พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 824

แสงจันทราประดับท้องนภา สายลมพัดผ่านมาพร้อมกับเสียงจักจั่น

ภายในโรงยาโหยวเจียน เฟิงอู๋จีเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จสรรพ ก็เดินเก้อเขินออกจากฉากกั้นลม

“แค่ก...รัชทายาท ลูกศิษย์เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว”

เซียวปี้เฉิงเงยหน้ามอง เกือบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหว

เมื่อเห็นเฟิงอู๋จีใส่เสื้อสตรีวัยกลางคนผ้าหยาบ ปักผมด้วยปิ่นปักผมหลวมๆ ยืนเก้งก้างแล้วมองเขา

“ปลอมตัวได้เหมือนมาก”

เซียวปี้เฉิงโยนถุงใส่เลือดสองอันให้เฟิงอู๋จี แล้วชี้ไปยังหน้าอกทั้งสองข้าง

“อันนี้เป็นถุงเลือด เจ้ายัดใส่หน้าอก เดี๋ยวถ้ามีผู้ร้ายมาลอบสังหาร เจ้าก็ทิ่มให้เลือดไหล สร้างฉากแสร้งตาย”

เฟิงอู๋จียัดใส่เสื้ออย่างเชื่อฟัง หางตาอดมองตัวเองในกระจกคันฉ่องไม่ได้ เสื้อนูนขึ้น หากมองประเมินด้วยสายตาน่าจะใหญ่กว่าของเมิ่งชูสองเท่า

หลังเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็นอนบนเปลหามผู้ป่วย ปล่อยให้ทหารใช้ผ้าห่มตัวบางคลุมตัว

เมื่อเฟิงอู๋จีมองอะไรไม่เห็นก็เริ่มกลัว

“รัชทายาท กระหม่อมใส่เพียงเสื้อเกาะ ควรสวมหมวกกันภัยด้วยหรือไม่?”

เดิมทีคิดว่ารัชทายาทจะรับประกันว่าเขาจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ต้องเตรียมการอย่างรัดกุมแน่ ไหนเลยจะคิดว่าจะให้แค่เกราะไหมทองสีซีด...ดูแล้วเป็นของเก่าที่เก็บอยู่ในหีบมาหลายปี

หากมือสังหารมา คงต้องใช้อาวุธลับไม่ก็ธนูแน่นอน แล้วศีรษะของเขาไร้การปกป้อง จะไม่ให้กังวลใจได้อย่างไร

ใช่ว่าเขาจะเป็นคนขี้ขลาด แต่เขาเพิ่งสารภาพรักกับหญิงในดวงใจ ไม่อยากซวย ต้องอำลาจากโลกในวัยหนุ่ม

ทว่ากลับได้ยินเซียวปี้เฉิงพูดอย่างมีแผนในใจว่า

“วางใจเถอะ ข้าอยู่ทั้งคน เจ้าไม่ตายหรอก เสื้อเกราะไหมทองอันนี้เป็นของล้ำค่าที่ข้าเก็บไว้อย่างดี ตัวนี้ช่วยให้ข้ารอดชีวิตในสนามรบมาหลายครั้งแล้ว หวงแหนมาก ปกติไม่ค่อยเอาออกมาใส่หรอก ครั้งนี้เอาให้เจ้าโดยเฉพาะ เจ้าควรรู้จักพอแล้ว”

เฟิงอู๋จี “...”

ดังคาด เป็นของล้ำค่าที่เก็บไว้แต่ในหีบ มิน่าล่ะสีถึงซีด

โชคดีเขากลัวเมิ่งชูเป็นห่วง ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับนาง ทว่าในเมื่อรัชทายาทพูดเยี่ยงนี้แล้ว คงไม่มีปัญหาใหญ่อะไร

เฟิงอู๋จีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แสร้งปลอมตัวเป็นสตรีบาดเจ็บอย่างอดทน ไม่นานทหารก็ยกเปลหามขึ้น ยกเขาออกจากโรงหมอ

บนท้องถนนยาวในคืนเงียบงัน เยี่ยเจ๋อเฟิงควบอาชาแกร่งนำทาง ด้านหลังมีทหารล้อมรอบเปลหามผู้ป่วย

เซียวปี้เฉิงซ่อนตัวอยู่ในรถม้าด้านหลัง โดยมีระยะห่างสิบกว่าเมตร เขากำลังหลับตาทำสมาธิ ใช้พลังจิตสำรวจบริเวณรอบ ๆ ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา

พลังจิตของเขาแข็งแกร่งขึ้นเยอะ สองปีมานี้ว่างๆก็จะแอบฟังความลับผู้อื่น การตรวจสอบด้วยเรดาร์ของพลังจิตฝึกจนช่ำชอง

ไม่พลาดกระทั่งการเคลื่อนไหวของหนู

ไม่นาน ผ่านไปไม่ถึงสองถ้วยน้ำชา ด้านข้างตรอกเปลี่ยวก็สัมผัสถึงลมหายใจของคนสี่ถึงห้าคนบนหลังคารอบๆ

น่าจะเป็นมือสังหารที่ดักซุ่มอยู่

ไม่นานด้านหน้าก็เกิดเสียงม้าตื่นตระหนก

“มีมือสังหาร คุ้มกันให้ดี”

เยี่ยเจ๋อเฟิงหน้าเปลี่ยนสี ตะคอกเสียงดุ ชักกระบี่เตรียมต่อสู้

ลูกธนูแหวกกลางอากาศ พุ่งมาโจมตีเปลหาม ถึงแม้ทหารด้านข้างจะใส่เสื้อเกราะ ทว่าไม่มีโล่ จึงรับมืออย่างลนลาน

“ทหารด้านซ้ายดึงธนูยิงกลับ ทหารแถวขวาปกป้องนักโทษ”

ท่ามกลางเสียงปะทะของดาบและธนู เฟิงอู๋จีนอนไม่ขยับกายบนเปลหามผู้ป่วย รู้สึกว่ามีลูกธนูพุ่งเข้าใส่หลายดอก

ถึงแม้บนตัวจะใส่เกราะไหมทอง ทว่าแรงจู่โจมนี้ทำให้เขาเสียวสันหลัง เจ็บตรงหน้าอก

“เรียนคุณชายใหญ่ ภารกิจครั้งนี้สูญเสียไปหนึ่งคนขอรับ”

คุณชายเสื้อเขียวไม่ได้เกรี้ยวกราด ถามว่า “แน่ใจหรือเปล่าว่าเขาตายสนิทแล้ว?”

หน่วยกล้าตายลังเล “เอ่อ...พวกข้าน้อยรีบถอย ไม่ได้ไปตรวจสอบ แต่เขาโดนยิงที่หน้าอกแล้วก็ไม่ส่งเสียงและไม่ขยับตัวเลย น่าจะตายทันทีแล้วขอรับ”

หน่วยกล้าตายไม่เหมือนคนทั่วไป แม้จะบาดเจ็บสาหัส ขอเพียงยังมีลมหายใจก็จะสามารถควบคุมสติได้

คุณชายเสื้อเขียวพยักหน้าเล็กน้อย “ครั้งนี้ไม่เป็นไร ถ้ามีอีกจะลงโทษ จำไว้ให้ดี หากเจอแบบนี้อีกให้ตัดรากถอนโคน อย่าทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่นิดเดียว”

การจะสร้างหน่วยกล้าตายขึ้นมาได้นั้นจำเป็นต้องใช้เวลาและเงินทอง ทว่าหากช่วยไม่ได้ก็จะต้องสังหารเองกับมือ จะปล่อยให้ศัตรูเอาไปเป็นเชลยไม่ได้

“ข้าน้อยจะจดจำคำสอนของคุณชายใหญ่ขอรับ”

คุณชายเสื้อเขียวจิบน้ำชาพร้อมกับโบกมือ “ถอยไปได้ ถ้าส่งสารให้ตระกูลลู่เสร็จก็ไปจับตามองตระกูลหลิ่ว ดูว่าแต่ละวันนางไปไหน ทำอะไรบ้าง ต้องรายงานข้าทุกรายละเอียด”

หน่วยกล้าตายกำหมัดรับคำสั่ง รู้ว่าคุณชายใหญ่กำลังพูดถึงสตรีลูกอนุแห่งตระกูลหลิ่วที่เลอโฉม

หลังจากที่ลูกน้องไปแล้ว คุณชายเสื้อเขียวก็ค่อยลุกขึ้น พูดเองเออเองว่า

“ผิดไปเพียงก้าวเดียวก็ทำให้ตำหนักบูรพาสงสัยแล้ว สองผัวเมียคู่นี้ทำให้ปวดหัวยิ่งนัก สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก...ช่างเถอะ เลื่อนการสู่ขอไปครึ่งปีแล้วกัน”

สิ้นเสียงคุณชายเสื้อเขียวก็หมุนพัดในมือ เดินชื่นชมภาพวาดสตรีที่แปะบนผนังรอบ ๆ

ถ้าอวิ๋นหลิงอยู่ที่นี่ก็จะเห็นว่าสตรีในทุกภาพวาดล้วนเป็นศิษย์โปรดของนาง

นัยน์ตาคุณชายเสื้อเขียวเผยแรงปรารถนาที่อยากได้มาครอบครอง

“ชิงเยี่ยนเอย ชิงเยี่ยนเอย ถึงเจ้าจะหลบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ก็เปล่าประโยชน์”

ต้องเป็นวัตถุในมือเขาสักวันอยู่แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ