สรุปเนื้อหา บทที่ 23 ใครเป็นนายใครเป็นบ่าว? – ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดย เธอเป็นดาวของฉัน
บท บทที่ 23 ใครเป็นนายใครเป็นบ่าว? ของ ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ ในหมวดนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เธอเป็นดาวของฉัน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ในเมืองหลวง ข่าวลือเรื่องดาวหงส์จุติก็รุนแรงขึ้นทุกขณะ ยิ่งนับวันก็ยิ่งหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากถูกบ่มเพาะจนหมักหมมเป็นเวลาสองวัน ในที่สุดข่าวลือเรื่องดาวหงส์ก็พุ่งทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุด!
คนของสำนักหอดูดาวหลวงเข้าวังอีกครั้ง มารายงานว่าตามหลักโหราศาสตร์แล้ว ดาวหงส์ดวงนั้นอยู่ในเมืองหลวง!
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา เมืองหลวงทั้งเมืองก็เดือดพล่าน!
ในเมื่อดาวหงส์อยู่ในเมืองหลวง ก็หมายความว่าทุกคนสามารถเป็นดาวหงส์ได้
ชั่วเวลาหนึ่ง บรรดาคุณหนูผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวงที่ถึงเวลาต้องเจรจาเรื่องแต่งงานแล้ว ต่างก็ขอเลื่อนการแต่งงานออกไป ใคร ๆ ก็อยากเสี่ยงโชค ต่างก็คาดหวังว่าจะเป็นปลาไนกระโดดข้ามประตูมังกร ได้กลายเป็นคนเหนือคนในชั่วพริบตา
หลายวันมานี้ หลินหลังเริ่มร่าเริงมีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว มาเล่าเรื่องพวกนี้ให้กลายเป็นเรื่องตลกชวนหัวว่า "คุณหนู ท่านยังไม่รู้ล่ะสิ ไม่ต้องพูดถึงพวกคุณหนูลูกผู้ดีหรอกเจ้าค่ะ แม้แต่คนธรรมดาสามัญก็ยังไม่ยอมเจรจาเรื่องแต่งงานเลย แม้แต่ลูกสาวของคนฆ่าสัตว์แซ่จางก็ยังยกเลิกการแต่งงานด้วยแล้ว นางบอกว่าตอนที่แม่ของนางคลอดนางออกมา ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมประหลาด จะต้องเป็นเพราะสวรรค์อำนวยพรให้โชคดีมากแน่ ๆ!”
“เรื่องมันวุ่นวายถึงขนาดนี้เลยรึ?” หยุนหรั่นเฟิงรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ
ก็แค่ดาวดวงเดียวเอง ถึงกับสร้างความโกลาหลได้ขนาดนี้เลยเรอะ?
"ก็ใช่น่ะสิเจ้าคะ คนข้างนอกแทบจะเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว! ข่าวลือเริ่มเลื่อนลอยไร้สาระมากขึ้นทุกที! คุณหนู ท่านคิดว่าดาวหงส์ที่ว่านี้ สรุปแล้วเป็นใครกันแน่หรือเจ้าคะ?"
หัวใจของหยุนหรั่นเฟิงถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ
นางไม่สนใจหรอกว่าดาวหงส์ที่ว่านี้คือใคร แต่ที่นางสนใจคือเมื่อไหร่นางถึงจะออกไปจากจวนองค์ชายแปดได้ ที่ดินไม่กี่ตารางนิ้วผืนนี้จะต้องไม่มีสิทธิ์กักขังนางไปจนชั่วชีวิต!
จะยังไงนางก็ต้องดิ้นให้หลุดไปจากที่นี่ให้ได้ ทะเลกว้างแผ่นฟ้าสูง นางต้องได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ!
บางที นางอาจใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดเรื่องดาวหงส์จุตินี้ เพื่อหาข้ออ้างที่จะตัดความสัมพันธ์กับที่นี่ได้
ไวเท่าความคิด นางหันไปสั่งว่า “เจ้าอยู่เฝ้าเรือนนะ ข้าจะออกไปเดินเล่นหน่อย!”
“อ๋า? จะไปไหนเจ้าคะ”
"ออกจวน"
“คุณหนู!” หลินหลังอุทานอย่างตื่นตระหนก
หยุนหรั่นเฟิงเป็นคนที่มีนิสัยทำอะไรเด็ดขาด บอกว่าจะไปก็ไปทันที แต่ติดที่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากจวน ก็ถูกคนเฝ้าประตูหยุดเอาไว้เสียก่อน
คนเฝ้าประตูพูดด้วยท่าทางเคารพว่า "พระชายา องค์ชายทรงมีรับสั่งว่า ช่วงนี้ข้างนอกเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย จึงไม่อนุญาตให้ทุกคนออกจากจวนตามอำเภอใจพ่ะย่ะค่ะ"
“เขาสั่งอะไรข้าก็ต้องฟังงั้นรึ? ข้าเป็นหมาที่เขาเลี้ยงไว้หรือไร?” หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเย้ยหยัน
คนเฝ้าประตูมีหรือจะกล้าตอบคำถามนี้ “พระชายา ข้าน้อยเพียงทำตามคำสั่ง ท่านโปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”
แววตาของหยุนหรั่นเฟิงคมปลาบ "ข้าคือใคร?"
"ท่าน... ท่านคือพระชายา"
“ข้าเป็นนายหรือเป็นบ่าว?”
คนเฝ้าประตูรีบพูดว่า "แน่นอนว่าพระชายาย่อมเป็นนายพ่ะย่ะค่ะ!"
“นายมีคำสั่ง เจ้ายังไม่รีบหลีกทางไปอีกรึ? ทำไม ? เจ้าที่เป็นบ่าวคนหนึ่งถึงขั้นจะมาบีบบังคับนายให้ทำตามแล้ว? เตรียมจะรังแกนายแล้วสินะ?” หยุนหรั่นเฟิงพูดอย่างเย็นชา
คนเฝ้าประตูตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบคุกเข่าลงกับพื้น "ข้าน้อยไม่กล้า!ข้าน้อยไม่กล้า!"
รอจนเขาเงยหน้าขึ้นมา ที่ประตูก็ไม่มีใครแล้ว!
“เร็วเข้า! รีบไปบอกพ่อบ้านหลิว! พระชายาออกจากจวนไปแล้ว!”
หยุนหรั่นเฟิงเดินทอดน่องช้า ๆ ไปตามท้องถนน
“อย่าพูดจามั่วซั่วสิ เจ้าไม่ได้ยินนางพูดรึ? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นสำเนียงของคนในเมืองหลวง นี่จะเป็นลูกสาวของท่านโหวนอกพื้นที่ได้อย่างไรกัน?” มีคนลองเดาว่า “หรือไม่ ก็อาจจะเป็นสมาชิกในตระกูลของคนในวัง?”
“พวกเราก็ไม่ใช่ว่าจะถึงกับเข้าวังไม่ได้นี่ ต่อให้เป็นคนในวัง ก็ควรมีใครเคยเห็นหน้าค่าตาบ้างสิ นี่..... น้องหรั่นเฉิน เจ้าเองก็ได้เข้าวังบ่อย ๆ พอจะเคยเห็นผู้หญิงคนนี้บ้างหรือไม่?”
ฉีซูเหยาหันไปมองหยุนหรั่นเฉิน จึงพบว่าสีหน้าของนางออกจะดูไม่ถูกต้อง จึงอดตกตะลึงไม่ได้ "น้องหรั่นเฉิน เป็นอะไรไปรึ?"
หยุนหรั่นเฉินมองหยุนหรั่นเฟิงที่เดินเข้ามาด้วยความตื่นตะลึงจนตาค้าง พอได้ยินคำถามของฉีซูเหยา สีหน้าก็ดูน่าเกลียดขึ้นมาเล็กน้อย
นางได้ยินพ่อเล่าให้ฟังว่า รอยปานบนใบหน้าของหยุนหรั่นเฟิงถูกกำจัดออกไปแล้ว ดูเหมือนนางจะงดงามขึ้นมาก ซึ่งนางเองก็รู้อยู่ว่าพื้นฐานหน้าตาของหยุนหรั่นเฟิงนั้นไม่เลว แต่กลับคิดไม่ถึงว่านางจะเปลี่ยนไปงดงามได้มากขนาดนี้!
ร่องรอยของความอิจฉาสายหนึ่งผุดวาบขึ้นในดวงตาของหยุนหรั่นเฉิน นางสูดลมหายใจเล็กน้อย แย้มยิ้มน้อย ๆ เดินออกจากฝูงชนแล้วพูดกับหยุนหรั่นเฟิงว่า "พี่สาว!"
หยุนหรั่นเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นหญิงสาวที่ดูมีท่วงท่าอันงามสง่าในชุดสีขาวคนหนึ่งก้าวเดินออกมาจากฝูงชน
หญิงสาวในชุดขาวมีรูปโฉมที่นับได้ว่างดงามน่ามอง คิ้วตาดูมีส่วนคล้ายหยุนโม่อยู่หลายส่วน ดูแล้วเหมือนว่ากำลังยิ้มน้อย ๆ แต่แท้จริงแล้วตรงหว่างคิ้วกลับดูมืดมนอึมครึม ทั้งมีร่องรอยของความอิจฉาริษยาที่ปิดไม่มิดสายหนึ่งผุดออกมาให้เห็น
ดวงตาของหยุนหรั่นเฟิงทอประกายวาบ หลังจากทบทวนความทรงจำครู่หนึ่ง ในที่สุดก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าคือใคร
หยุนหรั่นเฉิน น้องสาวต่างมารดาที่มีฐานะเป็นลูกภรรยาเอกเหมือนกันของหยุนหรั่นเฟิง แต่หยุนหรั่นเฟิงเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาเอกคนแรกของหยุนโม่ ส่วนหยุนหรั่นเฉินเป็นลูกของภรรยาคนที่สองที่แต่งเข้ามาแทนภรรยาเดิม แต่ความใกล้ชิดระหว่างพวกนางถือว่าธรรมดามากความสัมพันธ์ก็ไม่ได้แน่นแฟ้นกลมเกลียวอะไรนัก
ที่วันนั้นนางไม่กลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ก็เพราะกลัวว่าจะได้เจอหน้าสองแม่ลูกคู่นี้นี่แหล่ะ แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาเจอหยุนหรั่นเฉินที่นี่เข้าจนได้
นางยิ้มแย้ม ทำหน้าตาสดใสเจิดจ้า “สวัสดีน้องสาว”
ทักทายตามมารยาทเสร็จแล้ว ก็รีบ ๆ ไสหัวไปจากที่นี่ซะทีเถอะ!
หยุนหรั่นเฉินแทบจะระงับความอิจฉาในใจไม่ไหวแล้ว นางยิ้มน้อย ๆ ชิงเป็นฝ่ายก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วทักทายว่า "พี่สาว ทำไมถึงมาที่นี่คนเดียวล่ะ? องค์ชายแปดกำลังยุ่งก็ถือว่าแล้วไปเถอะ ทำไมกระทั่งพี่ซินจื่อก็ยังไม่มากับพี่ด้วยล่ะ? นางเป็นถึงศิษย์น้องคนเล็กที่องค์ชายรักใคร่เอ็นดูที่สุดเชียวนะ วรยุทธ์ก็ยอดเยี่ยม มีนางคอยปกป้อง พี่สาวย่อมวางใจได้มาก"
ฉีซูเหยาได้ยินอย่างชัดเจน จึงพูดด้วยความประหลาดใจว่า "หรั่นเฉิน นี่ก็คือพี่สาวคนนั้นของเจ้า.... ไม่ใช่ใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่านางเป็น....."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...
รอตอนต่ออยู่นะค่ะ...
รบกวนอัพเดทตอนใหม่ให้ด้วยนะคะ รอรอรอ...
สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่ค่ะ...
รอการอัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ😭...
รอการอัพเดทอยู่นะคะ...
❤❤❤...
รออ่านเรื่องนี้ตั้งหลายวันนนน...