ฝูกงกงนั้นปากก็ตอบรับคำสั่ง แต่ก็แอบไปหาอวิ๋นหลิงอย่างลับๆ
เรื่องสำคัญเกี่ยวพันถึงพระวรกายของจักรพรรดิจาวเหริน เขาไม่กล้าปิดบังไม่รายงานจริงๆ
“สรุปแล้ว เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ฝ่าบาทเสียใจมาก ไม่มีเรี่ยวแรงตลอดทั้งวัน อาหารกลางวันอาหารค่ำก็ไม่กิน กระหม่อมกลัวจริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา”
ฝูกงกงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด ขอร้องให้อวิ๋นหลิงไปดูอาการของจักรพรรดิจาวเหริน
อวิ๋นหลิงคิดไม่ถึงว่า จู่ๆสองพ่อลูกจะทะเลาะกันรุนแรงเช่นนี้
วันมะรืนนี้อ๋องทูเจวียตะวันออกก็จะเข้าวังแล้ว การเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังหลวงนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้พลังอย่างมาก จักรพรรดิจาวเหรินที่เป็นผู้ปกครองประเทศไม่สามารถขาดการเข้าร่วมงานเลี้ยงได้
ถ้าไม่ไปดูละก็ นางก็เป็นห่วงจริงๆว่าถึงเวลาแล้วอีกฝ่ายจะทนไม่ไหว
“ข้ารู้แล้ว ฝูกงกงวางใจเถอะ ค่ำหน่อยข้ากับปี้เฉิงจะไปเยี่ยมเสด็จพ่อ”
หลังจากนั้นอวิ๋นหลิงก็เขียนสูตรอาหาร ให้ทางห้องครัวทำอาหารที่เรียกน้ำย่อย ทั้งยังเพิ่มสมุนไพรล้ำค่าที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
สองสามีภรรยาพลางรอเวลา พลางกระซิบคุยกันข้างหู
เซียวปี้เฉิงเข้าใจจักรพรรดิจาวเหรินมาก “ที่เสด็จพ่อไม่ให้ฝูกงกงบอกพวกเรา เพราะกลัวเสียหน้าแน่ๆ ไม่อยากจะถูกหัวเราะเยาะ ประเดี๋ยวพวกเราจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ดีหรือไม่”
ในเมื่อช่วงนี้อีกฝ่ายมีอาการเบื่ออาหารมาตลอด พวกเขาไปเยี่ยมอีกฝ่ายเหมือนปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไร
อวิ๋นหลิงกลับส่ายหน้า “เขาต้องรู้แน่ว่าพวกเรารู้เรื่องแล้ว ยังมีหน้าหลีกเลี่ยงอีกหรือ”
ที่จริงอาการเช่นนี้ของจักรพรรดิจาวเหริน ยิ่งต้องการคำปรึกษาทางจิต ไม่ควรอัดอั้นไว้ในใจ มิเช่นนั้นอาจเกิดโรคได้
เซียวปี้เฉิงถอนหายใจออกมา “เจ้ากับข้าล้วนไม่ถนัดในการปลอบใจคนอื่น ประเดี๋ยวถ้าเจอเสด็จพ่อ ก็เลือกพูดแต่คำพูดดีๆ พยายามไม่ยั่วให้เขาโมโห”
ก็ทำได้เพียงเท่านี้ นางไม่ใช่จิตแพทย์ สามารถห้ามตนเองไม่ให้ต่อปากต่อคำกับอีกฝ่ายก็ถือว่าชนะแล้ว
รอให้ทางห้องครัวทำอาหารเสร็จแล้ว สองสามีภรรยานำอาหารไปยังพระที่นั่งบำรุงฤทัยพร้อมกัน
จักรพรรดิจาวเหรินเห็นท่าทีของทั้งสองคน ก็รู้ว่าฝูกงกงต้องแอบไปรายงานแล้วแน่ๆ ใบหน้าหดหู่มีแววระอาใจอยู่หลายส่วน
“เรื่องของหรงเอ๋อร์พวกเจ้าต่างก็รู้แล้วกระมัง อยากจะหัวเราะเยาะข้าก็เอาเลย”
ถึงแม้สองสามีภรรยาเจ้าสามจะหัวเราะเยาะ เขาก็ไม่มีแรงจะโต้เถียงด้วยจริงๆ
เซียวปี้เฉิงเดินเข้าไปหาก้าวหนึ่ง ยกอาหารออกมา
“เสด็จพ่อพูดอะไร ข้ากับอวิ๋นหลิงมาเยี่ยมอาหารป่วยของพระองค์ รู้มาว่าช่วงนี้ทรงมีอาการเบื่ออาหาร จึงได้ให้ห้องครัวทำอาหารเรียกน้ำย่อยให้เป็นการเฉพาะ”
ฝูกงกงลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาให้อวิ๋นหลิง คำนึงถึงนางที่ตั้งครรภ์อยู่ วางเบาะรองนั่งที่อบอุ่นให้นางอย่างใส่ใจ
อวิ๋นหลิงนั่งลงไม่ใกล้ไม่ไกลนัก เอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “ใช่แล้ว เว่ยฉือเลี่ยจะเข้าวังวันมะรืนนี้แล้ว ช่วงปีใหม่จะมีงานเลี้ยงอีกหลายงาน ถ้าหากร่างกายของพระองค์ทนไม่ได้จะทำอย่างไร ถ้าให้ปี้เฉิงออกงานแทนพระองค์ เขาคงต้องเหนื่อยจนคลานแน่”
นางก็ยังพูดจาเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ยากมาที่จักรพรรดิจะฟังอย่างรื่นหู
ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร อย่างน้อยอีกฝ่ายก็เป็นห่วงสุขภาพของเขาอย่างจริงใจ ไม่ได้มาหัวเราะเยาะเขาเป็นการเฉพาะ
เซียวปี้เฉิงยกน้ำแกงถ้วยหนึ่งเข้ามา จักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้เคลื่อนไหว เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ เอ่ยถามขึ้นมาว่า
“เรื่องของแม่นางหลีกับกู้ฮั่นม่อ พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร”
สองสามีภรรยาสบตากัน เซียวปี้เฉิงเอ่ยปากขึ้นมาก่อนว่า “ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อได้ทำสัญญากับพวกเราไว้แล้ว ว่าจะไม่บังคับผู้ใด ดังนั้นทุกอย่างล้วนอยู่ที่การตัดสินใจเลือกของพวกเขา ถ้าหากในบรรดาพวกเขามีใครยินดีเข้าวัง ข้ากับอวิ๋นหลิงก็ไม่ขัดขวาง”
แน่นอนว่าเขาพูดเช่นนี้ เพราะมีความเชื่อมั่นอย่างสูงว่ากู้ฮั่นม่อไม่มีทางแต่งงานกับองค์หญิง
อวิ๋นหลิงพยักหน้า “ส่วนแม่นางหลี พูดตามตรงชายหญิงสามารถแต่งงานได้อย่างอิสระ ถ้าหากนางอยากจะเข้าวังเป็นพระสนม พวกเราก็ไม่คัดค้านอะไร”
จักรพรรดิจาวเหรินมองนางด้วยความนิ่งอึ้ง “ข้าคิดว่าเจ้าจะเอ่ยปากห้ามข้าเสียอีก หรือไม่ก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพระสนมหลี่กับสนมลี่ผิน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...