ข้างทางข้าราชการ เฟิงอู๋จีเองก็เก็บขลุ่ยหยกไป
“เดินทางไกลมาส่งกัน ก็ไม่ได้ลดทอนความรักที่พวกเจ้ารู้จักสักครั้ง กับความรักที่นางมีต่อเจ้า เรื่องราวครั้งนี้ ในใจของนางคงไม่มีอะไรติดค้างอีกแล้ว พวกเรากลับไปกันเถิด”
เพื่อส่งงานแต่งงานให้กับองค์หญิงหก วันนี้ทั้งสองคนได้จงใจลาหยุดครึ่งวัน ก่อนฟ้าสางต้องรีบจากสำนักศึกษาทิศตะวันออกไปรอที่ถนนนอกเมืองทิศตะวันตก
ตอนนี้ต้องรีบกลับให้เร็วที่สุด ตอนบ่ายยังมีเรียนอีก
กู้ฮั่นม่อพยักหน้าเบา ๆ สุดท้ายก็พูดส่งขบวนส่งแต่งงานขึ้นมาว่า "ดูแลตัวเองด้วย" พร้อมกับหันหลังจากไปกับเฟิงอู๋จี
หลังจากที่ชาวทูเจวียทางตะวันออกพาองค์หญิงหกไป ชีวิตก็ดูเหมือนจะเงียบสงบลงทันที
สำนักศึกษาชิงอี้เข้าสู่ภาคการศึกษาที่สอง ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ ไม่ต้องให้สองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงใช้เหนื่อยมากเกินไป
ไม่นาน ท้องของอวิ๋นหลิงก็ตั้งครรภ์ใกล้หกเดือนแล้ว
นางท้องโตมากจึงไม่สะดวกที่จะเดินทางไกล ไม่ได้ไปสำนักศึกษามาสักพักแล้ว ส่วนใหญ่เซียวปี้เฉิงจะข่าวนํากลับมา
วันนี้เขาก็ตั้งใจจะไปตรวจสอบสถานการณ์ที่สำนักศึกษา ผลปรากฏว่าตอนเที่ยงก็กลับมาแล้ว
“เหตุใดถึงไม่ไปสำนักศึกษา?”
“ตอนเตรียมออกนอกเมืองบังเอิญเจอเหตุการณ์อาละวาด จึงกลับไปนั่งที่ศาลต้าหลี่อยู่สักพัก”
อวิ๋นหลิงเกิดความสนใจ จ้องมองแล้วพูดว่า “พบเจออะไรอีกแล้ว?”
เซียวปี้เฉิงส่ายหัวและถอนหายใจ “ยังเป็นเรื่องของตระกูลหลี่ เมื่อเช้าตอนที่เดินผ่านหอจุ้ยเซียนก็พบว่ามีคนรวมตัวกันต่อสู้กัน นอกจากบรรดาคนที่ก่อเรื่องนอกจากเสเพลสองสามคนแล้ว หลี่หยวนเส้าก็อยู่ในนั้นด้วย”
แม้ว่าการเที่ยวหอคณิกาจะไม่ผิดกฎหมาย แต่แคว้นต้าโจวยังคงมีข้อกําหนดทางศีลธรรมสําหรับผู้เรียนหนังสือ
โดยเฉพาะนักเรียนประเภทนี้ที่เตรียมสอบติดคุณูปการ ถูกคนจับได้ว่าไปเที่ยวหอคณิการะหว่างเรียนหนังสือ เป็นมลทินใหญ่แน่นอน
ในวันธรรมดาลูกศิษย์ระดับสูงที่มีภูมิหลังเหล่านั้นจะแอบไป ถ้าถูกจับได้ก็จะหลบหนีการถูกสั่งสอนไม่ได้ ถ้าเป็นลูกหลานพลเรือนที่ถูกพาไปในทางที่ไม่ดี เมื่อเสื่อมเสียชื่อเสียงก็จะถูกไล่ออกจากสำนักศึกษา
แต่ในระหว่างการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการเป็นข้อยกเว้น ช่วงเวลาที่อ่อนไหวแบบนี้ แม้แต่พวกเสเพลที่มีภูมิหลังก็ไม่กล้าไปเที่ยวหอคณิกา หากถูกจับก็จะห้ามสอบเป็นเวลาอย่างน้อยสามปีขึ้นไป
พออวิ๋นหลิงได้ยินก็ประหลาดใจเล็กน้อย “วันพรุ่งจะเป็นการสอบในฤดูใบไม้ผลิแล้ว หลี่หยวนเส้าไปเที่ยวที่หอคณิกาทำไม เขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่รู้เรื่องนี่นา?”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้าและลดเสียงลงแล้วพูดว่า “เขาไม่ได้ไปเที่ยวหอคณิกา คนที่ไปเที่ยวหอคณิกาคือจางอวี้ซู ตอนนี้ห่านหัวโตท้องโตเจ็ดเดือนกว่าแล้วและทะเลาะกับจางอวี้ซูทุกวัน”
“ไม่รู้ว่านางไปรู้นามแฝงชู้รักของจางอวี้ซูนั้นได้อย่างไร ตอนไปอาละวาดก็ข่วนหน้าอีกฝ่ายจนเป็นรอย พอผู้หญิงคนนั้นร้องไห้และจะแขวนคอตาย จางอวี้ซูก็ลงมือตบห่านหัวโตสองสามครั้ง ปล่อยให้ห่านหัวโตนางปวดท้องจนลุกไม่ขึ้นบนพื้นก็ไม่สนใจ ที่น่าทึ่งก็คืออุ้มผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในบ้านทำอะไรกันอย่างมีความสุข”
“สุดท้ายก็เป็นแม่นมในหอก็กลัวว่าจะตาย จึงนำนางไปส่งโรงหมอ เรื่องนี้เข้าหูหลี่หยวนเส้า เขาก็เดินมาหาที่บ้าน พาคนไปตีจางอวี้ซูและหญิงโสเภณีคนนั้น”
อวิ๋นหลิงฟังจนขมวดคิ้วซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงแม้ว่านางจะไม่ชอบสิ่งที่ห่านหัวโตทํามาก่อน แต่นางก็น่าขยะแขยงการกระทำของจางอวี้ซู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...