เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์ คิดไม่ถึงว่าจะถูกอ๋องต่างสกุลหย่า เรื่องเช่นนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ แม้แต่อวิ๋นหลิงก็รู้พิเรนทร์มาก
สามารถทำเรื่องบังอาจถึงเพียงนี้ได้ อ๋องไหวเซียงคนนี้เมาจนไม่มีสติแล้วกระมัง
เซียวปี้เฉิงแววตาขรึมลง เอ่ยเสียงเย็นยะเยือกว่า “เสด็จพี่ ท่านส่งจดหมายกลับมาให้เสด็จพ่อทุกปี บอกว่าท่านกับอ๋องไหวเซียงรักกันดี เขากล้าทำกับท่านถึงเพียงนี้ มีเรื่องอื่นแฝงอยู่ใช่หรือไม่”
องค์หญิงอี๋อันนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ มองเซียวปี้เฉิงด้วยความกระสับกระส่าย สายตาแฝงแววไม่สบายใจและรู้สึกแปลกหน้าอยู่บ้าง
“เสด็จพี่ ข้าคือปี้เฉิง”
ได้ยินดังนั้น ดวงตาขององค์หญิงอี๋อันก็เผยแววยินดี รีบพยักหน้าตอบรับ
“ปี้เฉิง......ที่แท้ก็เป็นปี้เฉิงนี่เอง ไม่เจอกันตั้งหลายปี เจ้าตัวสูงขนาดนี้แล้ว”
ตอนที่องค์หญิงอี๋อันยังไม่แต่งงาน ปฏิบัติต่อพวกน้องๆไม่เลวเลย
เพียงแต่พวกเสี่ยวเฟิงและพระสนมหลี่ ต่างก็รังเกียจนางที่มีแม่เป็นคนที่คอยปรนนิบัติจักรพรรดิจาวเหริน จึงรู้สึกไม่ชอบนางอยู่หลายส่วน
ดังนั้นเซียวปี้เฉิงที่มีแม่บังเกิดเกล้าเป็นนางกำนัลเหมือนกัน ถูกมองว่ามีชาติกำเนิด”ต่ำต้อย” จึงได้ใกล้ชิดกับนางมากหน่อย
แม้จะไม่ได้เจอกันหลายปี เซียวปี้เฉิงยังคงคิดถึงมิตรภาพในวัยเยาว์ เดินเข้าไปประคองให้นางนั่งลงอีกฟากหนึ่ง น้ำเสียงอบอุ่นพลางหันไปทางอวิ๋นหลิง
“เสด็จพี่ นี่คือหลิงเอ๋อร์ เป็นน้องสะใภ้สามของท่าน”
องค์หญิงอี๋อันได้ยินดังนั้น เสื้อผ้ายังไม่ทันได้แตะเก้าอี้ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นมา รีบโค้งตัวคำนับอวิ๋นหลิงอย่างตื่นเต้น
“......คำนับพระชายารัชทายาท”
นางโค้งเอวต่ำมาก ขณะที่ประสานมือขึ้นมาโค้งศีรษะคำนับแฝงไปด้วยความรู้สึกต่ำต้อยอยู่ลึกๆ ไม่เหมือนองค์หญิงใหญ่ที่มีฐานะสูงส่งเลย กลับเหมือนสาวรับใช้ที่ขออาศัยอยู่กับคนอื่นมากกว่า
แววตาของอวิ๋นหลิงสั่นไหวเล็กน้อย พี่สาวสามีคนนี้เกรงว่าหลายปีนี้คงจะมีชีวิตที่ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง “เสด็จพี่อย่าเกรงใจ เรียกข้าว่าหลิงเอ๋อร์ก็พอ”
นางเข้าไปประคององค์หญิงอี๋อัน อีกฝ่ายกลับรีบหลบเลี่ยง สีหน้ามีแววกระดากอาย
“น้องสะใภ้ ร่างกายข้าสกปรก เจ้าตั้งครรภ์อยู่ออกห่างจากข้าให้ไกลหน่อยจะดีกว่า เกรงว่าจะชนกับเด็กในท้องเข้า”
องค์หญิงอี๋อันรีบกวาดตามองอวิ๋นหลิงแวบหนึ่ง แล้วก็รีบก้มหน้าลง
หลายเดือนที่เดินทางกลับมายังเมืองหลวง ตลอดทางนางได้ยินเรื่องที่เกี่ยวกับพระชายารัชทายาทมาไม่น้อย รู้สึกแค่ว่าเหลือเชื่อมาก
ตอนนี้ได้เห็นนางกับตาแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าอวิ๋นหลิงนั้นมีหน้าตางดงามมาก ไม่เสียทีที่เป็นเทพธิดามาจุติ ทำให้นางเกิดความรู้สึกมีปมด้อยอย่างไม่มีสิ้นสุด
อวิ๋นหลิงเห็นนางหวั่นไหวได้ง่ายมากเช่นนี้ ก็ไม่ฝืนแสดงความเป็นกันเองกับนาง หันไปโบกมือให้กับนางกำนัลที่อยู่หน้าประตู
“ให้ห้องเครื่องเตรียมข้าวต้มมาให้หน่อย เร็วเข้า”
ดูรูปร่างที่ผอมโซและผิวพรรณที่ซีดเหลืองขององค์หญิงอี๋อัน คาดว่าตลอดการเดินทางคงลำบากไม่น้อย
จักรพรรดิจาวเหรินเทน้ำชาให้นางด้วยตัวเอง ถามอย่างอดรนทนไม่ไหวว่า “ซูโยว เจ้ายังไม่ตอบเลย หลายปีมานี้เจ้ามีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง”
ดวงตาขององค์หญิงอี๋อันแดงรื้นขึ้นมา เหมือนมีถ้อยคำนับพันนับหมื่นอยากจะพูด แต่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน
เซียวปี้เฉิงปลอบใจนางด้วยเสียงขรึม “เสด็จพี่ มีความลำบากอะไรก็พูดออกมาให้หมด ที่นี่มีพวกเราคอยช่วยท่านอยู่ ไม่มีอะไรต้องกลัว”
ได้ยินดังนั้น องค์หญิงอี๋อันจึงร้องไห้สะอึกสะอื้น เล่าเรื่องราวขมขื่นทั้งหมดที่ผ่านมาสิบกว่าปีออกมา
ตอนที่นางถูกจักรพรรดิจาวเหรินประทานการแต่งงานให้กับรัฐทายาทอ๋องไหวเซียง ติดตามอีกฝ่ายไปยังพื้นที่ศักดินาเซียวโจว อีกฝ่ายอายุเยอะกว่านางมาก ตอนแรกก็รักนางมากจริงๆ ทั้งยังดูแลนางอย่างดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...