“ขอบคุณพี่หยางหลิ่วที่บอกเรื่องเหล่านี้แก่ข้า” ซูจิ่วเย่ว์กล่าวอย่างจริงใจ
สีหน้าหยางหลิ่วรู้สึกอัดอึดใจ “ใครอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาว? ข้าไม่ใช่พี่สาวเจ้า!”
ซูจิ่วเย่ว์รับรู้ถึงความอึดอัดใจของเธอ แต่ก็คิดว่าเธอนั้นช่างน่ารัก
“ข้าเอง ข้าเป็นคนที่ยืนกรานจะรับเจ้าเป็นพี่สาว แบบนี้ได้ไหมล่ะ?”
หยางหลิ่วส่งเสียงเห๊อะ “มันต้องแบบนี้สิ”
เธอดื่มน้ำชาที่อยู่ตรงหน้าไปเกินครึ่งแล้ว ซูจิ่วเย่ว์อยากขอเพิ่มให้เธออีกหนึ่งชาม แต่ก็ถูกเธอห้ามไว้ “เอาล่ะ เดิมทีข้าก็ไม่ได้มาเพื่อดื่มชา สิ่งที่ควรพูดก็บอกเจ้าไปหมดแล้ว ข้าขอกลับก่อนล่ะ”
ขณะที่พูดเธอก็ลุกขึ้นยืน และกำลังจะหันกลับ ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างได้ หันกลับมามองซูจิ่วเย่ว์แล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าพี่สาว ข้าที่เป็นพี่สาวต้องการความช่วยเหลือจากน้องสาว คงไม่เกินไปใช่ไหม?”
ซูจิ่วเย่ว์ก็รีบลุกขึ้นตามเธอ “พี่สาวมีอะไรให้ข้าช่วยก็พูดมาได้เลย หากข้าสามารถช่วยได้ จะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
คำพูดเหล่านี้ทำให้หยางหลิ่วพอใจมาก เธอพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจล่ะ ขอพูดตามตรง”
เห็นเธอคลำหาของในกระเป๋าแขนเสื้ออยู่ครู่หนึ่ง หยิบเศษเงินออกมาสองชิ้น ดึงมือของซูจิ่วเย่ว์ และวางลงบนฝ่ามือของเธอ
เศษเงินรวมกันน่าจะได้สองตำลึง แต่ก็เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปใช้ได้เป็นเวลานาน
“น้องสาวแสนดี ข้าคงไม่สามารถกลับหมู่บ้านเซี่ยหยางได้ แต่ข้าเป็นห่วงท่านแม่ของข้า ข้าจากมานานแล้ว นางคงจะเป็นห่วงข้ามาก เจ้าช่วยมอบสิ่งนี้ให้นางแทนข้า เพื่อให้นางมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง ข้าก็พอใจแล้ว”
เมื่อซูจิ่วเย่ว์เห็นนางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาอีกครั้ง เธอก็ถอนหายใจเงียบๆ “ข้าจะมอบมันให้คุณป้า พี่สาววางใจเถอะ”
หยางหลิ่วไม่สามารถอยู่ข้างนอกได้นานนัก เมื่อเห็นเธอรับปากแล้ว ก็ย่อเข่าลงทำความเคารพเธอ
ซูจิ่วเย่ว์รีบหลบออก “พี่สาวไม่ต้องทำเช่นนี้ แค่ช่วยเหลือกันเล็กน้อย หากพูดแล้วข้าต้องเป็นฝ่ายกล่าวขอบคุณพี่มากกว่า”
เธอทำท่าทางจะทำความเคารพ แต่ถูกหยางหลิ่วห้ามไว้ “วันนี้พอแค่นี้เถอะ!ถ้ามีโอกาสไว้เจอกันใหม่ ข้าไปก่อนล่ะ”
ซูจิ่วเย่ว์มองดูร่างของนางค่อยๆห่างออกไป จากนั้นก้มมองเศษเงินสองชิ้นในมือตัวเอง ถอนหายใจ และเก็บเศษเงินนั้นเข้าในกระเป๋าเงินของตัวเอง
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ชามชาที่อยู่ตรงหน้าก็เย็นลงเล็กน้อย ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกเสียดายเงินของตัวเอง ยกชามขึ้นและดื่มชาจนหมดชาม แล้วทิ้งเงินสองเหรียญไว้บนโต๊ะแล้วหันหลังจากไป
เมื่อกลับถึงจวนตระกูลหวง เห็นว่าไม่มีใครพบบุคคลผู้นั้น เธอก็ถอนหายใจ “ช่างเถอะ ข้าขอตัวกลับก่อน เรื่องตามหาคนค่อยคุยกันพรุ่งนี้”
แต่หวงฮูเซิงกลับพูดว่า “ไม่งั้นเจ้าก็พักที่นี่เถอะ? พรุ่งนี้ตื่นมาค่อยตามหากันต่อ เจ้าเดินทางไปกลับเช่นนี้มันเสียเวลา!”
ซูจิ่วเย่ว์ยืนกรานที่จะปฏิเสธ “ใช้เวลาไม่นาน มีหงหงอยู่ที่นี่!ตอนที่ข้าออกมาก็ไม่ได้บอกคนที่บ้านว่าจะไม่กลับไป ถ้าหากไม่กลับไป คนที่บ้านต้องเป็นห่วงข้าแน่นอน”
หวงฮูเซิงเป็นห่วงเธอ เขาจึงสั่งคนรับใช้คนหนึ่ง ขี่ม้าส่งเธอกลับบ้าน
แต่ขณะที่ซูจิ่วเย่ว์กำลังจะออกจากเมือง เธอก็เห็นร่างที่ค่อนข้างจะคุ้นเคยอยู่ในโรงเตี๊ยม
เธอยังเด็กอยู่ โรงเตี๊ยมไม่ยอมให้เธอเข้าไป เธอจึงขอร้องฟู๋เซิงให้ไปช่วยเชิญคนออกมา
เซี่ยลี่สิงกำลังเมาโดยเอาแขนกอดไหเหล้าไว้ ทันใดนั้นก็มีคนตบไหล่เขาจากด้านหลัง เขาก็โต้ตอบกลับทันที จับคนๆนั้นทุ่มลงบนโต๊ะ
ฟู๋เซิงยังไม่ทันโต้ตอบกลับโลกก็หมุนไปชั่วขณะ ผู้คนรอบข้างต่างก็หวาดกลัวจนเกิดความโกลาหล วิ่งกันกระจัดกระจาย
“เจ้าเป็นใคร!”
ฟู๋เซิงร้องเพราะความเจ็บปวด พร้อมเงยหน้ามองเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...