พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 800

ไหนพี่สะใภ้สามบอกว่า แค่แสร้งทำเท่านั้น เสด็จปู่ไม่มีทางลงมือมิใช่หรือ

“ยังจะนิ่งอยู่ทำไม กระดกก้นของเข้าขึ้นมา ไม่เช่นนั้นจะให้ข้าตีเจ้าได้อย่างไร”

พระเจ้าหลวงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ยกไม้ขนไก่ขึ้นมา ตีไปที่ก้นของเยี่ยนอ๋องเสียงดังสองที

“เรื่องนี้เสด็จพ่อของเจ้าทำไม่ถูก แต่เจ้าก็ไม่รู้ความเอาซะเลย วิธีที่จะเอาเครื่องประดับกลับมามีตั้งมากมาย เจ้าไม่รู้จักคุยกับเสด็จพี่ของเจ้าเป็นการส่วนตัวหรือ ทำไมต้องถือสาเด็กคนหนึ่ง ต่อหน้าขันทีและนางกำนัลตั้งมากมาย โวยวายจนขายหน้ากันไปหมด นี่ไม่เท่ากับรนหาเรื่องหรอกหรือ”

เยี่ยนอ๋องร้องอย่างเจ็บปวดออกมาสองเสียง ลูบที่ก้นพลางแสยะยิ้มด้วยความเจ็บ ทำหน้าขรึมเม้มริมฝีปากเอาไว้

พระเจ้าหลวงเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “ทำไม เจ้ายังรู้สึกน้อยใจอย่างนั้นหรือ”

เยี่ยนอ๋องรีบใช้ศิลปะการเปลี่ยนสีหน้าทันที ยิ้มพลางยกนิ้วโป้งขึ้นมา “ไม่ใช่แน่นอน หลานแค่รู้สึกว่าทรงอายุปูนนี้แล้ว ทำไมกำลังมือยังมีพลังมาก ช่างเป็นนักรบที่ทรงพลังสง่างามไม่น้อยไปกว่าตอนหนุ่มเลยจริงๆ”

พระเจ้าหลวงทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “พูดมา นางหนูหลิงให้เจ้าใช้ไม้นี้ใช่หรือไม่”

“แค่กๆ......ทรง ทรงรู้ได้อย่างไร......”

“คนนิสัยหุนหันพลันแล่นอย่างเจ้า ถ้าหากสามารถคิดวิธีแสร้งทำมาเป็นเล่นละครต่อหน้าข้าละก็ คงช่วยเมียเจ้าเอาเครื่องประดับคืนมาได้อย่างราบรื่นตั้งนานแล้ว”

พระเจ้าหลวงกลอกตาให้เขา ทำท่าเหมือนรังเกียจเยี่ยนอ๋องมาก

“ไหนลองพูดมาซิว่าทำเช่นนั้นแล้ว หลังจากนี้เมียเจ้าจะเข้าหน้ากับซูโยวได้อย่างไร ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันรู้สึกกระดากหรือไม่ ยังจะเพิ่มปัญหาให้นางอีก”

เยี่ยนอ๋องถูกด่าไปหนึ่งยก คอตกลงไปทันที ที่สุดก็รับรู้ถึงจุดที่ตนเองทำได้ไม่เหมาะสมแล้ว

พวกเขาสองสามีภรรยาเข้ากับเสด็จพี่ได้ดีมาก เจตนาเดิมคือไม่อยากจะให้ตี้หวู่เหยาต้องลำบากใจ แต่กลับทำเรื่องที่จะทำให้ภรรยาต้องรู้สึกเป็นทุกข์

พระเจ้าหลวงโยนไม้ขนไก่กลับไปยังอ้อมอกของเยี่ยนอ๋อง ถอนหายใจออกมา เอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “เล่ามาให้ละเอียด ช่วงนี้พวกเจ้าอยู่กับสองแม่ลูกซูโยวเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากนางหนูหลิงไม่มีแผนการในใจ ไม่มีทางยุยงให้เจ้ามาพบข้าแน่”

เรื่องขี้ฟ้องและร้องเรียน เยี่ยนอ๋องถนัดที่สุด รีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกมาจนหมด รวมไปถึงเรื่องครั้งที่แล้วที่พี่น้องถูกเรียกตัวเข้าวัง เปิดการประชุมครอบครัวราชวงศ์ด้วย

หลังจากนั้น เขาก็ถ่ายทอดสิ่งที่อวิ๋นหลิงฝากให้เขามาบอกกับพระเจ้าหลวง ด้วยคำพูดที่สละสลวย

“ที่จริงเสด็จพี่เป็นคนดีมาก......ทุกครั้งที่ไปตำหนักโยวซิน ล้วนดูแลข้าอย่างใส่ใจราวกับเด็กคนหนึ่ง เพียงแต่ต้องเข้าวังบ่อยๆ ก็รู้สึกเหนื่อยจริงๆ”

“เสี่ยวหนีชิวของพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ก็เพิ่งจะมีอายุสิบเดือน เป็นช่วงเวลาที่ติดแม่ที่สุด ตอนนี้เป็นเดือนหกที่อากาศร้อน เกรงว่าเด็กจะตากแดดจึงไม่สามารถพามาด้วยได้ ข้าดูพี่สะใภ้ใหญ่เองก็ทุกข์ใจมาก แต่เป็นเรื่องที่เสด็จพ่อกำชับมาจึงไม่กล้าเอ่ยปาก”

“พี่สะใภ้สามยิ่งไม่ต้องพูดถึง ช่วงนี้นางไปอยู่เป็นเพื่อนเสด็จพี่กับโม่อี้ซือทุกเช้า ด้วยท้องที่ใหญ่โตขนาดนั้น ข้ายังเหนื่อยแทนนางเลย”

“ส่วนน้องห้ากับจื่อเถา ก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับร้านรถไม้จนไม่มีเวลาว่าง ไปกลับเที่ยวหนึ่งก็ลำบากมาก”

พระเจ้าหลวงเอามือไขว้หลังฟังเรื่องทั้งหมด แววตาขรึมเคร่งลง

เขารู้ความจริงที่องค์หญิงอี๋อันกลับเมืองหลวงแล้ว ช่วงนี้อีกฝ่ายมักจะมาน้อมทักทายที่ตำหนักฉางหนิงอยู่บ่อยๆ แต่หลังจากที่เข้าสู่ชีวิตวัยเกษียณแล้ว น้อยมากที่จะเฝ้าสังเกตเรื่องในวังหลวง จึงเข้าใจสถานการณ์อย่างจำกัด

“เพิ่งจะอยู่อย่างสงบได้ไม่กี่เดือน เสด็จพ่อของเจ้าก็เริ่มก่อเรื่องแล้ว ถึงว่านางหนูหลิงให้เจ้ามาหาข้า......นางฉลาดมาก ถ้านางแอบมาหาข้าเพื่อฟ้องเรื่องนี้คงทำให้เสด็จพ่อของเจ้าไม่พอใจ จึงได้ใช้เจ้าเป็นเครื่องมือ และเจ้าก็เป็นคนโง่คนหนึ่ง มองอะไรไม่ออกเลย”

พระเจ้าหลวงไม่ได้นินทาอวิ๋นหลิง พูดจนจบประโยค เขาก็มองไปทางเยี่ยนอ๋องอย่างรังเกียจอีกครั้ง

เยี่ยนอ๋องจึงเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที ที่จริงพี่สะใภ้สามก็เหมือนกับทุกคน ไม่อยากจะไปวนเวียนอยู่ที่ตำหนักโยวซินทุกวัน แต่ก็ไม่อยากให้จักรพรรดิจาวเหรินหาเรื่อง

ตอนนี้เขากับอีกฝ่ายปะทะคารมกัน กลับถูกอวิ๋นหลิงเห็นหนทางแก้ปัญหาได้

เยี่ยนอ๋องคิดมาถึงตรงนี้ ก็ตบมือยินดีขึ้นมา “ฮ่าๆ พี่สะใภ้สามไม่เสียแรงที่เป็นพี่สะใภ้สามของข้า”

ตอนที่ถูกล็อก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ