เมื่อเหล่าหญิงงามเข้ามาพำนัก พระราชวังก็ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้น แต่สำนักศึกษาชิงอี้กลับเงียบเหงา
วันแรกที่คัดเลือกหญิงงามขั้นต้น เซียวปี้เฉิงก็ตามจักรพรรดิจาวเหรินไปสำนักศึกษา
ผ้าม่านหนาทึบแขวนอยู่ด้านนอกรถสามล้อไม้ บังลมและหิมะท่วมฟ้าด้านนอก แสงส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระดาษ ภายในรถมืดสลัว แต่บริเวณโดยรอบกลับอบอุ่น
จักรพรรดิจาวเหรินนั่งครุ่นคิดอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อรถสามล้อไม้แล่นออกไปนอกเมือง จู่ๆ เขาก็เอ่ยปากถามเซียวปี้เฉิงว่า “เจ้าสาม เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าในวังหลังของข้ามีสนมน้อยเกินไป”
เซียวปี้เฉิงตะลึงงันไปครู่หนึ่ง “ยามนี้วังหลังของท่านมีคนไม่ถึงสิบคน ถือว่าค่อนข้างน้อย”
เขายอมรับแนวคิดการมีคู่สมรสคนเดียวเป็นอย่างดี แต่จักรพรรดิจาวเหรินในฐานะฮ่องเต้สมัยเก่า สนมในวังหลังไม่อาจเรียกว่ามาก อย่างน้อยก็น้อยกว่าฮ่องเต้องค์ก่อนๆ ครึ่งหนึ่ง
อีกฝ่ายไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้มาก่อน ถึงขั้นไม่สนใจรับสนมแต่งภรรยาใหม่มากนัก แต่จู่ๆ ก็เอ่ยถึงหัวข้อนี้ขึ้นมา เซียวปี้เฉิงก็รู้สึกไวถึงบางสิ่งบางอย่าง
เขาถามอย่างลังเลว่า “เสด็จพ่อ ท่านคงไม่อยากรับสนมหรอกกระมัง”
“ทำไมเจ้าทำหน้าเช่นนี้ หรือว่าข้ารับสนมไม่ได้” จักรพรรดิจาวเหรินไม่พอใจกับสายตาตกใจของเซียวปี้เฉิง
“ลูกไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่หญิงงามชุดนี้ พูดตามตรง…”
ยังเด็กเกินไป
แต่ก่อนเสด็จพ่อก็ไม่ชอบสิ่งนี้ แล้วเหตุใดจู่ๆ จึงเปลี่ยนใจ
จักรพรรดิจาวเหรินโบกมือตัดบท “ข้าไม่ได้เลือกสนมจากหญิงงาม หญิงงามเหล่านั้นอายุพอๆ กับหรงเอ๋อร์ ถ้าหลับหูหลับตาทำลงไป เช่นนั้นข้าจะเป็นคนเช่นไร”
“แล้วท่านคิดจะ...”
“ข้าจะบอกเจ้าตามตรงแล้วกัน ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าไปเยี่ยมชมสำนักศึกษาชิงอี้เป็นการส่วนตัว ได้พบกับหญิงม่ายโดยบังเอิญ ข้าคุยกันแล้วรู้สึกถูกคอ ข้าเลยตัดสินใจจะเรียกนางเข้าวังมาเป็นสนม”
พูดถึงแม่นางหลี สีพระพักตร์ของจักรพรรดิจาวเหรินก็อ่อนลงเล็กน้อย
เซียวปี้เฉิงฟังแล้วก็อดมองจักรพรรดิจาวเหรินด้วยความประหลาดใจไม่ได้ ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
ในราชวงศ์ก่อนๆ มีฮ่องเต้หลายพระองค์ที่รับหญิงม่ายเป็นสนม นี่ไม่ใช่เรื่องหายาก
ที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ หลังจากประทานความตายให้เสี่ยวเฟิงเพียงเก้าเดือน เสด็จพ่อถึงขั้นเกิดความคิดจะรับสนม?
“ท่าน...เหตุใดจู่ๆ ท่านจึงอยากรับสนม”
จักรพรรดิจาวเหรินพรูลมหายใจยาวตรัสอย่างกลัดกลุ้ม “นับตั้งแต่เสี่ยวเฟิงตายไป ข้ามักจะรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวอยู่บ่อยๆ ปกติก็แทบจะหาคนมาพูดความในใจไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“เจ้าก็รู้ว่าหลี่กุ้ยเฟยเป็นคนเช่นไร อยู่กับนางเหนื่อยกว่าว่าราชการช่วงเช้าเสียอีก สนมเหลียงเป็นคนอ่อนโยนและมีคุณธรรมก็จริง แต่นางระมัดระวังมากเกินไป นอกจากตอนที่พูดคุยกับเจ้าห้าที่จะพูดมากขึ้นอยู่สักหน่อย เวลาอื่นๆ ก็ได้แต่เออออเห็นด้วย น่าเบื่อชะมัด”
เซียวปี้เฉิงอดพูดไม่ได้ว่า “แล้วเสด็จแม่ลี่เล่า เสด็จแม่ลี่เป็นคนสง่างาม สุภาพอ่อนโยน ทั้งยังรอบรู้เป็นอย่างดี เชี่ยวชาญทั้งบทกวี ตำรา มารยาท ดนตรี และวรยุทธ์ เหตุใดจึงยังเข้ากับท่านไม่ได้”
ในบรรดาสนมของวังหลัง ลี่ผินเป็นคนที่มีนิสัยเข้าอกเข้าใจมากกว่าและเข้ากับทุกคนได้ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...