เสวียนจีรอฟังประโยค นางพยักหน้าอย่างไร้เดียงสา พูดเสียงขึงขัง “พี่ยินถังวางใจได้ ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแน่ และไม่ให้คนอื่นรู้ด้วย ท่านเป็นเพื่อนคนแรกที่ข้ากลับเมืองหลวง ไม่ปล่อยให้ท่านตายอย่างไม่เป็นธรรมแน่”
ยินถังได้ยินประโยคนี้ก็ซาบซึ้งกินใจยิ่ง
ถ้ารู้แต่แรก ตอนนั้นเขาไม่ควรรีบแต่งงานกับโม่อี้ซือ ถ้าแต่งกับจินหยวนเป่า ตอนนี้คงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้...
ยินถังนึกถึงโม่อี้ซือก็ยิ่งเคียดแค้นหนักขึ้น
สตรีผู้นี้ท่าทางอ่อนแอไร้พิษสง ทว่ากลับเป็นคนลวงโลก มารยาสาไถย
ทั้ง ๆ ที่องค์หญิงอี๋อันโดนอ๋องไหวเซียงหย่าแล้ว แต่นางยังทำตัวเหมือนจวิ้นจู่ ทำให้เขาแต่งนางเป็นภรรยาเอกโดยไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง
ถ้าเขาไม่เป็นสามีภรรยากับโม่อี้ซือ ตระกูลยินก็จะไม่เขียนจดหมายทักทายปราศรัยกับอ๋องไหวเซียง พวกรัชทายาทก็จะไม่เอาหลักฐานชิ้นนี้กล่าวหาว่าเขาก่อกบฏ
บัดนี้จะอธิบายเช่นไรก็สายไปเสียแล้ว เขาต้องพึ่งจินหยวนเป่าเพื่อเอาตัวรอดแล้ว
“น้องหยวนเป่า ชีวิตของข้าเกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของทั้งตระกูลยิน บัดนี้ล้วนอยู่ในมือเจ้าแล้ว หากพ้นเคราะห์ครั้งนี้ได้ ชีวิตต่อจากนี้พี่ใหญ่ยินดีเป็นข้ารับใช้ตอบแทนบุญคุณเจ้า”
เสวียนจีสูดจมูก “พี่ยินถังไม่ต้องเกรงใจเพียงนี้หรอก พรุ่งนี้ข้าจะหาวิธีส่งจดหมายไปให้ท่านลุงยิน ตอนนี้ดึกแล้วข้าอยู่นานไม่ได้ หาไม่แล้วคนอื่นจะสงสัยได้”
ระหว่างที่พูดนางก็ล้วงขนมด้วยกระดาษออกจากแขนเสื้อ
“ใช่แล้ว ข้าคิดว่าอาหารในคุกคงไม่ดีนัก เลยเอาขนมมาให้ท่านสองชิ้น...เออ...ตอนเดินทางรีบเกิน ขนมจึงเปลี่ยนสภาพ พี่ยินถังกินแก้ขัดไปก่อนนะ”
ขนมสองชิ้นนี้ไม่ธรรมดา ทว่าไม่ใช่วางยาพิษหรือวางยาสมุนไพรบำรุงร่างกายแต่อย่างใด
แค่เอาเศษยาที่อวิ๋นหลิงปรุงไม่สำเร็จมาผสมเท่านั้นเอง กินเข้าไปจะทำให้ตดหลายวัน
ยินถังกวาดสายตามองขนม มันแตกละเอียดจนเปลี่ยนสภาพหมดแล้ว ปกติกระทั่งป้อนให้สุนัขกิน ข้ายังรังเกียจ ทว่าเมื่อเห็นจินหยวนเป่าห่วงใยเขาเพียงนี้ จึงไม่ควรทำให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจ
ฉะนั้นเขาจึงรับมาแล้วกินอย่างไม่รังเกียจ ทั้งยังซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งด้วย
“ขอบคุณน้องหยวนเป่าที่เป็นห่วง เจ้ารีบไปเถิด ประเดี๋ยวคนอื่นจะเห็นแล้วเจ้าจะโดนลงโทษไปด้วย”
“จำไว้นะ อย่าให้ผู้ใดรู้เรื่องของพวกเราเป็นอันขาด รวมทั้งพี่ชายเจ้า ท่านอ๋องจินด้วย ไม่งั้นไม่เพียงแต่ทำให้ฝ่าบาทพิโรธ ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพระชายาจินกับตำหนักบูรพาด้วย”
ยินถังเร่งรัดให้เสวียนจีออกไป กลัวทหารลาดตระเวนในคุกจะมาเห็น เช่นนั้นความหวังสุดท้ายของเขาก็ต้องจบสิ้น
เสวียนจีย่อมรู้ว่าเขาคิดอันใดอยู่ แสร้งทำเป็นอาลัยอาวรณ์ พูดพิรี้พิไรสักพัก เมื่อเห็นยินถังอนาทรร้อนใจจนเหงื่อตกจึงจะยอมออกไป
......
หลังออกจากคุก เฟิ่งเหมียนจึงพูดด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “เจ้าเป็นห่วงพี่ยินถังผู้นั้นเหลือเกินนะ ยังเอาขนมมาฝากโดยเฉพาะด้วย”
ไยเมื่อครู่ถึงไม่เห็นนางซ่อนขนมไว้ในแขนเสื้อ ถ้าเห็นเขาจะแอบโยนออกนอกรถม้าแน่
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นกลางสมอง เฟิ่งเหมียนก็ต้องชะงักงัน ทั้งยังรู้สึกมึนงงด้วย
ต่อให้เขาเกลียดชังยินถังเพียงใด ทว่าอีกฝ่ายก็ใกล้ตายแล้ว ไยต้องถือสากับคนเยี่ยงนี้ด้วย?
เสวียนจีได้ยินก็ยิ้มประจบ “ทำไม เจ้าก็อยากกินด้วยรึ? ถ้าอยากกิน เดี๋ยวข้าจะให้เจ้าสองชิ้น”
เฟิ่งเหมียนได้ยินก็รู้ว่าขนมไม่ใช่ของดี พูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องหรอก เจ้าวางยาพิษในขนมรึ?”
“ข้าไม่โง่หรอก ถ้าวางยายินถังก็ต้องสงสัยสิ” เสวียนจึกลอกตามองบน “ข้าแค่ใส่ผงที่ทำให้ท้องอืดในขนม ถ้าเขากินแล้วดื่มน้ำ จะตดติดต่อกันหลายวันแบบเอาไม่อยู่แน่”
ไม่ใช่ยาที่ทำให้ท้องเสีย แบบนี้ยินถังก็จะคิดว่าอาหารในคุกไม่ดี ไม่เอะใจว่ากินขนมลงไปหรอก
เฟิ่งเหมียนอุ้มเสวียนจีอย่างช่ำชอง ไม่เห็นท่าทางกระอิดกระเอื้อนของลู่ฉี
ใต้เท้าเฟิ่งเหมียนตรงหน้ายังคงหล่อเหลา นัยน์ตาเย็นยะเยือกยิ่งกว่าอากาศ ร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีขาว ยังคงสง่างามดุจเทพเซียน
ทว่าเมื่อนึกถึงท่าทางระหว่างไปศาลต้าหลี่ ลู่ฉีก็เลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรแอบไปดูเงียบๆหรือไม่ ด้วยเกรงว่าเฟิ่งเหมียนจะทำอะไรตอนหยวนเป่านอนหลับอยู่...
ทว่าลู่ฉีไม่กล้า ดังนั้นจึงต้องทนความหนาวนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของสวนดอกไม้ แล้วคำนวณเวลาว่าเฟิ่งเหมียนจะออกมาตอนไหน
เวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยน้ำชา หนึ่งก้านธูป...แต่ก็ไม่เห็นเงาเฟิ่งเหมียน
ลู่ฉียิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตนคาดเดา พึมพำว่า “โอ้สวรรค์ ไม่คิดว่าใต้เท้าเฟิ่งเหมียนจะเป็นคนแบบนี้”
ต้องรีบเอาข่าวนี้ไปบอกพระชายารัชทายาทโดยเร็วที่สุด
......
วันเช้าถัดมา หลังจากพวกอวิ๋นหลิงกินข้าวเช้าเสร็จ ลู่ฉีก็มารอขอเข้าเฝ้านอกห้องตำรา
เขาเข้าไปถึงก็รีบปิดประตู พูดเป็นตุเป็นตะเสียงเบา “พระชายาให้กระหม่อมจับตามองใต้เท้าเฟิ่งเหมียนกับแม่นางหยวนเป่าใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ เมื่อคืนระหว่างทางไปศาลต้าหลี่ มีการเคลื่อนไหวอันน่าทึ่งด้วย”
อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว “น่าทึ่งอันไร พูดให้ละเอียดหน่อย”
ลู่ฉีหน้าเหลืองไปถนัด พูดกระดากปาก “งั้นข้าน้อยก็ขอรายงานตรง ๆ หากพูดล่วงเกินแม่นางหยวนเป่า พระองค์อย่าโกรธกระหม่อมนะพ่ะย่ะค่ะ”
จากนั้นเขาก็เปรยเสียงที่ได้ยินในรถเมื่อคืนอย่างถึงพริกถึงขิง
เซียวปี้เฉิงตกใจจนทำพู่กันหล่นใส่กระดาษเซวียนที่เขียนครึ่งทาง “เจ้าพูดอะไรน่ะ? พวกเขาทำแบบนั้น...ในรถ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...