พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 709

ช่วงพลบค่ำ ท้องฟ้ามีหิมะโปรยปราย

เซียวปี้เฉิงนำโคมไฟกลับวังหลวง ฮัมเพลงมาตลอดทาง อารมณ์ไม่เลวเลยทีเดียว

ภายในรถสามล้อไม้อบอ้าวเล็กน้อย เขาอยากจะลงจากรถไปสูดอากาศสักหน่อย จึงเดินถือร่มเดินอยู่ข้างหน้า ทิ้งลู่ฉีเอาไว้ข้างหลัง

ไม่ได้เจออวิ๋นหลิงหลายวันแล้ว เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับตำหนักบูรพาเพื่อไปเจอภรรยา พร้อมทั้งแบ่งปันข่าวซุบซิบที่เพิ่งได้ยินมาให้นางฟัง

เซียวปี้เฉิงถือร่มเดินผ่านสวนหลวง หางตามองเห็นเงาร่างบอบบางไม่คุ้นตาสายหนึ่งอยู่ไกลๆ กำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางหิมะ

อีกฝ่ายสวมชุดกระโปรงสีแดง ดูโดดเด่นสะดุดตามากท่ามกลางพื้นหิมะขาวโพลน ได้ยินเสียงกระดิ่งบนร่างที่ดังกังวานขึ้นมาอย่างเลือนราง

เขาชะงักฝีเท้า รีบเปลี่ยนทิศทาง หลีกเลี่ยงที่จะเดินผ่านทางนั้น

ฮึ สาวงามที่ไม่รู้จักเจียมตัว คิดว่าเขาเป็นคนโง่ดูลูกไม้เหล่านี้ไม่ออกหรือไง

เขาไม่ใช่จิ้งอ๋องที่ซื่อบื้อเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ลู่ฉีวิ่งเหยาะๆตามมา ถามด้วยเสียงหอบว่า “องค์รัชทายาท ท่านเดินเส้นทางเล็กนี้ทำไม ถนนแคบทั้งยังลื่น ทั้งๆที่เส้นทางใหญ่เมื่อครู่กลับไปถึงตำหนักบูรพาได้เร็วกว่า”

“เจ้าจะไปรู้อะไร ถนนที่เห็นว่ากว้างและเรียบนั้น มักจะอันตรายที่สุด ไม่แน่ว่าอาจมีปีศาจอะไรแอบซ่อนอยู่ระหว่างทาง

ลู่ฉียังคงสงสัยไม่เข้าใจ แต่ก็ตามเซียวปี้เฉิงเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ ระหว่างที่เดินผ่านพุ่มดอกไม้ ด้านหน้าก็มีเสียงขลุ่ยไพเราะดังขึ้นมา เสียงกังวานลอยวน ฟังดูอ้างว้างเศร้าสร้อย

“ในวันหิมะตก ใครกันที่ว่างไม่มีอะไรทำแล้วมาเป่าขลุ่ยตรงนี้ ไม่กลัวหนาวหรืออย่างไร เป่าในห้องก็ได้นี่นา

เขาพึมพำเบาๆ หันไปอีกทีเซียวปี้เฉิงก็เลี้ยวไปอีกทางหนึ่งแล้ว แทบจะมองเงาร่างไม่เห็นแล้ว

“องค์รัชทายาท ท่านจะไปไหน รอข้าด้วย”

เซียวปี้เฉิงไม่พูดไม่จา ได้แต่แอบปล่อยพลังจิตเงียบๆ เหมือนตาข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยเมตรเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว

หลังจากนั้นลู่ฉีที่อยู่ภายใต้การเดินนำของเขา เดินวกไปวนมารอบพระราชวัง

เดิมทีใช้เวลาแค่หนึ่งก้านธูปก็กลับไปยังตำหนักบูรพาได้แล้ว แต่นี่ใช้เวลาไปสองก้านธูปก็ยังกลับไปไม่ถึง

“องค์รัชทายาท ท่านกำลังฝึกเดินออกกำลังกายเหมือนพระชายารัชทายาทหรือ”

ทำไมจึงเลือกเดินแต่เส้นทางที่เงียบสงบและห่างไกล ตลอดทางไม่มีคนเลย เขาแทบจะหนาวตายอยู่แล้ว

เซียวปี้เฉิงเดินอยู่บนระเบียงทางเดิน กำลังจะตอบคำถาม ก็พบเข้ากับฉากหนึ่งที่เกิดขึ้นในสระบัวที่อยู่ตรงข้าม ดวงตาจ้องเขม็ง

ห่างออกไปหลายเมตร ข้างกำแพงราชวังมีต้นพุทราต้นใหญ่

ตอนนี้เป็นเดือนหนึ่ง พุทราสีแดงก่ำห้อยอยู่บนกิ่งก้านหนาแน่นไปหมด ดูแล้วน่ากินจริงๆเชียว

มีหญิงสาวสวมชุดสีเขียวที่ไม่รู้ว่าเป็นใครนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ร่างกายโคลงเคลง เหมือนจะตกลงมาอย่างไรอย่างนั้น

ลู่ฉีมองตามสายตาของเขาไป ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน

“สาวรับใช้จากตำหนักไหนกัน ทำไมจึงไร้ระเบียบเช่นนี้ นั่นเป็นต้นพุทราที่พระเจ้าหลวงทรงปลูกเองกับมือ นางถึงกับกล้าขโมยพุทรา”

ว่าแล้ว เขาก็รีบจ้ำอ้าวเข้าไปหา เหมือนจะไปหยุดอีกฝ่าย

ชั่วขณะนั้นเซียวปี้เฉิงถูกปฏิกิริยาเถรตรงของเขาทำเอาพูดไม่ออก แอบส่ายศีรษะเงียบๆ

จากมุมที่เขามองไป สามารถมองเห็นด้านขวาของต้นพุทรา มีชายหนุ่มที่สวมชุดหรูหราพร้อมกับองครักษ์กำลังเดินเข้าไปใกล้

เป็นรุ่ยอ๋องที่เข้าวังเตรียมจะมาเยี่ยมน้องสาว

หลังจากที่หญิงสาวชุดเขียวบนต้นพุทราเห็นเขา ดวงตาก็เปล่งประกายยินดี รีบแสร้งทำเป็นกลัวพลางร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมา

“ช่วยด้วย......ข้าจะตกลงไปแล้ว ใครก็ได้ช่วยข้าที”

เซียวปี้เฉิงได้ยินก็ยิ้มเย็น ถ้าเดาไม่ผิดละก็ หลังจากที่ดึงดูดรุ่ยอ๋องไปแล้ว หญิงชุดเขียวคนนี้คงจะเท้าลื่นตกลงมาจากต้นไม้ โผเข้าไปในอ้อมออกของอีกฝ่ายเต็มเปา

หลังจากที่มีประสบการณ์จากพี่สาวของอวิ๋นหลิงและเฟิงจิ่งเหวย เขาก็สามารถอ่านแผนการของคนพวกนี้ได้อย่างแจ่มแจ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ