อวิ๋นหลิงรู้สึกเห็นใจเฟิ่งไข่เหล็ก นางไม่เคยรู้เลยว่าสามีของตนจะมีเวลาถึงขนาดไปข่มขู่อีกฝ่ายได้
ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป ทุกคนล้วนคิดว่าอวิ๋นหลิงตั้งครรภ์ หลงเย่ถึงกับเข้าวังมาเยี่ยมนาง
“เธอท้องอีกแล้วหรือ แต่ฉันตรวจไม่เจอชีพจรเด็กน้อยเลย”
อวิ๋นหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน “ยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ จึงไม่ชัวร์ว่าจะท้องหรือเปล่า ตอนนี้ปล่อยให้เขาสนุกไปอยู่คนเดียวก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเข้าใจผิดขึ้นมาคงจะสนุกพิลึก”
หากเข้าใจผิดจริงๆ จะไม่มีใครหัวเราะเยาะนาง แต่เซียวปี้เฉิงจะผิดหวังอย่างใหญ่หลวง
พี่น้องสองคนกำลังคุยกัน อวิ๋นหลิงก็มองท้องของหลงเย่
“พี่กับเศรษฐีหนุ่มล่ะ มีวี่แววอะไรบ้างหรือเปล่า”
“พวกเราเพิ่งแต่งงานได้เดือนกว่า จะมีวี่แววอะไรกัน ถ้ามีข่าวละก็ เขาคงโดนสวมเขาไปแล้วละ”
หลงเย่คลี่ยิ้มละไม เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน “เขากังวลที่ฉันสุขภาพไม่ดี อยากบำรุงฉันสักสองสามปีก่อนจะมีลูก ตั้งแต่แต่งงานมาก็ยับยั้งชั่งใจการร่วมหอกันอยู่บ่อยครั้ง”
ร่างกายของนางอ่อนแอเหลือเกิน ดีขึ้นกว่าชาติที่แล้วเพียงเล็กน้อย
ตามคำพูดหลิงซู มีความเป็นไปได้สูงที่จะเสียชีวิตจากการคลอด แม้จะมีอวิ๋นหลิงอยู่ทั้งคน แต่กงจื่อโยวก็ยังไม่กล้าเสี่ยง
เขาตัดใจให้หลงเย่ดื่มยาไม่ได้ ดังนั้นทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายพลอดรักกันด้วยคำหวานซึ้ง เขาจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ
อวิ๋นหลิงจับจ้องหลงเย่ เห็นใบหน้านางแดงเรื่อเล็กน้อย คิ้วงามก็ดูผ่อนคลายขึ้น
“สีหน้าของพี่ดีขึ้นกว่าตอนที่เพิ่งมาถึงแคว้นต้าโจวมากทีเดียว คิดว่าบำรุงให้ดีสักสองปีก็จะมีลูกได้”
“ใช่แล้ว พอมาถึงแคว้นต้าโจวก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ ความตึงเครียดที่สะสมมานานก็ผ่อนคลาย ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจเสียที”
หลงเย่ระบายยิ้มบาง บัดนี้อยู่ห่างไกลจากแคว้นถังใต้ ฟงอิ๋งอิ๋งก็ตายชำระหนี้ไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องพะวักพะวนอีก
อวิ๋นหลิงเข้าใจดีว่าไม่ง่ายนักที่นางจะวางแผนขบคิดมาถึงสองชาติ จึงไม่อยากเอาเรื่องหยุมหยิมในราชสำนักกับสำนักศึกษาไปกวนใจนาง
ตอนนี้สิ่งสำคัญอันดับแรกของหลงเย่คือการดูแลร่างกายให้ดี ทำสิ่งที่ชอบในเวลาว่างก็พอ
นี่คือความปรารถนาของพวกอวิ๋นหลิงในชาติก่อน ในโลกนี้ต่างหากคือความเป็นจริง
แม้หลงเย่จะไม่สนใจสิ่งใด แต่ก็รู้ความเคลื่อนไหวในเมืองหลวงเป็นอย่างดี ซักถามความคืบหน้าของสำนักศึกษาชิงอี้เป็นระยะๆ
“ถ้าขาดเงินก็มาหยิบยืมที่ฉันกับเศรษฐีหนุ่ม เขามีเงินในร้านรับฝากเงินมากมายนับไม่ถ้วน ขืนปล่อยทิ้งไว้จะขึ้นรา เอามาใช้ในสถานที่ที่มีประโยชน์จึงจะคุ้มค่า”
อวิ๋นหลิงรับคำอย่างปลาบปลื้มใจ หมู่นี้แคว้นต้าโจวส่งปืนคาบศิลาจำนวนหนึ่งให้แคว้นตงฉู่ ทำกำไรได้ไม่น้อย ไม่ต้องลำบากเข็ญใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
รวมกับปืนใหญ่ที่เสวียนจีพัฒนาก่อนหน้านี้ เซียวปี้เฉิงทำการทดลองลับในค่ายทหารไปพอสมควรแล้ว รออาวุธที่ทรงอนุภาพทำลายล้างเช่นนี้ออกมาก็จะทำเงินได้มหาศาล
ช่วงครึ่งปีหลัง ดินสอสีกับยาหลายชนิดหลั่งไหลเข้าสู่แคว้นตงฉู่ ตี้หวู่เหยาก็ฝากมาบอกว่าของเหล่านี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คาดว่าสิ้นปีนี้จะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
เงินทุนที่จะก่อตั้งสำนักศึกษาอนุบาลนำร่องมีเหลือเฟือทีเดียว
นึกถึงเรื่องของสำนักศึกษา อวิ๋นหลิงเตือนสติเซียวปี้เฉิงอีกครั้ง ให้เขาอย่าลืมไปจัดการเรื่องการแต่งงานของหรงรั่วกับถังจูซิงให้เรียบร้อย
เซียวปี้เฉิงกล่าวว่า “วางใจได้ วันนี้ข้าออกวังไปหาบิดามารดาของหรงรั่วกับอาลักษณ์กรมโยธา เพื่อบอกเรื่องนี้โดยเฉพาะ คาดว่าอีกสองวันจะรู้ผล”
เขาสัญญากับลูกศิษย์ว่าจะไม่บอกความสัมพันธ์ของตระกูลถังกับตระกูลหลิ่วให้ผู้อาวุโสของทั้งสองฝ่ายทราบ
“ข้าบอกพวกเขาว่าจูซิงทำผลงานในสำนักศึกษาได้ยอดเยี่ยม ต่อไปจะมอบหมายภารกิจสำคัญให้เขาโดยจะส่งไปที่ไกลอาจจะไม่ใช่แค่สามปี”
อาลักษณ์ถังเป็นชายชราที่ฉลาดหลักแหลม รู้ว่าหลานชายสายตรงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้ากรรมการฝ่ายบู๊ ได้รับความโปรดปรานจากรัชทายาทและพระชายา อนาคตย่อมสดใส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...