พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 696

“เฟิ่งเหมียนเพิ่งทำนายเมื่อครู่นี้ว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ยากลำบากอยู่สักหน่อย ต่อไปจะทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำอีกไม่ได้ ต้องบำรุงดูแลร่างกายให้ดี ข้างนอกอากาศหนาวจัด ลมเย็นเริ่มพัดโชยมาแล้ว รีบกลับบ้านกันเถอะ”

อวิ๋นหลิงช้อนตาขึ้นมอง ไม่ต้องพูดถึงลมหนาว ใบไม้เหี่ยวเฉาบนต้นไม้ไม่สั่นไหวด้วยซ้ำ

ทว่าเซียวปี้เฉิงกลับเริ่มพร่ำพูดไม่หยุดปาก ทั้งยังเรียกลู่ฉีให้เอาเสื้อคลุมที่เขาเพิ่งถอดออกมาคลุมอวิ๋นหลิงจนแทบจะเป็นดักแด้ระบายลมไม่ได้อยู่แล้ว

ตอนนี้เขาไม่อยากอยู่ที่สำนักศึกษาชิงอี้อีก กลัวว่าความร้อนกลางภูเขาจะต่ำ ยามค่ำคืนอวิ๋นหลิงจะแข็งไปซะก่อน หลังอาหารเย็นเขาจึงพาอวิ๋นหลิงกลับวัง

ไม่นานนัก ข่าวที่สงสัยว่าอวิ๋นหลิงกำลังตั้งครรภ์ก็แพร่ไปทั่วพระราชวัง

ต่อมามีคนแต่ละตำหนักทยอยส่งของมาให้ แม้กระทั่งจักรพรรดิจาวเหรินก็เสด็จมายังตำหนักบูรพาด้วยองค์เอง

เขาจ้องมองท้องของอวิ๋นหลิง ในที่สุดรอยยิ้มยินดีก็ปรากฏบนพระพักตร์ที่ช่วงนี้มีแต่เรื่องหนักพระทัย

“เจ้าเป็นคนเอางานเอาการ หากคราวนี้คลอดลูกแฝดอีกคู่หนึ่งได้ก็จะเป็นความสุขอันประเสริฐยิ่ง”

เซียวปี้เฉิงรีบเอ่ย “อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป เฟิ่งเหมียนทำนายแล้ว ท้องนี้จะเป็นลูกสาวแน่ๆ”

จักรพรรดิจาวเหรินประหลาดพระทัยอยู่บ้าง “เขาเป็นนักพรต จะทำนายเพศได้หรือ หมอยังวินิจฉัยไม่ได้เลย คำพูดของเขาจึงไม่น่าเชื่อถือ”

“ถ้าเชื่อจะได้ผล ถ้าไม่เชื่อจะไม่ได้ผล ลูกเชื่อมั่นเฟิ่งเหมียน ท้องนี้จะเป็นเด็กผู้หญิงอย่างแน่นอน”

จักรพรรดิจาวเหรินส่ายพระพักจร์อย่างไม่เห็นด้วย “เช่นนั้นเจ้าอย่าเชื่อเสียจะดีกว่า”

เซียวปี้เฉิงมุ่นคิ้วเล็กน้อย “ท่านไม่ชอบเด็กผู้หญิงหรือ”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว ตระกูลเซียวไม่ค่อยได้คลอดลูกสาว ยากนักที่จะมีหลานสาว ข้าจะไม่ชอบได้อย่างไรเล่า ข้าแค่คิดว่าทายาทของเจ้ายังน้อยไปนิด ควรให้นางหนูหลิงมีลูกชายอีกสองสามคนก่อน รอจนกว่าจะมีลูกชายครบแปดคน แล้วอยากจะมีลูกสาวก็ค่อยเอาไว้ทีหลัง”

ถึงอย่างไรการสืบราชสมบัติก็เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก จักรพรรดิจาวเหรินย่อมหวังว่ามีเด็กผู้ชายมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น

อวิ๋นหลิงที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วพูดไม่ออก ไม่ต้องพูดถึงว่าจะท้องหรือไม่

เพียงแต่ประเด็นการมีลูกชายลูกสาว จะอาศัยคำทำนายมาควบคุมไม่ได้

แม้แต่ในยุควิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าอย่างศตวรรษที่ยี่สิบสาม เทคโนโลยีประดิษฐ์ก็ไม่อาจระบุเพศทารกในครรภ์ได้

เซียวปี้เฉิงค่อนข้างไม่พอใจกับรับสั่งของจักรพรรดิจาวเหริน

“ลูกสาวเป็นอย่างไร ลูกสาวก็ดีพอๆ กับลูกชาย ภายหน้าถ้าลูกสาวของลูกโดดเด่นกว่าลูกชาย เช่นนั้นมอบบัลลังก์ให้นางก็คงไม่ใช่เรื่องเสียหาย ดูอย่างในหมู่พี่น้องอวิ๋นหลิงสิมีใครแย่บ้าง”

เดิมจักรพรรดิจาวเหรินจะแย้ง แต่พอได้ยินประโยคครึ่งหลังก็หมดคำจะพูด

อวิ๋นหลิงยึดท้องฟ้าที่เปรียบดั่งอำนาจในราชสำนักกับวังหลังไว้ครึ่งหนึ่ง นี่คือความจริงที่ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้

ขณะที่พูดกันอยู่ นอกตำหนักก็เกิดเสียง ‘อะแฮ่ม’ และ ‘แค่กๆ’ ดังขึ้น

อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นมองเห็นร่างที่คุ้นเคยของตาแก่น้อยพลันปรากฏตัวที่หน้าประตู

เห็นพระเจ้าหลวงทรงอุ้มไก่มือซ้าย อุ้มเป็ดมือขวา ยังมีเด็กอ้วนท้วนทั้งสองอย่างฮั่วถวนเอ๋อร์กับเสวี่ยถวนเอ๋อร์อยู่ในตะกร้าบนหลัง

“เหตุใดท่านจึงมากะทันหัน ไม่ให้นางกำนัลช่วยขนของมาเล่า?”

ทั้งสองสามีภรรยารีบกุลีกุจอเข้าไปรับหน้า เซียวปี้เฉิงเอาตะกร้าที่มีลูกทั้งสองวางอยู่บนหลังลงมา ขณะที่อวิ๋นหลิงรินชาร้อนถ้วยหนึ่งด้วยตนเอง

พระเจ้าหลวงนั่งพักหายใจบนเก้าอี้ โบกมือแล้วพูดว่า “นางกำนัลพวกนั้นหัวทึ่มจะตาย จับไก่ยังไม่ได้เลย ข้าก็ต้องพึ่งตัวเองออกมากับพวกเสวี่ยถวนเอ๋อร์”

ยามปกติว่างจนเบื่อ เขาก็ปลูกผัก ผลไม้ยืนต้นสองแถว และเลี้ยงไก่เป็ดเล้าหนึ่งอยู่ในตำหนักฉางหนิง

นอกจากให้อาหารด้วยตนเองแล้ว พระเจ้าหลวงยังทรงสั่งให้นางกำนัลเอาเชือกผูกไก่เป็ดไปปล่อยเดินเล่นที่สวนป่าหลวงบนภูเขาด้านหลัง

ไก่เป็ดที่เลี้ยงเช่นนี้เนื้อจะแน่น น้ำแกงตุ๋นมีกลิ่นหอมมากกว่า

หลังจากได้ยินว่าอวิ๋นหลิงตั้งครรภ์ พระเจ้าหลวงก็อยากจะจับแม่ไก่แก่มาตุ๋นน้ำแกงให้นางบำรุงสุขภาพ ไก่พวกนั้นเปรียวยิ่งนัก กระพือปีกบินฉวัดเฉวียน ไม่มีผู้ใดจับได้เลย

เสวี่ยถวนเอ๋อร์ฉลาดหลักแหลม เขาเทอ่างน้ำลงบนพื้น ขาของแม่ไก่แก่ก็จับตัวแข็ง

เหตุที่ไม่กล้าให้ฮั่วถวนเอ๋อร์มาร่วมด้วยก็เพราะกลัวว่าแม่ไก่แก่จะกลายเป็นไก่ย่างเสียก่อนจะตุ๋นลงหม้อด้วยซ้ำ

ทันทีที่เด็กทั้งสองแตะเท้าลงพื้น ฮั่วถวนเอ๋อร์ก็กระโดดโผเข้ากอดอวิ๋นหลิง ลูบท้องนางอย่างตื่นเต้นระคนอยากรู้อยากเห็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ