พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 96

เซียวปี้เฉิงแทรกเขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าเสียใจกับเรื่องที่คุณหนูรองฉู่พบเจอ แต่คืนนั้นข้ากับอวิ๋นหลิงไม่ได้เชิญนางขึ้นเรือสำราญ”

ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดก็คือฉู่อวิ๋นหานแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง อย่าโยนความผิดให้พวกเขา

รัฐทายาทผู้เฒ่าเปล่งเสียงหัวเราะ ตอนนี้จุกจนพูดไม่ออกแล้ว

ฮูหยินเหลียนที่กำลังรินน้ำชาให้เซียวปี้เฉิง ข้อมือสั่นเทา น้ำชาล้นออกจากแก้วแล้วไหลลงบนโต๊ะ แขนเสื้อตัวบางก็เปียกแฉะแล้วกว่าครึ่ง

รัฐทายาทกำลังกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดใดมาสนทนา เมื่อเห็นภาพนี้ก็รีบหันเหไปเรื่องอื่น กล่าวเสียงตำหนิว่า “ฮูหยินเหลียน เจ้ารินน้ำชาเช่นไร ยังไม่รีบเช็ดโต๊ะให้สะอาดอีก รินน้ำชาแก้วใหม่ให้ท่านอ๋องด้วย”

เมื่อฮูหยินเหลียนรู้สึกตัวก็รีบขอโทษ “ต้องขออภัยท่านอ๋องด้วย หม่อมฉันมือสั่นกะทันหัน”

เซียวปี้เฉิงโบกมือหน้านิ่ง สื่อให้รู้ว่าฮูหยินเหลียนไม่จำเป็นต้องขอโทษ

อวิ๋นหลิงมองสำรวจฮูหยินเหลียนด้วยความใคร่รู้ ในความทรงจำ นางรู้ว่าบิดาผู้เลอะเลือนรักฮูหยินเหลียนยิ่ง ไยวันนี้ถึงให้รินน้ำชาได้?

แม้นจะมีคำถามคาใจ ทว่าใบหน้านางก็ยังคงประดับรอยยิ้มอยู่ “ท่านพ่ออย่าโทษฮูหยินเหลียนเลย คนแก่ก็อย่างเลยแหละเจ้าค่ะ คนแก่หูตาฝ้าฟาง มือสั่นจนใช้งานไม่ได้เป็นเรื่องปกติ”

ฮูหยินเหลียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย โชคดีที่นางมีความอดทนสูง ไม่ได้ระบายอารมณ์โกรธออกมา

“ยิ่งตอนนี้ฮูหยินเหลียนหน้าซีดเหลือง นอกจากจะมีรอยเหี่ยวย่นที่หางตาแล้ว หน้าผากยังมีสิวขึ้นด้วย คาดว่าช่วงนี้คงไม่ได้พักผ่อนดีๆจนร้อนในแล้วเจ้าค่ะ”

ได้ยินประโยคนี้ รัฐทายาทจึงทำหน้าเป็นมิตรต่ออวิ๋นหลิงมากขึ้น “ยังดีที่เจ้ายังมีความกตัญญูอยู่บ้าง รู้สึกห่วงใยผู้ใหญ่ด้วย”

เซียวปี้เฉิงได้ยินประโยคนี้ก็เกือบพ่นน้ำชาออกจากปาก เริ่มเข้าใจถ่องแท้ถึงความเลอะเลือนของคนชรายิ่งขึ้น

ฉู่อวิ๋นเจ๋อสบตากับเขา ก่อนจะเผยรอยยิ้มแห่งความเหลืออดพร้อมกันทั้งคู่

ฮูหยินเหลียนลอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามรักษาสีหน้าไว้ ยิ้มเอ่ยว่า “...หม่อมฉันขอบพระทัยที่พระชายาเป็นห่วง”

อวิ๋นหลิงยั่วโมโหนางไม่สำเร็จ แต่คำพูดของรัฐทายาทสูงวัยเกือบทำให้นางบันดาลโทสะแล้ว

อวิ๋นหลิงกลั้นเสียงหัวเราะ ถอนหายใจอย่างหวังดีว่า “เหอะ ช่วงนี้แม่เลี้ยงคงกังวลใจเรื่องน้องสาวที่ไม่เอาไหนของข้าใช่หรือไม่ แม่เลี้ยงช่างน่าสงสารนัก อายุเยอะปูนนี้แล้วยังต้องดูแลนางอีก”

“แม่เลี้ยงเป็นกุลสตรี อ่อนโยน คิดว่าคงด่าคำแรงๆไม่เป็น ดูสิเก็บมากลุ้มใจจนร้อนในไปแล้ว ไว้ข้าเจอฉู่อวิ๋นหานอีก ข้าจะด่านางแทนท่านเอง ไม่ได้เรื่องจริงๆ สร้างแต่ปัญหาให้มารดาตัวเอง”

“พระชายาสั่งสอนถูกต้อง หม่อมฉันจะจดจำไว้ โปรดอนุญาตให้หม่อมฉันไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะเพคะ”

ใบหน้าฮูหยินเหลียนเริ่มบึ้งตึงเล็กน้อย ก่อนที่นางจะควบคุมเพลิงโทสะไม่ได้ รีบสาวเท้าออกจากห้องโถงหลักทันที

ครั้งนี้รัฐทายาทขยิบปาก แต่ไม่ได้ตำหนิอวิ๋นหลิงว่าพูดจาไม่มีสัมมาคารวะ

แม้เขาจะรักและเอ็นดูฉู่อวิ่นหานมากกว่า แต่ชื่อเสียงบุตรสาวคนรองย่อยยับแล้ว ทำให้จวนเหวินกั๋วกงขายหน้า ส่งผลให้เขาไม่กล้าเงยหน้ามองตอนที่ไปทำงานเลย

ถ้าจะบอกว่ารัฐทายาทสูงวัยไม่ผิดหวังในตัวลูกสาวคนรอง คนที่ตนตั้งความหวังไว้สูง เช่นนั้นคงเป็นคำพูดหลอกลวงแล้ว

ถึงแม้เรื่องของอวิ๋นหลิงก็ใหญ่โตจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่สุดท้ายนางก็ได้แต่งงานเป็นพระชายาเอกของจิ้งอ๋องแล้ว ส่วนฉู่อวิ๋นหานกลับทำให้ตำแหน่งพระชายารองลอยไปต่อหน้าต่อตา และเกือบโดนยกเลิกการแต่งงานด้วย ยามนี้ฉู่อวิ๋นหานมีโอกาสแต่งเป็นอนุภรรยาเท่านั้น

เมื่อนึกถึงจุดนี้ รัฐทายาทผู้เฒ่าก็รู้สึกตัวเองแก่ขึ้นอีกสิบปี

ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเขาก่อกรรมทำเข็ญสิ่งใดไว้ ถึงได้มีลูกสาวถ่วงความเจริญพ่อสองคน...

หลังจากที่ถามสารทุกข์สุขดิบสักพักก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี

งานเลี้ยงจวนเหวินกั๋วกงมีกฎแยกชายหญิงออกจากกัน เพศเดียวกันถึงจะได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ