ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 16

สองวันต่อมา หลิวซุ่ยฮวาแบกอาหารแห้งไว้บนหลัง ออกเดินทางไปตามถนนพร้อมกับจูงมือเด็กสองคนคนล่ะข้าง

ในเวลานี้ค่าผ่านทางเข้าเมืองหนิวโถ่วยังคงเป็นสามเหรียญ แต่จำนวนคนไม่ได้ลดลงเลย มีหลายคนพาครอบครัวมาด้วย ดูแวบแรกก็รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนในท้องถิ่น

หลิวซุ่ยฮวาพบป้าคนหนึ่งท่าทางใจดีและถามว่า "พี่สะใภ้ ทำไมมีคนต่างถิ่นเข้ามาในเมืองเยอะจัง"

ป้าคนนี้พาลูกสะใภ้เข้าไปในเมืองด้วย และนางก็เป็นคนสอดรู้สอดเห็น เมื่อได้ยินดังนั้นนางจึงลดเสียงลงแล้วพูดว่า "ว่ากันว่าหนีภัยมาจากทางเหนือ เรายังดีที่มีแม่น้ำอยู่ที่นี่ แม้ว่าจะแล้งหนักแค่ไหน ยังไงซะก็ยังมีหนทางรอดอยู่”

"ทางเหนือ... ว่ากันว่าเริ่มกินคนกันแล้ว!" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางแสดงสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อยและเสียงของนางเริ่มเบาลง

ซูจิ่วเยว่ตัวสั่น คิดว่าการถูกขายเหมือนกับตัวเองเป็นเรื่องที่แย่พอแล้ว ไม่คิดว่ายังมีสิ่งที่แย่กว่านาง

ใบหน้าของหลิวซุ่ยฮวาแสดงสีหน้ารับไม่ได้เล็กน้อย แล้วนางก็สวดมนต์ "อมิตาพุทธ พระโพธิสัตว์จงคุ้มครอง ขอให้วันแบบนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วเถอะ!"

ป้าข้างๆก็พูดเสริมสองสามคำว่า "ข้าได้ยินคนพูดว่ามีชาวต่างถิ่นอพยมมาที่นี่มากมาย อาหารและข้าวของจะต้องแพงขึ้นแน่ ๆ น้องสาวถ้าเจ้ามีเงินอยู่ในมือ รีบซื้อข้าวไว้เถอะ เกรงว่าวันข้างหน้าต้องไม่สงบสุขแน่!”

หลิวซุ่ยฮวากล่าวขอบคุณนาง และทั้งสองคนเริ่มพลัดกันพูดคุยเรื่องชีวิตประจำวัน เมื่อถึงคิวพวกนางต่างจ่ายเงินและกล่าวคำลาแยกทางกัน

ซูจิ่วเยว่เดินตามหลิวซุ่ยฮวาไปที่โรงหมออย่างคุ้นชินเส้นทาง ระยะนี้โรงหมอกิจการไม่ค่อยดี มีเงินนิดหน่อยก็หมดไปกับการซื้ออาหาร เจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยคนก็ไม่มาหาหมอกัน

ทันทีที่ทั้งสามคนเข้าไปที่โรงหมอ หมอชราที่ประจำอยู่ที่โรงหมอก็จำพวกเขาได้

อันที่จริงคือเขาจำอู๋ซีหยวนได้

อู๋ซีหยวนมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและลักษณะบุคคลิกภาพที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งหายากมากในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้

หลิวซุ่ยฮวาดึงอู๋ซีหยวนนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามหมอ และเขายิ้มให้ท่านหมอ "ท่านหมอซุน ท่านดูลูกชายข้า สมองของเขาน่าจะรักษาหายไดหรือไม่? ข้าเห็นช่วงนี้อาการของเขาดีขึ้นเยอะมาก!"

ท่านหมอซุนขอให้อู๋ซีหยวนเหยียดข้อมือออก และซูจิ่วเยว่รีบก้าวไปข้างหน้าช่วยอู๋ซีหยวนพับแขนเสื้อ และวางมือเขาลงที่ผ้ารองแขน

หมอซุนเงยหน้ามองนาง “ลูกสะใภ้รึ?”

คำถามคือถามหลิวซุ่ยฮวา แต่คำตอบเป็นอู๋ซีหยวนตอบแทน

เขาย่นจมูกและพูดด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจว่า "ไม่ใช่ลูกสะใภ้ ! แต่เป็นภรรยาของข้า!"

หมอซุนหัวเราะเสียงดังออกมา “ข้ารู้แล้ว ข้ารู้แล้ว เป็นภรรยาของเจ้า”

หลิวซุ่ยฮวายิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และไม่ต้องการพูดเรื่องในครอบครัวกับคนนอก ดังนั้นเธอจึงบอกท่านหมอซุนว่า "ท่านจับชีพจรลูกชายของข้าหน่อย"

หมอซุนเป็นหมอที่เก่งที่สุดในเมืองหนิวโถวแล้ว เขาจับชีพจรและเลิกเปลือกตาของอู๋ซีหยวนขึ้นเพื่อตรวจดู จากนั้นดึงมือออกแล้วพูดว่า "อาการตอนนี้ไม่เลว แต่จะรักษาหายหรือไม่นั้นพูดยาก สิ่งที่อยู่ในสมองพวกเราก็ไม่สามารถมองเห็นได้ เจ้าว่าไหม?แต่คราวที่แล้วข้าสั่งยาเพื่อเสริมการไหลเวียนของเลือดและคลายการอุดตันของเลือด ทานแล้วได้ผลก็มีประโยชน์ ข้าจะจ่ายยาเพิ่มให้เอากลับไปกินก่อน ถ้ามีอาการไม่สบายตัวก็หยุดยาแล้วมาหาข้า”

ออกมาจากโรงหมอ ด้านหน้ามีเกี้ยวคันหนึ่งกำลังผ่านมา หลิวซุ่ยฮวาก็ดึงลูกทั้งสองของนางหลบไปอยู่ข้างทาง

ซูจิ่วเยว่มองไปที่เกี้ยวสีแดงด้วยความอยากรู้อยากเห็น และได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่อยู่ภายใน

ราวกับสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังมองอยู่ ผ้าม่านของเกี้ยวก็ถูกเปิดออกด้วยมือข้างหนึ่ง เผยให้เห็นใบหน้าครึ่งหนึ่ง

เป็นคุณหนูหน้าตาสวยคนหนึ่ง

ซูจิ่วเยว่เพียงเหลือบมองแวบหนึ่ง แล้วรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว

แค่เพียงแวบเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ซูจิ่วเยว่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เดิมทีเขาเคยจับปากกาและอยู่กับหนังสือเหล่านี้ตลอดทั้งวัน ตอนนี้เขาเห็นมันแล้ว ต้องรู้สึกคุ้นเคยอย่างแน่นอน และเป็นเรื่องปกติที่เขาจะชอบมัน

เขาแตะมันสองครั้ง ทันใดนั้นก็หันกลับมาและพูดกับซูจิ่วเยว่ว่า "เมียรัก ข้าอยากได้สิ่งนี้"

ทั้งสองเดินผ่านมาตลอดทาง แต่อู๋ซีหยวนก็ไม่ได้เรียกร้องต้องการสิ่งใดจากเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเขาพูดว่าเขาต้องการอะไร

ซูจิ่วเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่เจ้าของร้านและถามเขาว่า "หนังสือเล่มนี้ราคาเท่าไหร่"

เจ้าของร้านบอกว่า "ยี่สิบเหรียญ"

ซูจิ่วเยว่ขมวดคิ้ว และใช้มือเล็ก ๆ จับที่กระเป๋าของเธอโดยไม่รู้ตัว เงินจำนวนยี่สิบเหรียญ... นางไม่มี...

“ถูกกว่านี้อีกได้ไหม?” ซูจิ่วเยว่ถามด้วยความไม่มั่นใจ สำหรับภายในใจนางแล้วหนังสือยังคงเป็นสิ่งของประหลาด

เจ้าของร้านค่อนข้างกลุ้มใจ เขามาตั้งแผงขายตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ยังขายมันไม่ได้สักเล่มเลย

แม้ว่าจะมีโรงเรียนอยู่ในเมือง แต่นักวิชาการต่างชอบอ่านสี่ตำราห้าคัมภีร์ คงไม่มีใครชอบอ่านหนังสือบันทึกการเดินทางแปลกๆ แบบนี้?

อุตสาห์มีอยากจะซื้อ จึงถามไปว่า "เจ้าอยากได้ราคาเท่าไหร่?"

ซูจิ่วเยว่คลำหาในกระเป๋าของนาง จากนั้นหยิบเหรียญแปดเหรียญออกมาและยื่นให้เขา "ข้า... มีแค่เท่านี้..."

เจ้าของร้านขมวดคิ้ว “นี่เจ้าให้น้อยเกินไปหรือเปล่า?”

ซูจิ่วเยว่ชี้ไปที่หนังสือเพียงเล่มเดียวบนแผงลอย ซึ่งมีขนาดเล็ก บาง และดูขาดรุ่งริ่ง แล้วถามว่า "ข้าต้องการหนังสือเล่มนี้ ตกลงไหม? หนังสือเล่มนั้นดูแล้วมีความหนาไม่เท่าเล่มอื่น"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี