อู๋ซีหยวนกำลังตั้งใจอ่านหนังสือที่อยู่ในมือ หลังจากได้ยินคำถามของซูจิ่วเย่ว์ เขาก็ตอบกลับอืม “อาจเป็นเขาต้องการทำธุรกิจ ไม่มีเงินทุน ต้องการให้คนชราทั้งสองขายบ้านแล้วเอาเงินให้พวกเขา”
ซูจิ่วเย่ว์ตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ในเมื่อพวกเขาเป็นลูกชายและลูกสะใภ้ของคุณปู่กัว ทำไมพวกเราอยู่ที่นี่มาตั้งนาน แต่กลับไม่เคยพวกเขามาดูแลคนชราทั้งสองคนเลยล่ะ? ”
อู๋ซีหยวนยักไหล่ “พวกเรากตัญญู แต่ในโลกนี้ก็มีคนที่ไม่กตัญญู”
ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกโกรธและขุ่นเคือง “ในเมื่อพวกเขาไม่ดูแลคนชรา ทำไมยังมีหน้ามาแบมือของเงินกับคนชราอีก?”
“มักจะมีคนหน้าด้าน เจ้าไม้เห็นหรือว่าคุณปู่กัวและภรรยาต่างก็เพิกเฉยต่อพวกเขา”
ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่จะไม่ใช่ว่าผลัดปัญหาไปเรื่อยๆแบบนี้? ถูกลูกชายตัวเองมารังควานทุกๆสองสามวัน ไม่ต้องพูดถึงว่าคนชราทั้งสองจะโมโหหรือไม่ แต่อีกไม่กี่วันซีหยวนก็จะสอบราชการแล้ว ถูกคนรบกวนเช่นนี้ จะอ่านตำรารู้เรื่องได้อย่างไร?
“ไม่ได้ ข้าต้องออกไปดู” ซูจิ่วเย่ว์ลุกขึ้นยืน
อู๋ซีหยวนเรียกเธอไว้ “เจ้ามีอะไรจะพูดกับพวกเขาหรือ? คนพวกนั้นไม่มีเหตุผลหรอก”
ซูจิ่วเย่ว์ไม่กลัว “เรื่องนี้เจ้าไม่รู้ล่ะสิ สำหรับคนที่ไม่มีเหตุผล เจ้าก็ต้องไม่มีเหตุผล เจ้ารอดูก็แล้วกัน”
หลังจากอู๋ซีหยวนได้ฟังสิ่งที่เธอพูด เขาก็หยุดอ่านตำรา และมองไปข้างนอกด้วยความสนใจ เขาอยากเห็นจริงๆว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะจัดการกับสองคนที่อยู่ข้างนอกอย่างไร
ซูจิ่วเย่ว์มาถึงที่หน้าประตู กระแอมในลำคอ และตะโกนบอกทั้งคู่ว่า “เฮ้!พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
กัวจิ้นฟานด่าว่าอยู่ในลานบ้านเป็นเวลานาน ปากของเขาก็แห้ง แต่ไม่มีใครสนใจเขา ในที่สุดก็มีคนปรากฏตัวขึ้น เขาจึงรีบหันหน้ามา มองไปที่ซูจิ่วเย่ว์
“ข้าอยากถามว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ทำไมถึงมาอยู่ในลานบ้านของข้า?!”
ซูจิ่วเย่ว์ยืนอยู่บนขึ้นบันได เบิกตากว้าง “ลานบ้านของเจ้า? ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน?”
“คนที่อาศัยอยู่ในบ้านนี้คือพ่อแม่ของข้า ไม่ใช่ลานบ้านของข้าเป็นลานบ้านของเจ้าหรือ?” กัวจิ้นฟานกลอกตา ราวกับว่าเธอถามคำถามที่งี่เง่า
ซูจิ่วเย่ว์ก็กลอกตาเช่นกัน เจ้าบอกว่าคนที่อยู่ข้างในคือพ่อแม่ของเจ้า จะพิสูจน์ได้อย่างไร? ข้ามาอยู่ที่นี่หนึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน เจ้าเป็นพวกหลอกลวงหรือเปล่า?
เมื่อกัวจิ้นฟานได้ยินว่าเธอบอกว่าเขาเป็นคนหลอกลวง เขาก็รู้สึกโกรธมาก “เจ้านังสารเลว ว่าใครเป็นพวกหลอกลวง?!อย่าคิดว่าตัวเองอายุยังน้อยและหน้าตาดี แล้วจะมาหลอกให้พ่อของข้ายกบ้านให้เจ้า!”
“ข้าเป็นผู้เช่าที่นี่ เซ็นสัญญาผ่านคนกลาง ตอนนี้สามีข้าจะอ่านตำราและเขียนหนังสือ ถ้าเจ้ายังตะโกนโวยวายอยู่ ข้าจะรายงานให้ทางการทราบ!แล้วเราจะได้เห็นกันว่าทางการจะตัดสินอย่างไร!” ซูจิ่วเย่ว์ขู่ และจ้องมองเขา
ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆกัวจิ้นฟานเยาะเย้ย “ยังขู่คนอื่นอีก? เจ้าไปรายงานทางการ?!แม้จะพูดจนฟ้าถล่มทลาย ที่นี่ก็คือลานบ้านของข้า!”
ซูจิ่วเย่ว์เอามือกอดอก มองดูพวกเขาอย่างเหยียดหยาม “ราชวงศ์โจวปกครองบ้านเมืองด้วยความกตัญญู เจ้าทั้งสองเพิกเฉยต่อพ่อแม่ และยังกลับมาเพื่อด่าว่า ข้าไม่เชื่อว่าถ้าข้าไปรายงานทางการ ท่านเปาปุ้นจิ้นยังจะสามารถช่วยพวกเจ้าได้!”
กัวจิ้นฟานไม่สามารถเถียงเธอได้ เขาโกรธมากจึงหยิบไม้กวาดบนพื้นขึ้นมา “เจ้า!เจ้านังสารเลว จะไปรายงานทางการ!ดูสิว่าข้าจะตีเจ้าให้ตายหรือเปล่า!”
ตอนซูจิ่วเย่ว์ยังเป็นเด็กเขามักทะเลาะกับคนในหมู่บ้านเพื่อปกป้องน้องชาย และตอนนี้เธอไม่ได้กลัวเขาเลย
ทันทีที่เขาใช้ไม้กวาดฟาดเธอ ซูจิ่วเย่ว์ก็ต้องการหลบโดยไม่ทันตั้งตัว
แต่ไม่คาดคิดว่าจู่ๆจะมีมือยื่นออกมาจากด้านหลัง แล้วดึงเธอไปอยู่ข้างหลัง
ไม้กวาดที่ฟาดลงมา ก็ถูกเขาจับไว้แน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...