อู๋ซีหยวนซ่อนตัวอยู่ข้างหลังซูจิ่วเย่ว์โดยไม่รู้ตัว และยังโผล่หัวออกมาอย่างเงียบ ๆ แล้วแลบลิ้นใส่เขา "ภรรยาของข้าพูดแล้ว ข้าไม่ต้องสนใจท่าน! ข้าไม่ต้องการคุยกับท่าน!"
ซูจิ่วเยว่เคยพูดคำนี้ก่อนหน้านั้น แต่หลิวซุ่ยฮวานั้นไม่รู้
ทันทีที่ซีหยวนพูดประโยคนี้ ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก เธอเกรงว่าจะไปล่วงเกินพวกนายทหาร แล้วพวกเขาจะจับตัวลูกชายของเธอไปจริงๆ
เธอรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเติมน้ำร้อนอีกชามใหญ่ให้กับอาต้า และพูดด้วยรอยยิ้ม : " ไต้เท้า ท่านเป็นคนใหญ่คนโตและใจกว้าง อย่าได้ถือสาเด็กไม่รู้ความเลย ดื่มน้ำชาก่อนเถอะไต้เท้า!"
ในขณะที่พูด เธอขยิบตาให้ซูจิ่วเยว่
ร่างเล็ก ๆ ของซูจิ่วเย่ว์นั้นไม่สามารถหยุดยั้งร่างของอู๋ซีหยวนได้เลย ซูจิ่วเย่ว์เห็นแม่สามีส่งสัญญาณให้เธอ และรู้สึกว่าคำพูดของอู๋ซีหยวนนั้นไม่เหมาะสมเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงดึงอู๋ซีหยวนและกระซิบว่า: " เจ้าไม่สมควรพูดจาแบบนั้น ถึงเขาจะตำหนิอู๋ซีหยวนของเราว่าไม่ดี แต่เราก็ไม่สมควรพูดไม่ดีกับเขา เจ้าเข้าใจไหม? ไม่งั้นเขาก็จะโกรธเหมือนกันกับซีหยวน”
พูดตามตรง อู๋ซีหยวนไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ภรรยาของเขาพูดนั้นถูกต้อง!
“’ข้าจะไม่ว่าเขาเป็นท่านอาที่ไม่ดีแล้วก็ได้ ถ้างั้นเรายังจะต้องสนใจเขาอีกไหม”
“ถ้าเจ้าไม่อยากสนใจก็ไม่ต้องสนใจ” เธอเอามือปิดริมฝีปากและลดเสียงลงอีกครั้ง
เมื่อเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบ คิดว่าเสียงของพวกเขาเบาแล้ว อาต้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำเล็กน้อย
พวกเขาไม่รู้หรือว่าคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้จะมีประสาทสัมผัสการได้ยินที่ดีเยี่ยม?
หลิวซุ่ยฮวาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกระซิบกัน เมื่อเห็นอาต้าจ้องมองทั้งสองคน ด้วยกังวลว่าเขาโกรธแค้นพวกเขา ดังนั้นเธอจึงยิ้มอย่างเขินอายและไล่พวกเขาออกไป
“จิ่วยา พาซีหยวนออกไปเล่นข้างนอก อย่ามาวุ่นวายแถวนี้”
ซูจิ่วเยว่และอู๋ซีหยวนก็ไม่ได้ต้องการที่จะอยู่ที่นี่แต่แรก หลังจากได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาก็ตกลงและจับมือกันวิ่งออกไป
ในเวลานี้อาต้าก็ดื่มน้ำชาถ้วยที่สามเสร็จแล้ว หลิวซุ่ยฮวาเห็นแล้วต้องการที่จะเติมน้ำชาให้อีก ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือปิดถ้วยน้ำชาไว้
“ไม่ต้อง เราไม่ใช่ควายในน้ำ ท้องไม่สามารถรับได้เยอะขนาดนั้น”
หลิวซุ่ยฮวาถึงได้หยุด
อาต้าวางมือลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ “พี่สะใภ้ ข้าจะไม่ค้นบ้านเจ้าแล้ว แต่ข้าขอถามท่านคำถามเดียว พวกท่านไม่เคยเห็นเด็กอายุห้าขวบจริงๆ หรือ?”
หากซูจิ่วเย่ว์และคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่ พวกเขาอาจจะตกใจ แต่หลิวซุ่ยฮวาก็แก่อายุปูนนี้แล้ว จุดนี้นับว่ามีความนิ่งพอสมควร
เธอขมวดคิ้วและแสร้งทำเป็นคิดอย่างรอบคอบ แต่สุดท้ายเธอก็ส่ายหัว "ข้าจำไม่ได้จริงๆ หญิงชราอย่างข้าก่อนหน้านั้นก็ป่วยหนัก และข้าก็ยุ่งเกินกว่าจะใส่ใจเรื่องนี้ "
อาต้าเชื่อคำพูดของเธอ และยืนขึ้น "เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นข้าก็ไม่รบกวนท่าน ข้าขอลาก่อน!"
ซูจิ่วเยว่และอู๋ซีหยวนกำลังเล่นอยู่ที่ประตู และเมื่อเขาเดินเออกมา พวกเขาก็หันหลังกลับราวกับว่าพวกเขาไม่ได้เห็นเขา
อาต้าหัวเราะและดุไปหนึ่งที "เจ้าเด็กบ้า!"
จากนั้นเขาก็ยกเท้าแล้วเดินออกไป
ทันทีที่เขาออกไปพ้นประตูแล้ว ทหารสองคนก็เข้ามาล้อมเขาไว้ “ไต้เท้า!”
“อืม มีเบาะแสอะไรบ้างมั้ย?”
"ไม่มีอะไรเลยขอรับ"
“ไปกันเถอะ! เปลี่ยนไปหมู่บ้านอื่น” อาต้าออกคำสั่ง
หลิวซุ่ยฮวาก็หันไปมองลูกชายทั้งสองของเธอ และเห็นว่าทั้งสองคนก็พยักหน้าเช่นกัน เธอจึงพูดต่อ: "ในเมื่อพวกเจ้าต่างตกลงเรื่องนี้แล้ว งั้นข้าจะขอพูดเรื่องต่อจากนี้"
“ถ้าพวกเราต้องการปลูกผักในปริมาณที่มากขึ้น แต่จะปลูกมันที่ไหนก็เป็นอีกปัญหา เพื่อรักษาอุณหภูมิเราจะต้องไม่ปลูกในที่โล่งแจ้ง พวกเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร ?”
ทุกคนจมอยู่กับความคิด การสร้างโรงเรือนในนาของพวกเขา ต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยเลย
เมื่อซูจิ่วเย่ว์เห็นว่าไม่มีใครพูด เธอจึงพูดอีกครั้งว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ บ้านเก่าของพวกเรายังว่างอยู่ไม่ใช่หรือ? บ้านและคั่งล้วนมีหมดแล้ว และสิ่งที่หายากที่สุดคือมีบ่อน้ำ เวลาเรารดน้ำก็ไม่ต้องไปตักน้ำไกล"
“จริงสิ! ทำไมข้าถึงคิดไม่ได้นะ!” เทียนซิวเหนียงปรบมือของเธออย่างเห็นด้วยกับความคิดนี้
เอ้อร์เฉิงหัวเราะและล้อเธอว่า "สมองของเจ้าจะคิดอะไรได้!"
เทียนซิวเหนียงกลอกตามาที่เขา "เจ้ายังว่าข้าอีก เจ้าก็คิดไม่ได้เหมือนกัน?"
หลิวซุ่ยฮวาก็คิดว่าความคิดนี้ดี "พรุ่งนี้เช้า ลูกสะใภ้ทั้งสามไปกับข้าไปจัดบ้านเก่าให้เรียบร้อย ลูกคนโต เจ้าพาน้องสามขึ้นไปบนเขาขุดดินกลับมา ถ้าจะต้องปลูกผักในบ้านมันต้องมีกระถ่างรอง ข้าคิดว่าลังไม้นั้นน่าจะใช้ได้ ตาเฒ่าเจ้าอยู่บ้านทำมันก็ได้ คิดว่าไม่น่ายากอะไร ลูกคนรองเจ้าอยู่บ้านช่วยพ่อเจ้า หลังบ้านยังมีท่อนไม้หยาบๆ สองสามท่อน…”
ด้วยคำสั่งได้ออกมาเป็นข้อ ๆ หลังจากมอบหมายหน้าที่ให้ทุกคนเสร็จ หลิวซุ่ยฮวาโบกมือและพูดว่า "เอาล่ะ งั้นก็ทำตามนี้ก็แล้วกัน กลับไปนอนกันได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นเช้าหน่อย"
หลังอาหารเช้าในเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็ไปทำงาน ผู้คนที่สัญจรไปมาในหมู่บ้าน เห็นประตูบ้านเก่าของตระกูลอู๋เปิดอยู่ พวกเธอสองสามคนทำความสะอาดกันอลเวง แม้กระทั่งวัชพืชที่อยู่ในสวนก็ถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว“
“โอ้ว! แม่ต้าเฉิง พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” ผู้หญิงคนหนึ่งจากหมู่บ้านเดียวกันถาม“
“ไม่มีอะไร แค่คิดถึงว่าคนในครอบครัวเยอะขึ้น จัดการสวนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาเข้ามาอาศัยจะได้สะดวก”หลิวซุ่ยฮวายืดตัวขึ้นและเช็ดเหงื่อจากหน้าผากของเธอ
เธอจะไม่บอกคนอื่นว่าพวกเขารวยได้ด้วยวิธีอะไร ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมารู้ทีหลัง แต่นั้นก็ต้องทีหลังบ้านของพวกเขา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
เอ็นดูพ่อหนุ่มจังเลย...
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...