ซูจิ่วเย่ว์เชื่อว่า ถ้าเธอไม่อยากแต่งงาน เธอก็สามารถคุยกับพ่อแม่ของเธอได้ หรือใช้วิธีอื่นเพื่อยกเลิกงานแต่งงานครั้งนี้ ทำไมต้องไปทำร้ายคนด้วย ? แล้วยังเลือกตีที่หัวของเขาอีก?
“แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเธอให้คนไปทำร้ายเขา? มีเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า”
ซูจิ่วเย่ว์อยากได้หลักฐาน ถ้าเป็นเธอจริงๆ ที่เป็นคนทำ ครั้งนี้เธอจะทุ่มสุดตัวเพื่อให้เธอเข้าได้อยู่ในคุกไปตลอด!
ขณะที่นางหลี่กำลังจัดผ้าบนแผง เธอก็หันกลับมามองเธอแวบหนึ่ง "เข้าใจผิดงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้! ฉันเห็นกับตาตัวเอง!"
สีหน้าของซูจิ่วเย่ว์เปลี่ยนไปทันที “ท่าน...ท่านเห็นอะไร?”
“ก็อยู่ในซอยตรงข้าม สาวใช้ของคุณหนูซุยสองได้มอบถุงเงินให้กับพวกอันธพาลสองสามคน พวกอันธพาลเหล่านั้นยังบอกว่าได้น้อยเกินไป สาวใช้คนนั้นก็รีบหยิบเงินออกมาให้หนึ่งก้อน ยังพูดว่าได้คืบจะเอาศอก”
คำอธิบายของนางหลี่ชัดเจนมากจนรู้สึกเหมือนเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นจริงเหมือนตาเห็น
เมื่อซูจิ่วเย่ว์คิดว่านี่คือสาเหตุที่สามีของเธอต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย และถูกหัวเราะเยาะมานานกว่าครึ่งปี เธอก็กัดฟันด้วยความโกรธ
นางหลี่สังเกตเห็นเธอมีความผิดปกติ จึงถามว่า "น้องสาว เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?"
ซูจิ่วเย่ว์กลับมามีสติอีกครั้งและมองดูเธอ ความโกรธบนใบหน้าของเธอปรากฏชัดเจน "เถ้าแก่เนี้ย ข้าไม่ปิดปังขอพูดตามตรง นักวิชาการคนนั้นที่ท่านพูดถึงคือสามีของข้าเอง"
เห็นได้ชัดว่านางหลี่ตกตะลึงด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “สามีของเจ้ารึ? โอ้พระเจ้า! มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้เกิดขึ้นในโลกนี้จริงๆหรือ?”
ซูจิ่วเย่ว์พยักหน้าเล็กน้อย “ใช่แล้ว สามีของข้าสิติปัญญาไม่ดีมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ครอบครัวของข้าไปหาหมอทุกสารทิศเพื่อไปขอคำปรึกษาจากท่านหมอ และใช้เงินไปจำนวนมาก และเขาเพิ่งจะอาการดีขึ้นเอง”
นางหลี่ตบผ้าตรงหน้าและปลอบโยนเธอ: "เขาดีขึ้นได้นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายแล้ว น้องสาวเจ้าสบายใจเถิด"
ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกว่าเธอทำใจยอมรับไม่ได้ เธอกัดริมฝีปากและได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เธอหันไปมองนางหลี่ด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ "พี่สะใภ้ ข้ามีเรื่องอยากขอให้ท่านช่วยหน่อยได้ไหม? "
นางหลี่ชอบงานฝีมือของเธอและอยากผูกมิตรกับเธอ เธอจึงยิ้มแล้วพูดว่า "เฮ้ พวกเราต่างก็เป็นคนกันเอง ไม่ต้องถึงกับต้องขอร้องอะไรกันหรอก? หากว่าน้องสาวมีอะไรที่ข้าสามารถช่วยได้ ข้าย่อมยินดีช่วยเจ้าแน่นอน!"
ดวงตาของซูจิ่วเย่ว์เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “พี่สะใภ้ ท่านเป็นคนดีมาก ข้าอยากจะฟ้องร้องคุณหนูสองของตระกูลชุย ไม่ทราบว่าท่านจะช่วยเป็นพยายให้ข้าได้หรือไหม”
นางหลี่ซึ่งออกหน้าว่าจะช่วยเมื่อสักครู่ ก็กลับเงียบไปทันที
ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย“พี่สะใภ้ เจ้ามีอะไรปิดบังที่ไม่กล้าพูดหรือไม่?”
นางหลี่ถอนหายใจ "มันก็ยากลำบากสักหน่อย พวกเจ้าหน้าที่และพวกพ่อค้าแม่ค้าในเมืองหนิวโถวของเรา ต่างก็สมรู้ร่วมคิดกัน แม้ว่าข้าจะออกหน้าเป็นพยานให้กับเจ้า และถ้าเราไม่ชนะ ตรงกันข้ามอาจจะถูกหมายหัวเอาได้ เจ้าไม่สามารถอยู่ต่อในเมืองนี้ได้ อย่างน้อยเจ้าก็ยังกลับหมู่บ้านของเจ้า แต่ร้านข้าสิไม่รู้จะยังสามารถเปิดต่อไปได้หรือไม่!”
ซูจิ่วเย่ว์ก็เข้าใจดีกับสิ่งที่เธอพูด สถานที่ห่างไกลซึ่งอำนาจของรัฐบาลกลางไม่สามารถเข้าถึงได้ และเจ้าหน้าที่ก็ปกป้องกันเองนั้นร้ายแรงยิ่งกว่า
ก่อนหน้านี้ลูกสาวของครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านข้างเคียงถูกลูกชายของผู้ว่าการรัฐจับตัวไป คนในครอบครัวนี้วิ่งหาคนช่วยทั่วทุกสารทิศ ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้
ถ้าเป็นซูจิ่วเย่ว์คนก่อนอาจจะอดทนไว้ แต่ตอนนี้เธอมีพี่น้องที่ช่วยสนับสนุนเธอ และเธอก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แค่อยากทวงคืนความยุติธรรมให้กับสามีของเธอ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?
คุณหนูซุยสองคนนี้เพื่อล้มการแต่งงานของเธอ เธอยังสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้ แล้วยังมีอะไรที่ไม่สามารถทำได้อีก? ไม่รู้เบื้องหลังกดขี่ประชาชนไปมากมายขนาดไหน!
เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่นางหลี่ "พี่สะใภ้ ข้ามีวิธีของข้าที่จะจัดการพวกเขา และข้ารับรองว่าจะไม่เดือดร้อนมาถึงท่านแน่นอน ท่านจะช่วยข้าได้ไหม?"
นางหลี่ยิ้ม "น้องสาวเอ๋ย ไม่ใช่ว่าพี่สะใภ้จะดูถูกเจ้านะ หากว่าเจ้ามีความสามารถนั้นจริง ๆ สามีของเจ้าก็ไม่ต้องถูกคนทำร้ายจนกลายเป็นคนแบบนี้"
ซูจิ่วเย่ว์รู้ว่าเธอไม่เชื่อเธอ ดังนั้นเธอจึงพูดว่า: "ในเมื่อพี่สะใภ้ไม่เชื่อข้า งั้นข้าจะพาคนที่พี่สะใภ้เชื่อถือได้มาพูดคุยกับท่าน!"
อู๋ซีหยวนอยากจะเห็นด้วยกับเธอ แต่เขาเป็นขุนนางมาหลายปี และเขาก็รู้ว่าสถานที่นี้มันมืดมนแค่ไหน เรื่องใด ๆ ที่สามารถใช้เงินแก้ไขได้ จะให้ใช้หลักการด้วยเหตุและผลนั้นมันเป็นไปไม่ได้
เพราะฉะนั้น ที่เขาเลือกใช้วิธีสุดโต่งในตอนนั้น เพื่อทำลายธุรกิจครอบครัวที่มีอายุหลายศตวรรษของพวกเขา
“จิ่วยา เราในตอนนี้ไม่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้ ขอเวลาข้าอีกสักหน่อย เมื่อข้าสอบได้และได้รับตำแหน่งขุนนางในอนข้าจะจัดการกับพวกเขาแน่นอน!”
เขาพูดอย่างมั่นใจ ราวกับว่าเขาจะผ่านการทดสอบคัดเลือกขุนนางนี้ได้อย่างแน่นอน
หากเป็นคนอื่นได้ยินสิ่งที่เขาพูด พวกเขาคงคิดว่าเขาพูดเรื่องไร้สาระแน่นอน แต่ซูจิ่วเย่ว์เชื่อใจเขามาก "ซีหยวนจะสอบผ่านแน่นอน แต่ข้าไม่อยากปล่อยให้เธอลอยนวลไปแบบนี้ วันนี้เถ้าแก่เนี้ยร้านขายเสื้อผ้าบอกว่า คุณหนูชุยสองโดนจับเพราะไปล่วงเกินท่านอ๋องเยี่ยน และถูกกุมขังตัวไว้ที่กรมทหาร ข้าอยากไปหาพี่สาวอี๋เอ๋อร์ช่วยข้าเรื่องนี้! ปล่อยให้เธออยู่ในคุกไปตลอดชีวิตเพื่อชดใช้การกระทำของเธอ!"
อู๋ซีหยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นว่าเธอต้องการช่วยเขา
แม่ทัพซูและลูกสาวของเขาเต็มใจที่จะปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าเธอเป็นคนดีเป็นคนพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ไม่ได้ต้องการอะไร แต่ตอนนี้เธอกลับจะใช้หนี้บุญคุณนี้เพื่อเขา
นี่คือความหวังดีของเธอ ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับเธอ อาจจะทำให้เธอยิ่งโกรธยิ่งไปกว่านี้อีก
อู๋ซีหยวนชั่งน้ำหนักอยู่ในใจครั้งแล้วครั้งเล่า และในที่สุดก็ยอมตกลง "ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของภรรยาข้า!"
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูจิ่วเย่ว์ทำอาหารเช้าเสร็จ หลังจากส่งอู๋ซีหยวนไปสถานศึกษาแล้วเธอก็รีบออกจากเมืองหนิวโถว และเดินทางไปที่เมืองหยงโจวทันที
เธอก้าวฝีเท้าก้าวอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันเที้ยงซูจิ่วเย่ว์ก็มาถึงประตูเมืองหยงโจว
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไปจวนซู และเธอไม่รู้จักทาง แต่เธอสอบถามเส้นทางจากคนในเมืองสองสามครั้ง ไม่นานเธอก็รู้เส้นทางที่จะไปจวนซูแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
เอ็นดูพ่อหนุ่มจังเลย...
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...