สรุปตอน บทที่ 24 จิ้งจอกพันปีทำเป็นเล่นลูกไม้เสแสร้ง – จากเรื่อง ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดย เธอเป็นดาวของฉัน
ตอน บทที่ 24 จิ้งจอกพันปีทำเป็นเล่นลูกไม้เสแสร้ง ของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติเรื่องดัง ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดยนักเขียน เธอเป็นดาวของฉัน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หยุนหรั่นเฉินรีบดึงฉีซูเหยาไว้ ก่อนจะส่ายหน้าให้น้อย ๆ จนแทบไม่เห็น "พี่เหยา พี่สาวของข้าเป็นพระชายาเอกของจวนองค์ชายแปด แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่ค่อยได้เห็นนางบ่อยนัก จะพูดไปเรื่องการแต่งงานครั้งนี้ พี่สาวของข้าก็เป็นคนไปขอร้องไทเฮาให้มอบสมรสพระราชทานเองเลย ไทเฮาทรงรักใคร่พี่สาวของข้าที่สุดแล้ว!"
ฉีซูเหยารวมถึงคนอื่น ๆ เริ่มมีสีหน้าแปลกๆ
จริง ๆ แล้วเรื่องที่ว่าลูกสาวภรรยาเอกของจวนแม่ทัพใหญ่ บังคับขอแต่งให้กับองค์ชายแปดนั้น เป็นเรื่องตลกที่ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้กันมานานแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสารพัดกลอุบายที่หยุนหรั่นเฟิงงัดออกมาใช้ ล้วนเป็นหัวข้อสนทนาระหว่างจิบชาไม่ก็หลังมื้ออาหารไม่เคยขาด
ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่เคยเห็นหยุนหรั่นเฟิงมาก่อน ทุกคนต่างรู้ว่านางเป็นผู้หญิงอัปลักษณ์ไร้ยางอาย คิดไม่ถึงว่าหน้าตาจะเปลี่ยนแปลงไปได้ในชั่วข้ามคืน ทั้งยังกลายเป็นหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้!
หยุนหรั่นเฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
โอ้! ได้กลิ่นประเภทแม่ดอกบัวขาวจอมเสแสร้งมาแต่ไกลเลยแฮะ!
เจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยจะถูกกับสองแม่ลูกคู่นี้นัก เดิมทีนางคิดว่าเป็นเพราะสถานะแบบนั้นจึงเกิดความกระอักกระอ่วนต่อกัน แต่ตอนนี้พอได้มาเห็นแม่หยุนหรั่นเฉินคนนี้ ในที่สุดก็เข้าใจซะที
เจ้าของร่างเดิมมีนิสัยค่อนข้างชอบวางอำนาจเอาแต่ใจ ทำอะไรมักตรงไปตรงมา จะเข้ากันได้ดีกับแม่ดอกบัวขาวจอมหน้าเนื้อใจเสือ ทำอะไรไม่ชัดไม่แจ้งอย่างหยุนหรั่นเฉินได้ยังไงล่ะ!
หยุนหรั่นเฉินพูดด้วยท่าทางห่วงใยใส่ใจขึ้นอีกครั้งว่า "พี่สาว เมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นวันที่พี่ต้องกลับบ้านเดิมไม่ใช่รึ ? ข้ารอพี่อยู่ที่บ้านทั้งวันก็ไม่เห็นพี่กลับไปเสียที หรือว่าจะไม่สบาย? น้องสาวคนนี้คิดถึงพี่มากเลยนะ”
สีหน้าของคนรอบข้าง ยิ่งเพิ่มความรู้สึกคาดเดาไม่ถูกขึ้นมาอีกหลายส่วน
การกลับบ้านเดิมของลูกสาวที่แต่งงานแล้วมีความสำคัญตั้งขนาดไหน มันยังเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของฝ่ายชายที่มีต่อฝ่ายหญิงด้วย ในวันแบบนี้ องค์ชายแปดยังไม่ยอมกลับไปเยี่ยมบ้านพร้อมกับหยุนหรั่นเฟิงด้วยซ้ำ จึงเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า องค์ชายแปดไม่ได้ให้ความสำคัญกับหยุนหรั่นเฟิง
แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน การบังคับแต่งงานเช่นนี้ย่อมไม่มีทางเป็นไปด้วยดี!
หนุนหรั่นเฟิงหรี่ตาลงน้อย ๆ
ในดวงตาของหยุนหรั่นเฉินทอประกายยิ้มเย้ยหยัน เฝ้ารออย่างเงียบ ๆ
หยุนหรั่นเฟิ่งเป็นคนอารมณ์รุนแรงชอบวางอำนาจ ทั้งยังมุทะลุ ไม่มีทางทนต่อการถูกยั่วเย้าแบบนี้ได้แน่ ขอแค่นางเริ่มด่ากราดสาดเสียเทเสีย ก็จะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนทันที!
ถึงหน้าตาจะงดงามสักแค่ไหนแล้วจะทำไมล่ะ สุดท้ายก็เป็นได้แค่ตัวโง่งมที่มีแต่ฟางข้าวเต็มสมอง!
หยุนหรั่นเฟิงมองไปที่หยุนหรั่นเฉิน จู่ ๆ ก็ยกยิ้ม "แล้วทำไมน้องสาวถึงไม่มาเสียเองล่ะ?"
รอยยิ้มของหยุนหรั่นเฉินถึงกับแข็งค้าง
หยุนหรั่นเฟิงพูดต่ออีกว่า "วันนั้นข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่วางใจจนต้องแวะมาเยี่ยมหาข้า ข้ากลับบ้านไม่ไหว ในใจก็คิดถึงบ้านเหลือเกินแล้ว แค่อยากมีน้องสาวที่ใส่ใจห่วงใยสักคนมาเยี่ยมหามาคุยเล่นเป็นเพื่อนหน่อย ทำไมเจ้าถึงไม่มาล่ะ? ข้าก็มีแค่เจ้าที่เป็นน้องสาวแท้ ๆ คนเดียวเท่านี้แล้ว”
หยุนหรั่นเฉินแทบจะประคองรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ไม่อยู่แล้ว ทำไมคนคนนี้ถึงได้ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยล่ะ? ทั้งยังรู้จักใช้วิธีเชือดคนด้วยใบมีดโกนอาบน้ำผึ้งอีกด้วย?
นางเปลี่ยนเป็นไม่ยิ้มแล้ว สองตาเต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อคลอ แสดงท่าทางให้ดูน่าสงสาร "พี่สาว นี่พี่จะโทษว่าเป็นความผิดของข้ารึ? นั่นเป็นถึงจวนองค์ชายแปดเชียวนะ ไม่ใช่สถานที่ที่ข้าบอกว่าจะเข้าไป ก็เข้าไปได้ตามใจชอบเสียเมื่อไหร่ ต่อให้ข้าคิดถึงพี่แค่ไหน ก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์สิ"
ด้วยความที่หยุนหรั่นเฉินแสดงท่าทีอันแสนจะ "อ่อนโยนบริสุทธิ์ ใจดีมีเมตตา" มานานกว่าสิบปี สายตาของทุกคนจึงมองมาที่หยุนหรั่นเฟิงแบบไม่คิดจะปรานีทันที
ฉีซูเหยาอดพูดไม่ได้ว่า "พระชายา หรั่นเฉินเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตา ทั้งยังใจดี ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คิดถึงเจ้าที่เป็นพี่สาวอยู่เสมอ เจ้าไม่เพียงไม่ปกป้องนาง แต่ยังกลั่นแกล้งนางด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่างเว้น นี่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นพระชายาแล้ว จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นรึ? คนอย่างเจ้า คู่ควรเป็นพี่สาวใครด้วยหรือ?"
ข้าง ๆ กันนั้น ก็มีคนที่อิจฉาความงามของหยุนหรั่นเฟิง พูดในลักษณะเหน็บแนมกลาย ๆ ว่า "ก็นั่นน่ะสิ รู้ทั้งรู้ว่าองค์ชายแปดไม่ชอบนาง ยังไปอาศัยบารมีของไทเฮาจนได้แต่งเข้าจวนองค์ชายแปด คนที่ยโสโอหังขนาดนี้ ยังมีอะไรที่ไม่กล้าทำด้วยรึ?"
ทุกคนต่างพากันคล้อยตามเป็นปี่เป็นขลุ่ย ในดวงตาของหยุนหรั่นเฉินฉายรอยยิ้มเย้ยหยัน แต่ใบหน้ายังคงแสดงท่าทีน่าสงสาร ก่อนจะยื่นมือออกไปดึงฉีซูเหยา พูดด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า "พี่เหยา พี่สาวของข้าแค่อยู่ในจวนองค์ชายแล้วใจนาง...รู้สึกว่าไม่มีความสุข จึงเผลอพูดผิดไปชั่วขณะ อย่าไปตำหนินางเลยนะ”
ฉีซูเหยาแค้นใจที่เหล็กที่ทุ่มเทหลอมแทบตายไม่ยอมเป็นเหล็กกล้า พูดว่า "นิสัยเช่นนี้ของเจ้ามันอ่อนแอเกินไปหน่อยแล้ว ถ้าเจ้าลุกขึ้นมาแข็งขืนได้ ก็คงไม่ถูกนางรังแกจนถึงขนาดนี้หรอก!"
หยุนหรั่นเฉินน้ำตาจะไหลแหล่ไม่ไหลแหล่ สีหน้าเหมือนได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ "แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นพี่สาวของข้านะ"
หยุนหรั่นเฟิงแค่นเสียงในลำคอเบา ๆ หันหลังกลับแล้วเดินจากไป
หยุนหรั่นเฉินมองตามแผ่นหลังของหยุนหรั่นเฟิงไปด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ กว่าจะงัดต้นฉบับละครที่แต่งไว้เสียดิบดีที่ติดค้างอยู่ในลำคอออกมาได้อย่างยากลำบาก ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันเบา ๆ ดังมาจากด้านหลัง จึงโกรธจนเลือดลมพลุ่งพล่าน โพล่งตะโกนออกมา เสียงแหลมปรี้ดจนถึงขั้นหลงไปหลายระดับ "หยุนหรั่นเฟิง!"
หยุนหรั่นเฟิงหยุดชะงักไปชั่วขณะ หันหน้ากลับมาน้อย ๆ แสงแดดที่ส่องกระทบใบหน้าของนาง เกิดเป็นภาพราวกับตัวนางถูกเคลือบไปด้วยชั้นของทองคำชั้นหนึ่ง ดูส่งสูงจนไม่กล้าอาจเอื้อม
"เป็นจิ้งจอกพันปีแล้วแท้ ๆ ยังคิดจะเล่นลูกไม้เสแสร้งอะไรอีกล่ะ?หยุนหรั่นเฉิน เจ้าเสแสร้งมาตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว เจ้าไม่เหนื่อย แต่ข้านี่เหนื่อยแทนเจ้าเลย "
หยุนหรั่นเฉินเดินโซซัดโซเซจนเกือบล้มลงกับพื้น เสียงหัวเราะเยาะเย้ยที่ไม่ปิดบังดังขึ้นรอบตัว ทำให้นางอับอายแทบตายให้ได้แล้ว แค้นใจที่ไม่อาจเป็นลมหมดสติไปเสียให้พ้น ๆ !
แต่นางเป็นลมไม่ได้ ถ้าตอนนี้นางเป็นลมไปจริง ๆ นางได้กลายเป็นตัวตลกของทุกคนแน่!
หยุนหรั่นเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจมาก ที่หยุนหรั่นเฉินแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิด แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนางนี่ นางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินส่ายอาด ๆ ออกจากร้านเครื่องสำอางไป
เพิ่งจะเดินพ้นออกจากร้านเครื่องสำอางมา ทันใดนั้นสัญชาตญาณระวังภัยในใจก็รู้ตัวตื่น จนนางลืมตาโพล่งขึ้นมาทันที
มีคนกำลังจับตามองนางอยู่?
แต่เพราะบริเวณโดยรอบนั้นอึกทึกครึกโครมมาก ชั่วอึดใจเดียว นางไม่สามารถหาแหล่งที่มาของสายตาที่ว่านั้นได้ จึงเหลือบตามองเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งมันไว้เบื้องหลัง
ทหารมาใช้ขุนพลต้าน น้ำมาใช้ดินต้าน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางก็แค่รับมือไปตามสถานการณ์ก็พอ
นางเดินออกไปจนไกลแล้ว ทันใดนั้นหน้าต่างห้องส่วนตัวบนชั้นสองของโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามก็เปิดออก ชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ท่วงท่างามสง่ามั่นคงดั่งหยกสลัก เปี่ยมด้วยความหล่อเหลาชวนมอง
สายตาของเขามองส่งเงาแผ่นหลังของหยุนหรั่นเฟิงไป ในใจครุ่นคิดบางอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...
รอตอนต่ออยู่นะค่ะ...
รบกวนอัพเดทตอนใหม่ให้ด้วยนะคะ รอรอรอ...
สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่ค่ะ...
รอการอัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ😭...
รอการอัพเดทอยู่นะคะ...
❤❤❤...
รออ่านเรื่องนี้ตั้งหลายวันนนน...