“เจ้ามันคนปากดี!” เทียนซิวเหนียงดันเขาหนึ่งตี
“ถ้าอย่างนั้นตอนอยู่บนคั่งข้าต้องแสดงพละกำลังซะหน่อย เพื่อให้เจ้าคลอดลูกชายตัวอ้วนให้ข้าเร็ว ๆ !”
“ให้ตายเถอะ! วันทั้งวันข้าไม่ได้แต่งเนื้อแต่งตัวเลย!”
……
ไม่ว่าเทียนซิวเหนียงจะไม่เต็มใจแค่ไหน ในวันรุ่งขึ้นก็มีแค่เธอกับซูจิ่วเย่ว์เพียงสองคนที่ไปที่บ้านเก่า
จริง ๆ แล้วซูจิ่วเย่ว์อยากจะบอกว่า ไปเก็บผักแค่นี้เธอสามารถไปคนเดียวได้ แต่ท่านแม่ก็ยืนกรานที่จะให้ทั้งสองคนไปด้วยกัน
ซู่จิ่วเยว่แบกตะกร้าใบเล็ก และมีพื้นรองเท้าอยู่ข้างใน กะว่าจะทำมันตอนที่เธอมีเวลาว่าง
ช่วงนี้เธอโตขึ้นมาก และรองเท้าเดิมก็คับแคบสำหรับเท้าเธอเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงอยากทำคู่ใหม่โดยเร็วที่สุด
เมื่อเธอเห็นว่าใบหน้าของเทียนซิวเหนียงดูไม่ค่อยดีนัก จึงถามเธอว่า "พี่สะใภ้รอง ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?"
เทียนซิวเหนียงแสดงความไม่พอใจ " ทำไมเราสองคนต้องมาทำงาน แต่ทำไมเธอถึงขี้เกียจได้"
ที่จริงสิ่งที่เธอพูดนั้นถูกต้อง ผู้หญิงชาวนาไม่ได้มีฐานะสูงส่ง และผู้หญิงอีกหลายคนที่กำลังจะคลอดยังต้องทำงานในไร่นาอยู่เลย
เฉินจาวตี้สามารถอยู่เฉยๆ ที่บ้านได้นั้น เพราะแม่สามีรักและถนุถนอมเธอ
ซูจิ่วเย่ว์ไม่ได้เป็นคนขี้ใจน้อย เธอรู้สึกว่างานนี้ก็ไม่ได้หนักหนาหรือเหนื่อยเกินไป และพี่สะใภ้เพิ่งตั้งครรภ์ก็สมควรต้องพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลย
“ก็ไม่ได้เป็นงานหนักหนาอะไร บ้านเก่าข้างล่างก็อบอุ่นดี แค่ไปรดน้ำผักเท่านั้น ดีกว่าขึ้นเขาไปขุดผักป่าตั้งเยอะ ”
เทียนซิ่วเหนียงเห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ข้างเดียวกัน กลับยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้น
"มีแต่เจ้าที่เป็นคนดี! คำพูดอะไรน่าฟังเจ้าก็พูดอย่างนั้น!"
จากที่ซูจิ่วเย่ว์ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับเธอมาสักพัก ก็พอรู้ว่าเธอเป็นคนอุปนิสัยยังไง
เธอเงยหน้าขึ้นมองเธอ “พี่สะใภ้รอง วันนี้เป็นคราวที่พี่สะใภ้ได้พักผ่อน วันหน้าต้องเป็นพี่สะใภ้รองได้พักบ้างแน่นอน ท่านแม่ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียบกันในเรื่องนี้”
เทียนซิ่วเหนียงกลอกตา " เรื่องนั้นก็ไม่แน่หรอก ท่านแม่ไม่ค่อยชอบข้ามาตลอด ข้าไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลา ท่านแม่จะทรมานข้าอะไรอีก!"
ซูจิ่วเย่ว์ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีเจตนาร้ายกับแม่สามีอยู่เสมอ เธอจึงถามอีกครั้งว่า "ตอนที่พี่สะใภ้ตั้งครรภ์กั๋วเอ๋อร์ ท่านแม่มีทรมานพี่สะใภ้หรือไหม่?"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เธอก็ยิ่งโกรธ: "ทำไมจะไม่มีล่ะ? ตอนที่ข้าตั้งครรภ์กั๋วเอ๋อร์ช่วงนั้นเป็นฤดูร้อน อากาศร้อนจนข้ากินอะไรไม่ลง ข้าแค่อยากจะกินลูกบ๊วย ท่านแม่ก็ไม่ยอมให้เอ้อร์เฉิงซื้อให้ข้า บอกว่าสิ้นเปลือง!”
ซูจิ่วเย่ว์ ..........
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงประโยคที่ท่านอาจารย์ได้พูดไว้ ความคิดเห็นไม่ตรงกันมากเกินไปยากที่จะพูดต่อได้
ในเวลานี้เธอและพี่สะใภ้รองก็เป็นเช่นนั้น ถ้าเรามั่วแต่กล่าวโทษชีวิต ชีวิตก็จะให้แต่สิ่งที่ไม่ดีกับเรา
ถ้าเธอปฏิบัติต่อแม่สามีด้วยความจริงใจ แม่สามีของเธอก็ปฏิบัติต่อเธอดีกว่าแม่แท้ ๆ ของเธอเอง
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอาจเป็นเพราะอู๋ซีหยวน แม่สามีเลยรู้สึกติดค้างเธอ แต่ว่าความสัมพันธ์ใกล้ชิดของคนเรา ก็ไม่มีทางลัดและราบรื่นไร้อุปสรรค
“พี่สะใภ้รอง ถ้าเหนื่อยก็ไปพักผ่อนอยู่ข้าง ๆ เถอะ เดี่ยวข้าทำเอง ” ซูจิ่วเย่ว์กล่าว
จะไปถือสาหาความกับเธอก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร งานก็ไม่ได้หนักหนาอะไร
ถ้าหากว่าต้องทำงานเพิ่มมากขึ้นแล้วไม่หนวกหูกับเสียงบ่น เธอก็เต็มใจ
อย่างไรก็ตามเทียนซิ่วเหนียงก็ไม่เต็มใจรับน้ำใจนี้ "คำพูดเจ้าฟังแล้วดูดี ถ้าเจ้ากลับไปฟ้องท่านแม่ ไม่รู้ท่านแม่จะจัดการกับข้าอย่างไร!"
“ข้าไม่ไปฟ้องท่านแม่หรอก”
“ข้าไม่เชื่อเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...