ายหลากสีสัน ถ้าร้านเปิดก็ซื้อพร้อมกับรถล้อไม้ได้เลย จะมีส่วนลดแถมด้วยนะ!”

“ทางลาดชันจะทำอย่างไรดี ไม่ต้องกลัว ทางเรามีเบาะผ้าฝ้ายที่ให้สัมผัสนุ่มและยืดหยุ่นสูง ถนอมบั้นท้ายอันบอบบางของทุกท่าน แม้ทางจะชันแต่ก็จะนุ่มสบายเหมือนนั่งรถม้า!”

เสวียนจีเอ่ยคำโฆษณาออกมาอย่างไม่ตั้งใจด้วยความตื่นเต้น ลูกศิษย์โดยรอบฟังแล้วต่างพากันมองหน้าไปมา แล้วเอามือปิดปากลอบหัวเราะคิกคัก

ท่ามกลางสายตาที่มุงดู เสวียนจีหยิบถุงมือกับเบาะลวดลายผ้าฝ้ายขนาดใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือออกมา

“การผสมสีดั้งเดิมระหว่างสีแดงกับสีเขียว จะดูเร่าร้อนและไร้ขีดจำกัดให้ความหนักแน่นและมั่นคง คู่ควรอย่างลงตัว!”

จากนั้นนางก็วางเบาะสีแดงลายดอกไม้สีเขียวบนที่นั่ง ทำไม้ทำมือให้ทุกคนถอยห่างไปออกไปสักสองสามเมตร

อวิ๋นหลิงเพ่งมองจึงพบว่าบนลานแสดงนั้นมีเครื่องกั้นถนนที่ทำจากไม้คล้ายแถบกันชนจำนวนไม่น้อยวางอยู่ แต่ความสูงต่ำไม่เท่ากัน

เครื่องกั้นถนนมีความยาวรวมประมาณร้อยเมตร มีกองกรวดขนาดต่างๆ กระจัดกระจายอยู่บนพื้นระหว่างเครื่องกั้นถนน มองแล้วชวนให้ตื่นตระหนก

เซียวปี้เฉิงเข้าใจทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เห็นสายตาเฟิ่งเหมียนเปลี่ยนจากตกใจเป็นสยองขวัญ เขาก็เอ่ยปากอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้

“เฟิ่งเหมียน...ยังไม่ได้แต่งงานมีลูกกระมัง เช่นนี้จะไหวหรือไม่”

เขาเป็นนักพรตเพียงครึ่งเดียว ภายภาคหน้ายังต้องสืบทอดตระกูลเฟิ่ง ได้ยินว่ามีทายาทสืบทอดคนเดียวมาสามรุ่นแล้ว

เซียวปี้เฉิงรู้สึกว่าบุพเพสันนิวาสที่ยังไม่ก่อตัวในชีวิตของเขาอาจจะถูกฝังไปพร้อมกันในวันนี้

อวิ๋นหลิงชักเริ่มสงสัยว่าเด็กคนนั้นชักชวนเฟิ่งเหมียนให้ยินยอมพร้อมใจมาแสดงได้อย่างไร

ขณะนี้เฟิ่งเหมียนก็อยากรู้คำถามนี้เช่นกัน

เขายืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นของเครื่องกั้นถนนที่ใช้สาธิตด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก เป็นครั้งแรกที่อยากจะตบตัวเองครั้งใหญ่สักสองทีแรงๆ

เขาผู้ซึ่งอ่านคัมภีร์ลัทธิเต๋ามาหลายปี และต้องนั่งสมาธิหนึ่งชั่วยามกว่าทุกวัน เหตุใดจึงพ่ายแพ้ให้กับหญิงสาวที่เข้ามาจู่โจมออดอ้อนอย่างง่ายดายนักเล่า

รู้ทั้งรู้ว่าเสวียนจีแค่แกล้งทำ ไฉนเขายังยอมอ่อนข้อให้นาง

ไม่ควรเป็นเช่นนี้ ไม่ควรเป็นเช่นนี้...

เฟิ่งเหมียนที่แท้จริงควรเป็นคนที่สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนแม้ภูเขาจะพังทลายลงมา ยามเผชิญกับผู้คนและเรื่องต่างๆ จะใจนิ่งดั่งสายวารี รักษาสติและความสุขุมอยู่เสมอ

บางทีบิดากับผู้มีความรู้ท่านนั้นอาจพูดผิดไป เขาคงไม่ได้ลงเขามาเพื่อสานต่อบุพเพสันนิวาส

แต่มาฝ่าด่านเคราะห์กรรม

แม้ว่าจะไม่อยากและไม่เต็มใจ แต่เขาเป็นคนที่รักษาสัญญา ในเมื่อรับปากเสวียนจีว่าจะแสดงโรดโชว์ ก็จะไม่ล้มเลิกกลางคัน

เฟิ่งเหมียนเบือนหน้าเล็กน้อย เหลือบมอง ‘ความหายนะ’ ของตน สุดท้ายก็ถอนใจ ขึ้นนั่งบนรถล้อไม้ภายใต้สายตาที่ตื่นเต้นระคนคาดหวังของอีกฝ่าย

ระยะห่างยาวเพียงร้อยเมตร เฟิ่งเหมียนขี่รถกระแทกขึ้นลงราวกับกำลังนั่งรถไฟเหาะ

เซียวปี้เฉิงมองแล้วรู้สึกเจ็บแปลบๆ กระชับสองขาชิดกันโดยสัญชาตญาณ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ