เจ้างั่งอ๋องน้อย?
เจ้างั่งอ๋องน้อยอะไร!
สีหน้าของกู้จื่ออวี๋ยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
ถ้าหากไม่ใช่ว่าคุ้นเคยกับนิสัยของหลิวฉิง เขาจะคิดว่าอีกฝ่ายกําลังจงใจแอบด่าเขาจริง ๆ
หลิวฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทําไม ไม่ชอบคําเรียกนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าคิดหาคำอื่น?”
“เปล่า เรียกแบบนี้ก็แล้วกัน”
น้ำเสียงนิ่งเรียบของกู้จื่ออวี๋ เขาเองก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบคําเรียกนี้ อีกทั้งไม่ใช่ว่าไม่ยินดีที่จะฟังคําพูดของหลิวฉิง
หากให้ผู้หญิงคนนี้พูดต่อไป ใครจะไปรู้ว่าจะตั้งชื่อแปลกประหลาดอะไรให้เขา
ขณะนั้นเองเซียวปี้เฉิงไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง “เข้าไปนั่งในบ้านก่อนเถิด พวกเจ้าเพิ่งเข้าวังก็มาที่นี่ คาดว่ายังไม่ได้กินข้าว หลิงเอ๋อร์ได้เตรียมของที่พวกเจ้าชอบที่สุดไว้แล้ว”
“ได้กลิ่นไก่ทอดมาแต่ไกล ต้องน้องหลิงทำเท่านั้นถึงจะดั้งเดิมที่สุด ข้าจะไปดูพี่ใหญ่”
หลิวฉิงก้าวเข้าไปในตำหนักอย่างมีความสุข ตามหาเงาของหลงเย่
กู้จื่ออวี๋ตามไปอย่างเงียบ ๆ
อวิ๋นหลิงมองปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองคนในสายตาเงียบ ๆ คิดในใจว่าจักรพรรดิเสี่ยวฉินคนนี้ก็ไม่น่าจะเข้ากันยากอย่างที่กล่าวไว้ในข่าวลือ
ตามข่าวลือ จักรพรรดิเสี่ยวฉินขึ้นครองบัลลังก์ตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นเขาจึงอ่อนไหวและขี้ระแวงมากอารมณ์แปรปรวนด้วย แม้แต่นิสัยของเขาก็เย็นชาและโหดร้ายเล็กน้อย
ชาวบ้านในตลาดบอกว่า แม่นมของจักรพรรดิเสี่ยวฉินเคยซื้อวิชามอมเมาและล่อลวงให้ตัดคอในขณะที่เขาหลับสนิท
คาดไม่ถึงว่าแม่นมเพิ่งจะคว้ากริช จักรพรรดิเสี่ยวฉินก็ลืมตาและหยิบกริชใต้หมอนมาแทงคออีกฝ่ายก่อน
ในเวลานั้นคนข้างกายจึงรู้ว่า ขณะที่จักรพรรดิเสี่ยวฉินขึ้นครองบัลลังก์ไม่เคยนอนหลับสนิทจริง ๆ เขาอ่อนไหวและขี้ระแวงจนประสาทของเขาตื่นตัวตลอดเวลา
เมื่อนึกถึงข่าวลือนี้ อวิ๋นหลิงก็อดที่จะเหลือบมองหน้าของอีกฝ่ายไม่ได้
เห็นแค่เพียงใต้ตาของเขามีสีเทาอ่อน ๆ คิดว่าเป็นสาเหตุของการนอนหลับที่ไม่ดีตลอดทั้งปี
บวกกับดวงตาดอกพีชที่เงียบเหงาและไร้ความปราณีคู่นั้น ยิ่งทำให้เห็นถึงความร้ายกาจและชั่วร้ายของชายหนุ่มคนนี้
ภายในตำหนัก หลงเย่และหลิวฉิงนั่งตัวติดกันมาตั้งนานแล้ว
หลงเย่ที่สงบนิ่งดุจน้ำเสมอมา ตอนนี้ก็มีตาแดงทางอารมณ์เล็กน้อย สีหน้าเหมือนถอนหายใจ หลังจากนั้นอีกสักพักก็ถึงพูดว่า
“เอ้อร์หลีว์ ท่าทางแบบนี้ของเจ้าข้าเกือบจะจำไม่ได้แล้ว ข้ายังคงชินกับภาพผมสั้นของเจ้า”
หลิวฉิงลูบผมยาวของตัวเองโดยไม่รู้ตัว “ใช่ ข้าก็รู้สึกว่าเกะกะมาก อยากจะตัดลองทรงไปตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่เป่ยฉิน ท่านพ่อและพี่ชายของข้าก็ไม่ยอม ตอนนี้มาแคว้นต้าโจวแล้วก็ไม่มีใครสนใจแล้ว”
กงจื่อโยวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ลองทรงคืออะไร?”
“ก็คือตัดผมให้เป็นขนที่ยาวเพียงนิ้วเดียว!”
คําอธิบายของภาพลักษณ์ที่หยาบคายของหลิวฉิง วินาทีนั้นทําให้กงจื่อโยวเกิดความรังเกียจและความไม่เห็นด้วยทันที
“ทุเรศมากหนา เป็นแม่นางก็ต้องไว้ผมยาวถึงจะสวย สามารถทำทรงผมสวย ๆ ได้หลายทรง”
สามคนนี้เพิ่งพบกัน ก็คุยกันเรื่องทรงผมอย่างกระตือรือร้น
ส่วนอีกด้านเซียวปี้เฉิงและกู้ฉางเซินไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน ก็นั่งอยู่ข้าง ๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด
กู้จื่ออวี๋นั่งคนเดียวที่มุมไกล ไม่เข้ากับความคึกคักของตำหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...