เจ้าบ้านตระกูลซูรับปากกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองว่า "เจ้าไว้ใจได้เลย ข้าจะส่งพี่ชิงมู่ไปปกป้องพวกเขาด้วยตัวเอง!"
พอได้ยินชื่อของชิงมู่ ซูอี๋จึงสบายใจขึ้นมา
ชิงมู่เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นหนึ่งในสังกัดของท่านพ่อ คนธรรมดาทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
นางลุกขึ้น แสดงความเคารพต่อท่านพ่อของตัวเอง "ขอบคุณท่านพ่อมากนะคะ"
เจ้าบ้านตระกูลซูยิ้มและโบกมือ "เอาเหอะ จิ่วเย่ว์เป็นผู้มีพระคุณของเจ้า ไม่ว่านางไปก่อเรื่องอะไรไว้ อย่างน้อยพวกเราก็ต้องปกป้องนาง"
.
ทางนี้เจ้าบ้านตระกูลซูเพิ่งรับปากลูกสาว ก็รีบรับสั่งให้ไปจัดการแล้ว
แต่ทางซูจิ่วเย่ว์กลับไม่รู้อะไรเลย นางล้างจานเสร็จ กว่าจะกลับเข้าห้อง ฟ้าก็มืดแล้ว
เห็นอู๋ซีหยวนถือหนังสือนั่งอยู่ริมหน้าต่าง อาศัยแสงอ่อนๆนอกหน้าต่างอ่านอย่างจดจ่อ
นางขมวดคิ้ว หยิบตะเกียงออกจากตู้ และยกมาให้เขา
รอบข้างสว่างขึ้นมาทันที แน่นอนอู๋ซีหยวนก็รู้สึกได้ เขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของภรรยาตัวเอง
"เป็นอะไรหรือ? ดูปากจู๋นั้นสิ เอาขวดน้ำมันมาแขวนได้ละ" เขาหัวเราะและพูดติดตลก
"ก็ดูเจ้าสิ เจ้าบอกข้าว่า พอฟ้ามืดก็ไม่ต้องทำพวกงานเย็บปักถักร้อย มันไม่ดีต่อสายตา ทีเจ้าล่ะ? แสงมืดขนาดนี้ จะอ่านตัวหนังสือออกหรือ? เดี๋ยวสายตาเสียขึ้นมา ข้าไม่สนใจเจ้าหรอกนะ"
อูซี๋หยวนรีบวางหนังสือในมือลง และรับตะเกียงในมือของซูจิ่วเย่ว์มาวางบนโต๊ะ
"ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่อ่านแล้วโอเคไหม? ข้าไม่อยากสายตาเสียหรอกนะ ข้าจะไว้มองภรรยาข้ายังไงล่ะ"
เขาดึงมือของนาง ออกแรงนิดหน่อย ซูจิ่วเย่ว์ก็เดินโซเซนั่งในอ้อมกอดของเขาแล้ว
พอได้ยินคำพูดของเขา นางเขินหนักมาก เอามือทั้งสองข้างดันหน้าอกของเขา แก้มแดงไปหมด
จะว่าไปก็แปลกเสียจริง แต่ก่อนในตอนที่สามีนางซื่อบื้อแล้วพูดคำเหล่านี้ นางแค่รู้สึกว่ามันน่ารัก แต่พอตอนนี้เขาดีขึ้นแล้ว ทำไมแค่อ้าปากก็ทำให้รู้สึกหน้าแดงหูแดงไปหมด
"พูดจาเหลวไหล ไม่รู้เลยนะว่าไปเรียนกับใครมา!"นางยิ้มและดุเบาๆ
อู๋ซีหยวนกอดนางไม่ปล่อยเลย ตะเกียงบนโต๊ะส่องแสงอ่อนๆ
อู๋ซีหยวนเพิ่งจะเข้าใจในเวลานี้เลยว่าทำไมเหล่านักปราชญ์ถึงได้พูดว่าคนงามต้องดูภายใต้แสงไฟ อายุนางยังเด็ก ใบหน้าเล็กๆนั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม เงาของแสงไฟกระทบบนใบหน้าของนาง นางเขินและหันหน้าไปด้านข้าง เงาของขนตางอนนั้นกระทบบนแก้ม
แสงไฟอบอวลทั้งสองคน ความมืดอื่นนั้นห่างหายจากพวกเขา
"ก็เรียนจากหนังสือไง" อู๋ซีหยวนพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ
แน่นอนว่าซูจิ่วเย่ว์ไม่เชื่อเขาอยู่แล้ว "เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าอย่ามาหลอกข้านะ ในหนังสือจะสอนสิ่งเหล่านี้ได้ไงกัน"
อู๋ซีหยวนมองนาง มุมปากกระตุกยิ้มอย่างมีความสุข "เจ้าไม่เชื่อหรือ? งั้นข้าจะท่องให้ฟัง"
"มีหนึ่งสตรีโฉมสะคราญ เอย ยามสบประสานไม่หลงลืม
ไม่พบท่านเพียงวันเดียว เอย ข้าคะนึงราวคลุ้มคลั่ง
เฟิ่งกางปีกเหินหาว ร้องหาหวงทั่วด้าวแดน"
ซูจิ่วเย่ว์จะไม่ใช่คนที่มีความรู้มากเพียงใด ถึงจะไม่ได้ฟังเข้าใจทุกคำ แต่ก็พอเข้าใจบ้างเล็กน้อย
เดี๋ยวก็หญิงงาม เดี๋ยวก็คิดถึงเป็นบ้า มันจะเป็นวรรณกรรมที่ดีได้อย่างไร?
นางทำหน้านิ่งขึ้นมาทันที เทศนาอย่างดุว่า "พ่อแม่หาเงินมาก้อนโตแบบนี้ เพื่อให้เจ้ามาเรียนหนังสือ ไม่ใช่ให้เจ้าไปอ่านหนังสือมั่วๆเหล่านั้น คำพูดเหลวไหลเหล่านี้ ต่อไปอย่าพูดอีก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...