แต่ว่าเวลานี้ซูจิ่วเย่ว์ไม่ได้อยู่ในห้อง ทันทีที่หลิวฉุยฮวาเข้าไปในห้องเธอก็เห็นเพียงลูกชายของเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง "ซีหยวน? เจ้า... กำลังอ่านหนังสืออยู่หรือ?"
อู๋ซีหยวนยิ้มและพลิกหนังสือเพื่ออ่าน " คัมภีร์ตรีอักษรที่ภรรยาของข้าสอน! ข้าท่องมันได้ทั้งหมดแล้ว!"
หลิวซุ่ยฮวาดีใจเป็นอย่างมาก "ดี ดี ดี ซีหยวนลูกแม่เก่งที่สุดเลย!"
อู๋ซีหยวนก็หยิบพู่กันบนโต๊ะขึ้นมาจุ่มหมึกแล้วเขียนข้อความ"ท่านแม่ ท่านดูนี่สิ"
หลิวซุ่ยฮวาเดินเข้าไปดู แม้ว่าเธอจะอ่านไม่ออก แต่เธอก็ดูออกว่าลายมือของลูกชายเธอนั้นเขียนได้ดีมาก ๆ ไม่เหมือนเด็กที่กำลังหัดเขียนเลย
“มันเขียนว่าอะไรนะ?” เธอถาม
“ธรรมชาติดั่งเดิมของคน พื้นฐานจิตใจมีเมตตากรุณา” อู๋ซีหยวนอ่านทั้งเล่มอีกรอบ “ท่านแม่ ข้าเขียนได้ไม่เลวเลยใช่ไหม?”
หลิวซุ่ยฮวาแม้จะยากลำบากมากในการสนับสนุนเขาให้ได้เรียนหนังสือ สิ่งที่เธอต้องการที่สุดก็คือให้เขาสามารถพึ่งพาพู่กันของเขาเพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพในอนาคต อย่าเป็นเหมือนกับพวกเขา ตลอดทั้งปีต้องอาศัยฟ้าดินในการเลี้ยงปากท้องปี ถ้าปีไหนดีหน่อยจะยังพอมีให้กินอิ่ม ถ้าปีไหนแย่ก็ต้องทนหิวกันทั้งครอบครัว
“เด็กดี เจ้าเขียนได้ดีมาก” สำหรับลูกชายของเธอแล้ว เธอไม่เคยลังเลที่จะชื่นชมลูกชายของเธอเลย
อู๋ซีหยวนก็มีความสุขมากเช่นกัน เมื่อเขายังเด็กแม่ของเขามักชมเขาเสมอ ต่อมาเมื่อเขาโตขึ้นและรับราชการเป็นขุนนาง แม่ของเขาก็อยากให้เขาเป็นคนรู้จักที่ต่ำที่สูงและนอบน้อมถ่อมตน เธอจึงไม่เคยกล่าวคำชมเชยเหล่านี้อีกเลย
“ท่านแม่..ข้าสามารถ...” เขาลังเลที่จะพูด
“ลูกเอ่ย ? เจ้าอยากทำอะไรรึ? บอกแม่มาสิ”
อู๋ซีหยวนกัดริมฝีปาก “ท่านแม่ ข้าอยากไปสถานศึกษาเพื่อเล่าเรียนหนังสือ”
เขารู้ว่าครอบครัวของเขามีรายได้พิเศษในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ เมื่อรวมกับเงินเก็บเล็กน้อยของภรรยาขอวเขาแล้ว ก็พอมีเงินอยู่บ้างเล็กน้อย
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาแทบไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับครอบครัวเลย เมื่อเอ่ยปากก็จะขอเงินจำนวนเยอะขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเอ่ยปากพูดมันออกมา
ดวงตาและปากของหลิวซุ่ยฮวาก็เบิกกว้าง ผ่านไปสักพักเธอถึงได้สติกลับคืนมา เธอบีบข้อมือของอู๋ซีหยวนและจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขา เธอทั้งประหลาดใจและมีความสุข "ซีหยวน เจ้านึกอะไรขึ้นมาได้แล้วใช่ไหม"
อู๋ซีหยวนพยักหน้า แล้วก็ส่ายหัว
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิวซุ่ยฮวาก็จางหายไป "นี่เจ้าหมายความว่าอะไร?"
อู๋ซีหยวนยื่นมือออกมา ทำท่าทางเอานิ้วชี้มาแตะนิ้วหัวแม่มือของเขา “จำได้นิดหน่อยเท่านั้น”
ความทรงจำในช่วงชีวิตทั้งสองของเขาถูกผสานเข้าด้วยกันแล้ว จนถึงตอนนี้เขาเองก็ไม่สามารถแยกมันออกได้อย่างชัดเจน
ความทรงจำอันไหนเกิดก่อนหรืออันไหนเกินหลังจากที่เขาสูญเสียความทรงจำไป?
เขาจึงทำได้เพียงให้คำตอบที่คลุมเครือแก่แม่ของเขา ถ้าภายหลังพูดผิด จะได้แก้ตัวได้ง่าย ๆ*
แม้ว่าเพียงเล็กน้อยที่เขาทำจะมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพดก็ตาม แต่หลิวซุ่ยฮวาก็ยังคงมีความสุข
เธอกอดเขาและตบหลังเขาอย่างมีความสุข “ลูกเอ่ย! แม่รู้ว่าลูกจะหาย! ลูกจะต้องหายดีอย่างแน่นอน! มันดีมากเลย! เรียนหนังสือ! ไม่ว่าเจ้าอยากไปเรียนที่ไหนแม่ก็จะออกค่าเล่าเรียนให้!”
หลังจากนั้นไม่นาน ความตื่นเต้นของเธอก็ได้สงบลง และทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เรื่องที่เจ้าจำเรื่องราวได้แล้ว จิ่วยารู้หรือเปล่า”
อู๋ซีหยวนส่ายหัว และหลิวซุ่ยฮวาจะรีบลุกขึ้นและเดินออกไป "ถ้าอย่างนั้นต้องบอกเธอนะ ถ้าเธอรู้เข้าเธอจะต้องดีใจมากอย่างแน่นอน!"
อู๋ซีหยวนเอื้อมมือไปจับเธอ หลิวชุ่ยฮวาหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ "ทำไมรึ?"
อู๋ซีหยวนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย "ท่านแม่... อย่าเพิ่งบอกจิ่วยาได้ไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...