ซูอี๋ไม่เคยอยู่ทานข้าวที่นี่กับซูจิ่วเย่ว์เลย พอได้ยินนางพูดแบบนี้ ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา
"ได้ วันนี้ข้าจะอยู่ทานข้าวกับเจ้าที่นี่ เจ้านี่เก่งเสียจริง ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็สามารถรับมือได้อย่างง่ายดายคงเป็นแบบเจ้าแบบนี้สินะ?"
ซูจิ่วเย่ว์เป็นคนถ่อมตัว พอนางชมเข้าแบบนี้ก็เขินเล็กน้อย จึงเอาเปี๊ยะถั่วแดงที่ตัวเองอบมาวางหน้านาง พูดอย่างหงุดหงิดว่า "ใครเขาเป็นแบบเจ้ากัน นี่ยังไม่ทันทานข้าวก็ชมซะแล้ว? กินเปี๊ยะถั่วแดงสักสองชิ้นอุดปากเจ้าไปก่อน เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหัวเราะเอา"
ซูอี๋กลับมีความรู้สึกมั่นใจในตัวซูจิ่วเย่ว์มาก ยิ้มและหยิบเปี๊ยะถั่วแดงขึ้นมา "แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงก็เก่งกว่าข้า ปีที่แล้ววันเกิดท่านพ่อข้า ข้าอยากจะทำหมี่ซั่วให้ทาน แต่ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็ต้องให้แม่ครัวช่วยข้าทำแป้งบะหมี่"
แม้แต่งานเย็บปักถักร้อยนางยังทำไม่เป็น ดูยังไงแล้วก็ไม่เหมือนคนทำกับข้าวเป็น
ซูจิ่วเย่ว์หัวเราะและปลอบใจนางว่า "ฟ้ากำเนิดเรามาต้องสร้างประโยชน์ในสักทาง แม้ว่าเจ้าจะทำอาหารไม่เก่ง แต่ด้านอื่นกลับเก่งกว่าข้าเยอะ"
ซูอี๋ดูท่าทางยิ้มแย้มของนาง ราวกับดอกไม้ที่บอบบาง อดที่จะยื่นมือไปบีบแก้มของนางไม่ได้ "ไม่เลวนิ จิ่วเย่ว์ ยังรู้ว่าฟ้ากำเนิดเรามาต้องสร้างประโยชน์ในสักทางซะด้วย"
ซูจิ่วเย่ว์ก็พูดไปแบบนั้นแหละ อธิบายแบบเขินๆ "ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาตอนซีหยวนอ่านหนังสือน่ะ"
ซูอี๋หันหน้าไป ก็เห็นรอยยิ้มเอ็นดูของอู๋ซีหยวนพอดี
นางจุ๊ๆสองที ไม่รู้ว่าที่นางตัดสินใจอยู่ทานข้าวด้วยกันเป็นเรื่องที่ถูกหรือผิดกันแน่
นี่นางรบกวนทั้งสองคนจู๋จี๋กันหรือเปล่าเนี่ย?
หลังทานข้าวเสร็จ ซูจิ่วเย่ว์วัดสัดส่วนของซูอี๋ไว้ด้วย ไว้ใช้ตอนทำชุดแต่งงานของนาง
ซูอี๋ปล่อยให้นางทำตามสบาย หลังจากที่ซูจิ่วเย่ว์วัดสัดส่วนเสร็จ นางจึงขอลากลับบ้าน
เวลานี้ก็หนึ่งทุ่มแล้ว แต่นางพาทหารติดตัวที่พ่อนางรับสั่งมาด้วย กลับดึกก็คงไม่เป็นไร
ซย่าเหอส่งคุณหนูขึ้นรถม้า แอบรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติด้านหลัง
ในตอนที่นางขึ้นรถม้า เหล่มองไปในที่มืดอย่างเงียบๆ ในใจเกิดสงสัยขึ้นมา
นางอดกลั้นไว้ไม่พูดอะไร จนกระทั่งรถม้าจะออกจากเขตของเมืองหนิวโถ่ว นางจึงกระซิบบอกคุณหนูกับสิ่งที่นางเห็น
"คุณหนูคะ เมื่อกี้ข้าเหมือนเห็นว่ามีคนแอบสอดแนมบ้านคุณหนูจิ่วเย่ว์"
ซย่าเหอติดตามซูอี๋มานานหลายปี ทำแต่งานของสาวใช้ใกล้ชิดมาโดยตลอด แต่แท้จริงแล้วนางได้รับเชิญจากเจ้าบ้านตระกูลซูให้มาปกป้องลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา
ซย่าเหอโตกว่าซูอี๋แปดปี ในสายตาของนาง ซูอี๋ก็เหมือนกับน้องสาวแท้ๆของนางเอง
แม้ว่าต่อมานางจะเก็บเงินบำนาญไว้มากพอแล้ว แต่นางก็ไม่อยากจากไปแบบนี้
แม้ว่าคำพูดของนางจะฟังดูเหลือเชื่อเล็กน้อย แต่ซูอี๋ก็เชื่อใจนางโดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆ
"มีคนสอดแนมจิ่วเย่ว์หรือ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? พวกเขาก็แค่คนธรรมดาทั่วไป หรือว่าไปทำผิดต่อใครมา?" ซูอี๋คิดว่าเป็นทะเลาะวิวาททั่วไปโดยอัตโนมัติ
แต่ซย่าเหอกลับส่ายหัว "ข้าไม่คิดแบบนั้น ตำแหน่งที่ซ่อนของคนๆนั้นมันแปลกมาก ดูออกเลยว่าไม่ใช่คนธรรมดา น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นหนึ่งเลย"
"แต่ใครกันนะที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ไปแอบเฝ้ามองคนธรรมดาทั่วไปสองคนล่ะ?"
ซย่าเหอรู้สึกว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยจุดที่น่าสงสัย "อันนี้ข้าก็ไม่ทราบค่ะ หรือพวกเขาจะไปก่อเรื่องเข้าโดยที่ไม่รู้ตัว?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...