“นี่ก็ค่ำแล้ว พวกเรารีบพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องเข้าวังกันตั้งแต่เช้า”
หลิวฉิงพูดประโยคนี้จบ หัวใจของกู้ฉางเซินก็เต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
แต่วินาทีต่อมา หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าวางสมุดบัญชีลง แล้วหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องด้านทิศตะวันออก
กู้ฉางเซินมองประตูห้องที่ปิดลง ชั่วขณะนั้นก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา
ฉิงเอ๋อร์ลืมไปแล้วกระมัง คืนนี้เดิมทีควรเป็นคืนส่งตัวเข้าหอของพวกเขา
พวกเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว ย่อมต้องนอนร่วมเตียงเดียวกัน
แต่ดูท่าทีของหลิวฉิงแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ความอาย แต่ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปชั่วขณะ
กู้ฉางเซินก็ไม่รีบร้อน เขารอมาตั้งนานแล้ว รอต่อไปอีกไม่กี่วันก็ไม่เป็นไร เขามีความอดทนมากพอจะรอให้หลิวฉิงคุ้นเคยกับสถานะที่เปลี่ยนไปของกันและกัน
……
เช้าวันรุ่งขึ้น สองสามีภรรยาเข้าวังไปพร้อมกัน
ขันทีเดินเข้ามาต้อนรับ บอกว่าจักรพรรดิเสี่ยวฉินได้รออยู่ที่อาญาสี่ตั้งแต่เช้าแล้ว
หลิวฉิงเสนอว่าต้องการจะพบกู้จื่ออวี๋ตามลำพัง กู้ฉางเซินไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
ตั้งแต่วินาทีที่เขากับกู้จื่ออวี๋ทำข้อตกลงกัน เรื่องในอดีตระหว่างอาหลานก็ได้กระจ่างชัดหมดแล้ว
กู้ฉางเซินรู้ดี ที่หลานชายปล่อยวางไม่ลงเสียที ไม่ได้มีเพียงหลิวฉิง ยังมีแม่นางคนนั้นที่ตายไปตั้งนานแล้ว
เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนและสรุปให้เข้าใจได้ มีเพียงหลิวฉิงที่จะสามารถตัดปัญหาทั้งหมดได้ด้วยตนเอง
หลิวฉิงเดินเข้าไปในหอ ตอนที่เลิกผ้าม่านขึ้น ก็พบว่ากู้จื่ออวี๋ได้นั่งมองนางอยู่บนตั่งนุ่มแล้ว
ในห้องมีควันขาวลอยคลุ้ง ธูปหอมคลายอารมณ์ที่ช่วยในการนอนหลับเกือบจะมอดหมดแล้ว ควันแผ่ปกคลุมใบหน้าเขาจนขมุกขมัวอยู่หลายส่วน มองเห็นแววตาไม่ชัดเจน
“ท่านอยากพบข้าหรือ”
หลิวฉิงเดินอ้อมไปนั่งหน้าโต๊ะ เทน้ำชาที่เย็นแล้วอย่างไม่เกรงใจ ดื่มรวดเดียวจนหมด
รอยคล้ำใต้ดวงตาของกู้จื่ออวี๋ที่จางลงไปบ้างแล้วกลับทวีความเข้มมากขึ้นหลายส่วน เห็นทีน่าจะไม่ได้นอนทั้งคืน
เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเบาๆว่า “อีกครึ่งเดือน ข้าก็จะกลับเป่ยฉินแล้ว”
“ถ้าท่านไม่เอ่ยเรื่องนี้ละก็ ข้ายังคิดว่าท่านอยากจะอยู่ที่แคว้นต้าโจวอีกสามปีห้าปี”
กู้จื่ออวี๋อดทนต่อไปไม่ไหว “เจ้าไม่มีเรื่องอื่นอยากจะพูดกับข้าเลยหรือ”
“เรื่องที่อยากจะพูดหรือ”
หลิวฉิงครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “ข้ากับเจ้าอ๋องแต่งงานกันแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดงานเลี้ยง ท่านกลับไปแล้วก็ช่วยแจ้งให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของข้าทางเป่ยฉินด้วย ให้พวกเขามาร่วมงานแต่งงานของข้าที่แคว้นต้าโจวในปีหน้า อย่าลืมเตรียมเงินใส่ซองกับของขวัญอวยพรไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อยด้วย”
กู้จื่ออวี๋ได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะเสียงต่ำ สายตามีแววคลุมเครือยากจะเข้าใจ
“เจ้าเป็นเช่นนี้เสมอ ไม่ว่าเวลาไหนหรือที่ใด ก็มักจะทำให้ข้าโกรธจนอัดแน่นอยู่ในใจไม่สามารถระบายออกมาได้จึงจะพอใจ อยู่กับข้าอย่างสงบสุขเหมือนเมื่อก่อนมันยากมากหรืออย่างไร”
หลิวฉิงเหลือบตาขึ้นมอง ในดวงตาสะท้อนสีหน้าของเขาที่ดูซีดเซียวและคมกริบอยู่บ้าง เอ่ยปากพูดออกมาทีละคำ
“ท่านมักจะชอบเอ่ยถึงอดีตเสมอ ยอมรับความจริงว่านางไม่อยู่แล้ว มันยากนักหรืออย่างไร”
พูดจบ ลมหายใจของกู้จื่ออวี๋ก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ สายตาของเขาจับจ้องไปที่หลิวฉิง สติกลับตกอยู่ในภาวะมึนงงอยู่บ้าง
เหมือนกำลังมองนาง และเหมือนกำลังมองอีกคนผ่านตัวนาง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่น ถามคำถามที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจมานานแสนนาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...