สรุปตอน บทที่ 19 ผู้ชายสารเลวกลายเป็นลูกหมาแล้วหรือ? – จากเรื่อง ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดย เธอเป็นดาวของฉัน
ตอน บทที่ 19 ผู้ชายสารเลวกลายเป็นลูกหมาแล้วหรือ? ของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติเรื่องดัง ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดยนักเขียน เธอเป็นดาวของฉัน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เขาสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย พยายามระงับความโกรธไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “ข้ายังเชื่อเจ้าได้หรือ? ข้ามาสองครั้ง ก็เจอเจ้ารังแกเฟิงเอ๋อทุกครั้ง องค์ชายแปด ถึงเจ้าจะเป็นองค์ชาย แต่จวนแม่ทัพใหญ่ ก็ใช่ว่าจะเลี้ยงดูลูกสาวไม่ได้”
เซียวจิ่นหมิงพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ข้าเข้าใจ”
เซียวจิ่นหมิงมองดูฉีซินจื่อแวบหนึ่ง แล้วก็พูดสั่งว่า “เจ้ากลับเรือนจือชุนไปก่อน”
“ศิษย์พี่.....” ฉีซินจื่อกัดฟัน มองดูเซียวจิ่นหมิงด้วยน้ำตาคลอ แต่เซียวจิ่นหมิงกลับไม่หันมามองนางอีก
การกระทำเพียงเล็กน้อยนี้ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจฉีซินจื่ออย่างมาก จนนางแทบจะกัดจนฟันหลุด
“เดี๋ยวก่อน ข้าบอกว่าให้นางไปได้แล้วหรือยัง?” หยุนหรั่นเฟิงพูดแทรกขึ้นมา
เซียวจิ่นหมิงขมวดคิ้ว
หยุนโม่ก็หันไปมอง พร้อมพูดขึ้นว่า “เฟิงเอ๋อ ทำไมหรือ?”
“ยังไงข้าก็เป็นถึงพระชายา ข้าก็ไม่อยากถือสาฉีซินจื่อ แต่ในเมื่อนางกระทำความผิด คงไม่แม้แต่คำขอโทษก็พูดไม่ได้มั้ง?” หยุนหรั่นเฟิงหันไปมองเซียวจิ่นหมิง พร้อมพูดขึ้นอย่างอมยิ้มว่า “เมื่อกี้องค์ชายบีบบังคับให้ข้าขอโทษ ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว คนรักของท่านคนนี้ ไม่ควรที่จะพูดขอโทษข้าหรือ?”
เซียวจิ่นหมิงเม้นริมฝีปากบาง ภายในม่านตาดำฉายแววความรู้สึกที่ซับซ้อน หันไปมองฉีซินจื่อ แล้วพูดขึ้นว่า “ซินจื่อ พูดขกโทษ”
ฉีซินจื่อก็รู้ว่าวันนี้เซียวจิ่นหมิงโกรธแล้วจริงๆ ต่อให้ในใจเกลียดชังแทบตาย แต่ก็พูดอะไรไม่ออก กัดฟันพร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ขออภัย”
“หา อะไรนะ ได้ยินไม่ชัด” หยุนหรั่นเฟิงพูดขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม
“เจ้า....” ฉีซินจื่อทั้งโกรธทั้งอับอาย ใบหน้าแดง แล้วหันไปมองเซียวจิ่นหมิง หวังว่าเขาจะช่วยนาง
เซียวจิ่นหมิงถอนหายใจ แล้วพูดขึ้นว่า “ส่งพระชายารองกลับไป”
ฉีซินจื่อทั้งผิดหวังและหวาดกลัว อดไม่ได้ที่จะหยิกปลายนิ้วไว้แน่น
ศิษย์พี่เห็นหยุนหรั่นเฟิงสำคัญมากกว่าหรือ ดังนั้นจึงไม่ช่วยนาง....
“เหนียงเหนียง เรากลับเถอะ” ติงตังเดินมาประคองฉีซินจื่ออย่างหวาดหวั่น
ฉีซินจื่อกลับสะบัดมือสาวใช้ทิ้งไป ไม่สามารถที่จะรักษาความอ่อนโยนได้อีกต่อไป ถลึงตาใส่หยุนหรั่นเฟิงอย่างเกลียดชัง แล้วก็จากไป
จัดการฉีซินจื่อแล้ว หยุนหรั่นเฟิงปรมมือ ชายหางตามองดูแม่นมฉางที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ส่งเสียงเมิน หันไปมองดูเซียวจิ่นหมิง แล้วพูดขึ้นว่า “นางกระทำความผิดแล้วผิดอีก ในฐานะที่ข้าเป็นพระชายา อำนาจในการลงโทษนางนั้น คงมีอยู่มั้ง?”
หยุนโม่รีบหันไปมองเซียวจิ่นหมิงอย่างจ้องจะทำร้าย หากเขากล้าปฏิเสธก็จะอาละวาดทันที
ท่าทีเซียวจิ่นหมิงไม่เปลี่ยนแปลง พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “แน่นอน”
หยุนหรั่นเฟิงพอใจอย่างมาก
รู้สึกดีจริงๆเวลาที่มีคนหนุนหลัง
เซียวจิ่นหมิง ผู้ชายสารเลวคนนี้ใจร้ายขนาดนั้น ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าง่ายเหมือนอย่างสุนัขตัวหนึ่ง?
หยุนหรั่นเฟิงเดินมาใกล้แม่นมฉางที่เนื้อตัวสั่นเทา ใช้เท้าเงยคางของอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม บีบบังคับให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองดูนาง
“เจ้าดูถูกข้า อาศัยที่ตนเองอยู่ในจวนมานานหลายปี กระทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่ในจวน วางอำนาจทำร้ายนาย ยังช่วยพระชายารองคิดทำร้ายข้า โทษหนักอย่างไม่สมควรให้อภัย”
นางพูดเสร็จ แล้วก็เรียกทหารจวนด้านข้างมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมพูดสั่งขึ้นว่า “โบยตีสามสิบที แล้วนำไปขายให้นายหน้าค้าทาส”
แม่นมฉางได้ยินว่านำไปขายให้นายหน้าค้าทาส ก็ตกตะลึงหวาดกลัว พร้อมรีบพูดขอร้องว่า “ไม่ ไม่ พระชายา บ่าวรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ขอพระชายาโปรดอภัย ให้อภัยบ่าวด้วยเถอะ” นางอายุมากแล้ว ถูกโบยสามสิบทีเท่ากับเป็นการเอาชีวิตของนาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าขายให้กับนายหน้าค้าทาส นางไม่มีทางรอดแล้ว
หยุนหรั่นเฟิงอึ้งไปสักพัก แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องนี้อยู่จริงๆ นางมัวแต่คิดถึงการยกเลิกที่จะกลับไปเยี่ยมบ้าน กลับลืมที่จะบอกหยุนโม่ก่อน
นางจึงรีบพูดขึ้นว่า “พ่อ ท่านก็เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้ว ข้าอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากกลับไปทำให้คนที่บ้านไม่พอใจ ยังไงท่านก็มาแล้ว.....ท่านอยู่เป็นเพื่อนข้าที่นี่ ดีไหม?”
หยุนโม่ทำศึกสงครามมาตลอด จึงทำให้รู้สึกผิดต่อลูกสาวคนนี้ที่สุด เมื่อนางออดอ้อน จึงไม่สนใจว่าทำแบบนี้ได้หรือไม่ได้ รีบพูดตอบตกลงทันทีว่า “ดีๆ ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่นี่”
เซียวจิ่นหมิงกระตุกมุมปากอย่างไม่รู้จะพูดยังไง
ต่างพูดกันว่าแม่ทัพใหญ่รักใคร่ลูกสาวมาก เขาก็แค่เพียงเคยได้ยินเท่านั้น ตอนนี้มองดูสองพ่อลูก คิดในใจว่าที่หยุนหรั่นเฟิดื้อรั้นเอาแต่ใจขนาดนี้ คงเป็นเพราะความรักและเอาใจใส่ตามใจของแม่ทัพใหญ่ที่มีอย่างไร้ข้อจำกัด
หยุนหรั่นเฟิงมองเห็นถึงท่าทีของเซียวจิ่นหมิง ดวงตากะพริบ แล้วควงแขนหยุนโม่ พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ ข้าไม่เคยเห็นท่านฝึกวรยุทธมานานแล้ว ท่านสอนข้าบ้าง ดีไหม?”
หยุนโม่อึ้งเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ชอบฝึกวรยุทธไม่ใช่หรือ บอกว่าเหม็นเหงื่อไปทั้งตัว”
นั่นคือเจ้าของร่างเดิมไม่ชอบ ไม่ใช่นาง
หยุนหรั่นเฟิงหรี่ตาลงอย่างน่าสงสาร พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ล้วนเป็นความผิดของพ่อ ปกป้องข้าไปเสียทุกอย่าง จนข้านึกว่าตนเองสามารถทำได้ทุกอย่าง ที่ไหนได้เมื่อแต่งงานออกมาจากบ้านแล้ว กลับต้องถูกเหยียดหยาม หากไม่เรียนรู้วิชาป้องกันตัวเสียบ้าง คงจะต้องถูกคนอื่นรังแกจนแม้แต่กระดูกก็ไม่เหลือ”
“ข้าจะคอยดูว่าใครกล้า” หยุนโม่พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา แววตาที่เยือกเย็นหันไปมองดูเซียวจิ่นหมิง แล้วก็หัวเราะพูดขึ้นมาว่า “เฟิงเอ๋อ เจ้าอยากเห็นพ่อฝึกวรยุทธให้เจ้าดูไม่ใช่หรือ ฝึกคนเดียวจะไปสนุกอะไร ไม่ใช่การแสดงละครเสียหน่อย ต้องหาคนมาต่อสู้ด้วยถึงจะสนุก องค์ชาย ได้ยินว่าวรยุทธของเจ้าไม่เลว เรามาประลองกันดูไหม?”
เซียวจิ่นหมิงเหลือบมองดูหยุนหรั่นเฟิงแวบหนึ่ง
เขาเข้าใจดีว่า หยุนหรั่นเฟิงตั้งใจหาเรื่องขึ้นมา และก็รู้ว่าหยุนโม่ตั้งใจยั่วยุ แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจปฏิเสธ
แม่ทัพใหญ่ต่อสู้อยู่ในสนามรบมากว่ายี่สิบปี ร่วมเป็นร่วมตายมากับหอกโลหะชุดเกราะเหล็ก ปกป้องรักษาดินแดน ปกป้องคุ้มครองประชาชน เป็นที่เคารพนับถือของลูกผู้ชายแคว้นลี่ หากไม่มีเรื่องที่บีบบังคับให้แต่งงานกับหยุนหรั่นเฟิง เซียวจิ่นหมิงยังคงให้เกียรติเคารพนับถือแม่ทัพหยุน
เรื่องในวันนี้ เขาเป็นคนกระทำผิดก่อนจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...
รอตอนต่ออยู่นะค่ะ...
รบกวนอัพเดทตอนใหม่ให้ด้วยนะคะ รอรอรอ...
สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่ค่ะ...
รอการอัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ😭...
รอการอัพเดทอยู่นะคะ...
❤❤❤...
รออ่านเรื่องนี้ตั้งหลายวันนนน...