หลังจากที่กู้จื่ออวี๋กับหลิวฉิงพบหน้ากันตามลำพัง ก็ปิดประตูอยู่แต่ในอาญาสี่เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน
เขาบอกกับคนภายนอกว่าไม่สบายไม่อยากพบใคร มีแต่เวลาที่ลูกชายทั้งสองคนที่เอาแต่รบเร้านางกำนัลให้พาไปเล่นกับพี่ชายเท่านั้น กู้จื่ออวี๋จะอนุญาตให้เด็กทั้งสองคนเข้าไปเล่นได้
อวิ๋นหลิงไม่ได้เสียมารยาทไปรบกวน มีพลังจิตอยู่กับตัว อยากจะได้ยินความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในหอนั้นไม่ยาก
บางทีอาจเป็นเพราะรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกของกู้จื่ออวี๋ ยากมากที่ฮั่วถวนกับเสวี่ยถวนจะเชื่อฟังเป็นพิเศษ ตอนที่ไปติดแจอยู่ข้างกายเขาก็ไม่ได้เอะอะวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา
ทุกครั้งที่ไปหากู้จื่ออวี๋ ฮั่วถวนจะเอาของเล่นที่ตัวเองรักไปด้วย ส่วนเสวี่ยถวนก็เอาเค้กนมหอมหวานที่เอามาจากพระเจ้าหลวงไปด้วย
ของเล่นและของว่างวางอยู่เต็มโต๊ะของกู้จื่ออวี๋ เขายื่นมือเล่นกลองเขย่าอันหนึ่ง สีหน้าประหลาดใจ
“คิดไม่ถึงจริงๆ ที่แท้ในเวลาที่ข้าสิ้นหวังที่สุด ข้างกายยังมีคนอยู่เป็นเพื่อน”
นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่กู้จื่ออวี๋จำความได้ ที่เขามี”เพื่อน”
แม้ทั้งสองคนจะเป็นเด็กสูงเท่าเข่าของเขาเท่านั้น แม้แต่พูดก็ยังไม่ชัด
“ข้ายังคิดว่า ชาตินี้คงได้แต่โดดเดี่ยวเดียวดาย”
กู้จื่ออวี๋พึมพำเสียงต่ำกับตัวเอง ไม่ได้สนใจเด็กน้อยสองคนที่มองด้วยสายตามึนงง ไม่รู้ว่าฟังเข้าใจหรือไม่
นอกจากหลิวฉิงแล้ว มีแต่ตอนที่อยู่ต่อหน้าเด็กน้อยไร้เดียงสา เขาจึงสามารถวางเกราะป้องกันทั้งหมดที่มีลงได้
หลายวันมานี้ แม้จะถูกเด็กสองคนกวนจนรู้สึกปวดหัวอยู่บ่อยๆ แต่เขากลับพบว่าตัวเองเหมือนจะไม่ได้รู้สึกเกลียดที่ต้องอยู่กับเด็กๆ
เสวี่ยถวนดึงแขนเสื้อกู้จื่ออวี๋ เอ่ยด้วยเสียงอ้อแอ้ว่า “พี่ชาย ท่านแม่บอกว่าอีกไม่กี่วันท่านจะไปแล้ว แล้วจะกลับมาเล่นกับพวกเราอีกเมื่อไหร่”
ฮั่วถวนก็ก้าวเท้าเล็กๆเขยิบเข้ามาหา กะพริบตาปริบๆ เผยแววคาดหวังเล็กน้อย “ถวนถวนก็อยากจะไปเล่นที่บ้านพี่ชาย”
เด็กทั้งสองคนไม่รู้อะไรเลย รู้สึกแค่เสียดายที่เพื่อนใหม่กำลังจะจากไปแล้ว ดังนั้นจึงยิ่งติดเขาแจ
ในสถานที่ที่คนอื่นมองไม่เห็น ใบหน้าของกู้จื่ออวี๋มีความอ่อนโยนขึ้นมาหลายส่วนอย่างที่เห็นได้ยากยิ่ง
เขายกมือขึ้น เป็นครั้งแรกที่ใช้มือลูบเส้นผมของฮั่วถวนและเสวี่ยถวน
“รอให้พวกเจ้าโตแล้วค่อยว่ากัน”
หวังว่าในภายภาคหน้า เด็กสองคนนี้จะสามารถเป็นเหมือนที่ผ่านมา เหมือนวันนี้ที่ยินดีจะเข้าใกล้เขา ในสายตาจะไม่มีความหวาดกลัว
……
ภายในตำหนักบูรพา ในขณะที่อวิ๋นหลิงกำลังสงสัยว่ากู้จื่ออวี๋อกหักจนต้องขังตัวเองเอาไว้ใช่หรือไม่นั้น ที่สุดอีกฝ่ายก็ก้าวออกมาจากอาญาสี่
กู้จื่ออวี๋ไม่ได้มีท่าทีห่อเหี่ยวเหมือนที่คิดเอาไว้ ดวงตายังคงมีแววอึมครึมแฝงอยู่ มีความเงียบขรึมเพิ่มขึ้นมาหลานส่วน ไม่ได้ดูแหลมคมทิ่มแทงเหมือนแต่ก่อน
เห็นทีจักรพรรดิหนุ่มน้อยคนนี้ ไม่ได้ล้มลงบนเส้นทางความรักที่ขรุขระ
“ข้าอยากจะเดินทางกลับเป่ยฉินในช่วงปลายเดือนห้า ก่อนจะถึงเวลานั้น จะทำตามแผนที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ไปเยี่ยมชมและศึกษาที่สำนักศึกษาชิงอี้ ช่วงที่ผ่านมานี้ต้องชอบคุณท่านทั้งสองที่ดูแลเป็นอย่างดี”
เซียวปี้เฉิงสีหน้าจริงจัง “ในเมื่อมีกำหนดการเดินทางแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปที่สำนักศึกษาพร้อมท่าน”
กู้จื่ออวี๋ส่ายหน้า “ไม่จำเป็น พระชายารัชทายาทไม่สะดวก องค์รัชทายาทมีเวลาก็อยู่เป็นเพื่อนนางให้มากเถอะ ตอนนี้เสด็จอาเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาแล้ว มีอะไรข้าไปหาเขาก็พอ”
“เช่นนี้ ข้าก็ซาบซึ้งในน้ำใจแล้ว”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้าและยิ้มให้กู้จื่ออวี๋ รู้สึกแค่ว่าชายหนุ่มคนนี้มีความเป็นมิตรที่ยากจะจับสังเกตได้ มากกว่าตอนที่มาถึงแคว้นต้าโจวแรกๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น กู้จื่ออวี๋ก็ออกเดินทางไปศึกษาเพิ่มเติมที่สำนักศึกษาชิงอี้
เพราะหลิวฉิงเป็นสาเหตุ ก่อนหน้านี้เขาเสียเวลาไปมาก จำเป็นต้องพยายามทำเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จ ให้เรียบร้อยในเวลาที่เหลือไม่มากนี้
กู้ฉางเซินได้ยินข่าวที่เขาจะกลับเป่ยฉินในเร็วๆนี้ สีหน้าไม่ได้มีคลื่นอารมณ์อะไรมากนัก ราวกับไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ
เขาเอาหนังสือเล่มหนาออกมาจากชั้นหนังสือสองเล่ม สั่งให้คนนำไปส่งให้กู้จื่ออวี๋
เนื้อหาในหนังสือทั้งหมดเขาเป็นคนเขียนขึ้นมาด้วยตัวเอง เกี่ยวกับระบบต่างๆของสำนักศึกษาชิงอี้ รวมไปถึงการอธิบายอย่างละเอียดถึงขั้นตอนการทำงาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...