หลิวซุ่ยฮวาเพิ่งจัดการเสื้อผ้าบนตัวของอู๋ซีหยวนเสร็จ เมื่อนางหันหน้าไปเห็นลูกสะใภ้เล็กที่ยืนอยู่เหมอข้าง ๆ และหัวเหราะเหมือนคนสติไม่ดี
“เจ้าหัวเราะทำไม? ยังไม่เข้าไปเร็ว ๆ พี่สะใภ้ของลูกทำอาหารเสร็จแล้ว และทุกคนกำลังรอพวกเจ้าอยู่!”
เมื่ออู๋ซีหยวนได้ยินว่ามีของกิน ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย "มีของอร่อยกิน! ซีหยวนหิวจัง! เมียข้าก็หิวแล้วเหมือนกัน!"
หลิวซุ่ยฮวายิ้มอย่างช่วยไม่ได้ "ของอร่อยงั้นรึ? หึหึ มันคือซุปขิง!"
ไม่ต้องสนใจว่าซีหยวนจะแสดงสีหน้ายังไง แต่ว่าใบหน้าของซูจิ่วเย่ว์หุบยิ้มลงทันที
เปิดม่านแล้วเข้าไปในห้อง ภายในห้องอบอวลไปด้วยไอร้อน ๆ อู๋ซีหยวนวางเหยือกเหล้าลงบนโต๊ะ แล้วดึงซูจิ่วเยว่ให้นั่งลง
ในเวลานี้ซูจิ่วเยว่เพิ่งเห็นว่ายังมีซุปผักอยู่บนโต๊ะหนึ่งชาม เมื่อมองดีๆ มันไม่ใช่หญ้าลิ้นจี่ที่นางและอาจารย์เก็บมา
เธองุนงงเล็กน้อย และหลิวซุ่ยฮวาเมื่อเห็นว่านางรู้แล้ว จึงอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า "เจ้าบอกไม่ใช่เหรอว่าผักที่ปลูกในสวนงอกแล้ว? ข้าเลยไปเก็บมันมาเล็กน้อย เพื่อทำอาหารให้ทุกคนได้กินกัน "
ซูจิ่วเยว่ยิ้ม "ข้าก็กะไว้ว่าสองสามวันนี้จะเก็บผักเหล่านี้มาทำอาหารให้ทุกคนได้กิน!"
หลิวซุ่ยฮวาลงมือทำซุปด้วยตัวเอง นางใส่ไข่ลงไปแล้วตีให้แตกหยดน้ำมันลงไปสองสามหยด และมันอร่อยมาก ขนาดหวงหูเซิงคนเดียวก็กินไปสองชาม
เขาวางชามและตะเกียบในมือลง ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวว่าเขากินมากเกินไป และเขาก็ละอายใจเล็กน้อย และยิ้มให้ทุกคน "พี่สะใภ้ ฝีมือทำกับข้าวของเจ้าดีจริงๆ ผักนี้... เจ้าบอกว่าจิ่วยาเป็นคนปลูกเอง?”
ก็แค่ซุปสองชาม หลิวซุ่ยฮวาไม่ได้ตระหนี่ขนาดนั้น เธอยิ้มและเล่าเรื่องที่ซูจิ่วเย่ว์ปลูกผักให้เขาฟัง
หวงหูเซิงลูบเคราและคิดอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็พูดว่า "ทุกวันนี้หิมะตกทั่วทุกที่ การที่จะได้กินผักเขียวมันเป็นเรื่องยากอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเอาผักเหล่านี้ไปขาย อาจจะทำเงินได้มากมาย"
ใช่ว่าซูจิ่วเยว่จะไม่มีความคิดแบบนี้ แต่สถานการณ์เมืองหนิวโถวก็เป็นเช่นนั้น แล้วใครจะมาซื้อผักของเธอล่ะ?
ก่อนที่นางจะพูดจบ หลิวซุ่ยฮวาก็พูดแทนนางก่อนว่า "เจ้ารู้ดีอยู่แล้วว่าตอนนี้สถานการณ์ในเมืองหนิวโถวนั่นเป็นอย่างไร ไม่มีใครกล้าเข้าไปในนั้น อย่าเอาคนในครอบครัวไปเสี่ยวอันตรายเพียงเพราะเงินแค่เล็กน้อยนี้"
เมื่อเทียนซิวเหนียงได้ยินหลิวซุ่ยฮวาพูดถึงเรื่องนี้ ตาก็เป็นประกายและนางก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเรื่องสำคัญเช่นนี้
คนที่จะเอาผักไปขายจะต้องเป็นผู้ชาย แต่จะให้สามีตัวเองไป นางก็อดเป็นห่วงไม่ได้
แต่ถ้าปล่อยให้พี่ใหญ่ไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่ งานล่าสัตว์ ตัดฟืนบนภูเขา งานทั้งหมดไม่ต้องตกที่สามีของนางต้องเป็นคนไปทำหรือ? เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง ก็คงมีผู้ชายคนเดียวที่สามารถทำงานได้นั่นก็คือสามีของนางเอง
“ใช่ ใช่ ถูกต้องแล้ว ! ที่ท่านแม่หมายถึงคือครอบครัวของเราอยู่อย่างสงบสุขปลอดภัย น่ะดีแล้ว ดังนั้นอย่าไปโลภกับเงินเล็กน้อยนั้น”
หวงหูเซิงได้ยินพวกเขาพูด เขาก็หัวเราะออกมาทันที "ข้ารู้ว่ามันเป็นสถานที่อันตราย ข้าจะกล้ายุยุงให้เจ้าไปที่แห่งนั้นได้อย่างไร?"
เมื่อเขาพูดเช่นนี้หลิวซุ่ยฮวาและคนอื่นๆ ต่างไม่เข้าใจ “แล้วเจ้าหมายความว่าอย่างไร”
"ไม่ไปเมืองหนิวโถวแต่ไปที่ไปที่เมืองยงโจวแทน เมืองยงโจวแตกต่างจากเมืองหนิว ที่นั้นเป็นป้อมปราการและมีการป้องกันอย่างแน่นหนา พวกพ่อค้าร่ำรวยหลายคนไปที่นั่น พวกคนรวยเหล่านั้นพิถีพิถันมาก และผักเหล่านี้ก็ขายให้พวกเขา จะขายผักครึ่งกิโลกรัมในราคาหนึ่งตำลึงก็ยังได้”
“หนึ่งตำลึง?!” ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยกเว้นอู๋ซีหยวนแล้ว ต่างอ้าปากค้างพร้อมกัน
ปกติพวกเขาขายผักเหล่านี้ ครึ่งกิโลกรัมยังขายไม่ได้เงินสามเหรียญเลยด้วยซ้ำ!
หวงหูเซิงเป็นคนที่มีความอดทนมาก จึงได้ยินเขาพูดว่า "ปกติคนที่ไปขายของในตลาดเมืองหนิวโถวมักจะเป็นชาวนาจากบริเวณใกล้เคียง ผักที่ทุกคนกินก็เป็นผักที่ปลูกกันเองในสวนของตัวเอง แล้วจะมีใครที่ไหนจะไปซื้อผักล่ะ? ขายไม่ได้ราคาก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...