เฟิ่งเหมียนผงกศีรษะไปทางอวิ๋นหลิงกับสามี กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ต่อไปก็หวังว่าประเทศของท่านจะให้ความช่วยเหลือ”
เซียวปี้เฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกันว่า “บัดนี้ทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรที่ลึกซึ้ง หากแคว้นตงฉู่ประสบปัญหา แคว้นต้าโจวย่อมยื่นมือช่วยเต็มที่ เสด็จพ่อตัดสินพระทัยจะสนับสนุนแคว้นตงฉู่ด้วยกองทหารหนึ่งแสนนาย พลปืนไฟสองพันนาย และปืนใหญ่สามกระบอก”
ช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ผู้คนในแคว้นต้าโจวมีคุณภาพชีวิตที่ดีวันดีคืน ทำการค้ากับแคว้นตงฉู่อย่างเป็นล่ำเป็นสัน
เมื่อแคว้นตงฉู่ตกอยู่ในสถานการณ์เปลวไฟสงครามลุกลามไปทั่ว แคว้นต้าโจวจะได้รับผลกระทบอย่างมาก พวกเขาต้องช่วยแคว้นตงฉู่สกัดโจรสลัดญี่ปุ่นนอกแนวป้องกันชายฝั่ง
ขณะนี้ทางเผ่าทูเจวียมั่นคงมานานแล้ว ฝ่ายหนานเจียงก็ไม่กล้าวู่วาม ราชสำนักเป่ยฉินสงบสุข แคว้นต้าโจวก็มีกำลังพอจะส่งกองทหารอันเกรียงไกรไปสนับสนุนแคว้นตงฉู่
วิกฤติที่แคว้นตงฉู่เผชิญอยู่ในยามนี้นั้นใหญ่หลวงกว่าความขัดแย้งกลางเมืองของแคว้นต้าโจวครั้งก่อนเสียอีก
มีหนอนบ่อนไส้ในราชวงศ์ที่ร่วมมือกับโจรสลัดญี่ปุ่นหมายจะบุกรุกและยึดครอง จึงส่งพลปืนไฟสองพันนายไปสังหารหนอนบ่อนไส้
อวิ๋นหลิงถามด้วยความเป็นกังวล “หลังสงครามครั้งนี้สิ้นสุดลง ราชสำนักแคว้นตงฉู่มั่นคงแล้ว พวกท่านก็ควรปล่อยเสวียนจีเป็นอิสระได้แล้วกระมัง?”
“ข้าจะรีบจัดการให้เสร็จ จะกลับมาก่อนที่ท่านจะคลอดให้ได้!”
เสวียนจีตบหน้าอกด้วยสีหน้าฮึกเหิม ราวกับทหารที่กล่าวคำอำลาภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ กำลังจะเข้าสู่สมรภูมิรบในอีกไม่กี่วัน
เฟิ่งเหมียนอึ้งไปครู่หนึ่ง “...ใช่ พวกเราจะรักษาสัญญา”
จัดการศัตรูแล้ว รัชทายาทแคว้นตงฉู่ก็จะนั่งในฐานะผู้สืบทอดบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง และไม่จำเป็นต้องให้พระชายารองอย่างเสวียนจีมาบังหน้า
ที่สำคัญรัชทายาทแคว้นตงฉู่เองก็มีนางในดวงใจอยู่แล้ว หากศัตรูถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก เขาก็ยินดีปล่อยเสวียนจีไป
แต่หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปเขากับแม่สาวน้อยจะแยกกันไปคนละทิศคนละทางหรือไม่
เขายังคงรอคนที่เป็นพรหมลิขิตอยู่ในพระราชวังตงฉู่ ขณะที่นางกลับไปยังแคว้นต้าโจว และทำในสิ่งที่นางต้องการทำอย่างมีความสุข...
นี่คือตอนจบที่คาดการณ์ไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่ทันใดนั้นเฟิ่งเหมียนก็พบว่าในใจบังเกิดความเศร้าหดหู่และเสียใจอยู่บ้าง
นักพรตย่อมไม่ยินดียินร้ายต่อทางโลก ช่วงยี่สิบเจ็ดปีที่ผ่านมา เฟิ่งเหมียนไม่มีความปรารถนาใดๆ และไม่เคยคาดหวังสิ่งใดเลย
แต่บัดนี้ความรู้สึกที่เรียกว่าอาลัยอาวรณ์เข้าครอบครองหัวใจของเฟิ่งเหมียนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เกิดระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในทะเลสาบอันเงียบสงบราวกับสระน้ำลึกของเขา
จู่ๆ เฟิ่งเหมียนก็สังเกตเห็นความหวั่นไหวในใจ พลันผุดลุกขึ้นยืนอย่างเคร่งขรึม
“ข้ายังมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ คงรั้งอยู่ต่อไม่ได้แล้ว”
เขาต้องกลับไปนั่งสมาธิที่เรือนชิงซิน
เสวียนจีจับต้นชนปลายไม่ถูก “เหตุใดจู่ๆ เขาจึงสีหน้าเปลี่ยนไป”
นางคิดในใจว่าเหตุใดเฟิ่งเหมียนจึงไม่ดีใจที่ครั้งนี้นางตกปากรับคำกลับแคว้นตงฉู่อย่างง่ายดายโดยไม่งอแงแม้แต่น้อย
“ถึงอย่างไรเขาก็เป็นราชครูแห่งแคว้นตงฉู่ ยามนี้ภายในวุ่นวายภายนอกรุกราน เผชิญศัตรูทั้งสองฝ่าย เขาจะวิตกกังวลและร้อนใจย่อมเป็นเรื่องปกติ”
อวิ๋นหลิงพูดจบก็ไปเตรียมข้าวของด้วยตนเอง
ก่อนพวกเสวียนจีจะออกเดินทาง นางต้องเตรียมยารักษาบาดแผลและยาพิษที่ใช้โจมตีศัตรูหนึ่งชุด
สือจิ่วห่างหายจากแคว้นตงฉู่มาสองปีแล้ว คราวนี้ตัดสินใจจะตามพี่สาวกลับไป
ก่อนออกเดินทาง เขากับอู๋อันกงเข้าวังไปเยี่ยมอวิ๋นหลิงด้วยกัน กล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...