ช่วงพลบค่ำ ท้องฟ้ามีหิมะโปรยปราย
เซียวปี้เฉิงนำโคมไฟกลับวังหลวง ฮัมเพลงมาตลอดทาง อารมณ์ไม่เลวเลยทีเดียว
ภายในรถสามล้อไม้อบอ้าวเล็กน้อย เขาอยากจะลงจากรถไปสูดอากาศสักหน่อย จึงเดินถือร่มเดินอยู่ข้างหน้า ทิ้งลู่ฉีเอาไว้ข้างหลัง
ไม่ได้เจออวิ๋นหลิงหลายวันแล้ว เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับตำหนักบูรพาเพื่อไปเจอภรรยา พร้อมทั้งแบ่งปันข่าวซุบซิบที่เพิ่งได้ยินมาให้นางฟัง
เซียวปี้เฉิงถือร่มเดินผ่านสวนหลวง หางตามองเห็นเงาร่างบอบบางไม่คุ้นตาสายหนึ่งอยู่ไกลๆ กำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางหิมะ
อีกฝ่ายสวมชุดกระโปรงสีแดง ดูโดดเด่นสะดุดตามากท่ามกลางพื้นหิมะขาวโพลน ได้ยินเสียงกระดิ่งบนร่างที่ดังกังวานขึ้นมาอย่างเลือนราง
เขาชะงักฝีเท้า รีบเปลี่ยนทิศทาง หลีกเลี่ยงที่จะเดินผ่านทางนั้น
ฮึ สาวงามที่ไม่รู้จักเจียมตัว คิดว่าเขาเป็นคนโง่ดูลูกไม้เหล่านี้ไม่ออกหรือไง
เขาไม่ใช่จิ้งอ๋องที่ซื่อบื้อเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ลู่ฉีวิ่งเหยาะๆตามมา ถามด้วยเสียงหอบว่า “องค์รัชทายาท ท่านเดินเส้นทางเล็กนี้ทำไม ถนนแคบทั้งยังลื่น ทั้งๆที่เส้นทางใหญ่เมื่อครู่กลับไปถึงตำหนักบูรพาได้เร็วกว่า”
“เจ้าจะไปรู้อะไร ถนนที่เห็นว่ากว้างและเรียบนั้น มักจะอันตรายที่สุด ไม่แน่ว่าอาจมีปีศาจอะไรแอบซ่อนอยู่ระหว่างทาง
ลู่ฉียังคงสงสัยไม่เข้าใจ แต่ก็ตามเซียวปี้เฉิงเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ ระหว่างที่เดินผ่านพุ่มดอกไม้ ด้านหน้าก็มีเสียงขลุ่ยไพเราะดังขึ้นมา เสียงกังวานลอยวน ฟังดูอ้างว้างเศร้าสร้อย
“ในวันหิมะตก ใครกันที่ว่างไม่มีอะไรทำแล้วมาเป่าขลุ่ยตรงนี้ ไม่กลัวหนาวหรืออย่างไร เป่าในห้องก็ได้นี่นา
เขาพึมพำเบาๆ หันไปอีกทีเซียวปี้เฉิงก็เลี้ยวไปอีกทางหนึ่งแล้ว แทบจะมองเงาร่างไม่เห็นแล้ว
“องค์รัชทายาท ท่านจะไปไหน รอข้าด้วย”
เซียวปี้เฉิงไม่พูดไม่จา ได้แต่แอบปล่อยพลังจิตเงียบๆ เหมือนตาข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยเมตรเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว
หลังจากนั้นลู่ฉีที่อยู่ภายใต้การเดินนำของเขา เดินวกไปวนมารอบพระราชวัง
เดิมทีใช้เวลาแค่หนึ่งก้านธูปก็กลับไปยังตำหนักบูรพาได้แล้ว แต่นี่ใช้เวลาไปสองก้านธูปก็ยังกลับไปไม่ถึง
“องค์รัชทายาท ท่านกำลังฝึกเดินออกกำลังกายเหมือนพระชายารัชทายาทหรือ”
ทำไมจึงเลือกเดินแต่เส้นทางที่เงียบสงบและห่างไกล ตลอดทางไม่มีคนเลย เขาแทบจะหนาวตายอยู่แล้ว
เซียวปี้เฉิงเดินอยู่บนระเบียงทางเดิน กำลังจะตอบคำถาม ก็พบเข้ากับฉากหนึ่งที่เกิดขึ้นในสระบัวที่อยู่ตรงข้าม ดวงตาจ้องเขม็ง
ห่างออกไปหลายเมตร ข้างกำแพงราชวังมีต้นพุทราต้นใหญ่
ตอนนี้เป็นเดือนหนึ่ง พุทราสีแดงก่ำห้อยอยู่บนกิ่งก้านหนาแน่นไปหมด ดูแล้วน่ากินจริงๆเชียว
มีหญิงสาวสวมชุดสีเขียวที่ไม่รู้ว่าเป็นใครนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ร่างกายโคลงเคลง เหมือนจะตกลงมาอย่างไรอย่างนั้น
ลู่ฉีมองตามสายตาของเขาไป ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน
“สาวรับใช้จากตำหนักไหนกัน ทำไมจึงไร้ระเบียบเช่นนี้ นั่นเป็นต้นพุทราที่พระเจ้าหลวงทรงปลูกเองกับมือ นางถึงกับกล้าขโมยพุทรา”
ว่าแล้ว เขาก็รีบจ้ำอ้าวเข้าไปหา เหมือนจะไปหยุดอีกฝ่าย
ชั่วขณะนั้นเซียวปี้เฉิงถูกปฏิกิริยาเถรตรงของเขาทำเอาพูดไม่ออก แอบส่ายศีรษะเงียบๆ
จากมุมที่เขามองไป สามารถมองเห็นด้านขวาของต้นพุทรา มีชายหนุ่มที่สวมชุดหรูหราพร้อมกับองครักษ์กำลังเดินเข้าไปใกล้
เป็นรุ่ยอ๋องที่เข้าวังเตรียมจะมาเยี่ยมน้องสาว
หลังจากที่หญิงสาวชุดเขียวบนต้นพุทราเห็นเขา ดวงตาก็เปล่งประกายยินดี รีบแสร้งทำเป็นกลัวพลางร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมา
“ช่วยด้วย......ข้าจะตกลงไปแล้ว ใครก็ได้ช่วยข้าที”
เซียวปี้เฉิงได้ยินก็ยิ้มเย็น ถ้าเดาไม่ผิดละก็ หลังจากที่ดึงดูดรุ่ยอ๋องไปแล้ว หญิงชุดเขียวคนนี้คงจะเท้าลื่นตกลงมาจากต้นไม้ โผเข้าไปในอ้อมออกของอีกฝ่ายเต็มเปา
หลังจากที่มีประสบการณ์จากพี่สาวของอวิ๋นหลิงและเฟิงจิ่งเหวย เขาก็สามารถอ่านแผนการของคนพวกนี้ได้อย่างแจ่มแจ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...