ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 29

“ท่านพ่อ ข้าอยากกลับบ้าน ข้าอยากกลับจวนแม่ทัพ.... ที่นี่ ข้าทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ!”หยุนหรั่นเฟิงร้องไห้คร่ำครวญ “ท่านพ่อเจ้าขา ลูกเจ็บ....เจ็บเหลือเกิน....ข้าอยู่ที่บ้านมีท่านพ่อคอยปกป้อง กระทั่งสะเก็ดน้ำมันก็ยังไม่เคยกระเด็นมาโดนผิวสักหยดด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขา เขาถึงกับ....."

นางพูดไปพลาง ก็ยื่นแขนออกไปด้วยท่าทางสั่นเทาน่าสงสารไปพลาง แขนของนางมีรอยฟกช้ำเป็นสีม่วงจ้ำ ๆ ถึงขั้นมีผิวเนื้อสองสามแห่งที่เริ่มมีรอยแผลเป็นให้เห็นแล้ว ด้วยความที่เดิมทีผิวของนางก็ขาวมากอยู่แล้ว รอยบาดแผลเหล่านั้นจึงยิ่งดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม! เปลือกตาของเซียวจิ่นหมิงถึงกับกระตุกน้อย ๆ!

ถ้าไม่เพราะเขายืนยันได้ว่าตัวเองไม่เคยตบตีหยุนหรั่นเฟิงมาก่อน บวกกับท่าทางของหยุนหรั่นเฟิงเมื่อไม่กี่วันมานี้ล้วนเป็นปกติดีล่ะก็ เมื่อได้เห็นบาดแผลที่ดูโหดร้ายชวนสลดใจเหล่านี้เข้า เขาก็คงจะเกือบคิดไปว่าตัวเองลงมือตบตีนางจริง ๆ ไปแล้ว!

แผลเหล่านี้เป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่? ถ้าเป็นของจริง ผู้หญิงคนนี้ก็นับว่าลงมือกับตัวเองได้โหดเหี้ยมมาก ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกับคนอื่นเลย แต่ถ้าเป็นของปลอม ..... แล้วนางทำมันขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ?

เซียวจิ่นหมิงยังค่อนข้างมีสติสัมปชัญญะอยู่บ้าง แต่หยุนโม่กลับสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าปอดเฮือกใหญ่ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปอย่างหนัก!

เมื่อครู่นี้เพราะแสงในห้องมันสลัวเกินไป ชั่วขณะนั้นจึงมองเห็นไม่ค่อยชัด แต่ตอนนี้พอได้มองดูใกล้ ๆ จึงพบว่าอาการบาดเจ็บของหยุนหรั่นเฟิงนั้นนับว่าร้ายแรงมาก!

ชั่วพริบตา หัวใจของเขาก็เจ็บปวดราวถูกคมมีดกรีดเฉือน ผุดลุกขึ้นยืนพรวดพราด "เซียวจิ่นหมิง! ไอ้ตัวชั่วช้าสารเลว! เจ้าถึงกับรังแกเฟิงเอ๋อของข้าให้ได้รับความอับอายขนาดนี้เชียวรึ!"

สีหน้าของเซียวจิ่นหมิงมืดทะมึนลงทันที "แม่ทัพ ยังไม่อาจจำแนกจริงเท็จ....."

“ฝ่าบาทเสด็จ!”

ทันใดนั้นเสียงแหลมเล็กของขันทีก็ดังขึ้น!

เพิ่งจะสิ้นเสียงประกาศ ฮ่องเต้เฉียนคังก็ก้าวเดินยาว ๆ เข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า "วันนี้ข้าว่างไม่มีภารกิจอะไร จิ่นหมิง ข้ามาเยี่ยมดูเจ้า..... "

หลังจากเห็นสถานการณ์ภายในเรือนแล้ว ฮ่องเต้เฉียนคังก็ถึงกับชะงักไป ที่เพิ่มมาคือความตกใจและความโกรธเคืองเล็กน้อย "นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หยุนอ้ายชิง ทำไมเจ้าก็มาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?"

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นยากจะคาดเดาขึ้นมา เปลือกตาของหยุนหรั่นเฟิงถึงกับกระตุก อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?

เดิมทีนางแค่คิดจะกำจัดเซียวจิ่นหมิงในพื้นที่เล็ก ๆ นี้ก็พอ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะสร้างปัญหาต่อหน้าฮ่องเต้ แต่กระทั่งฮ่องเต้ก็ยังเสด็จมาด้วยแล้ว ทั้งไม่อาจขับไล่ฮ่องเต้กลับไปได้ด้วย จึงทำได้แค่ต้องใช้กลยุทธ์ทหารมาใช้ขุนพลต้าน น้ำมาใช้ดินต้านเท่านั้นแล้ว

ในดวงตาของนางผุดประกายวาบ นอนอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของหลินหลังต่อ สะอื้นไห้เหมือนดอกไม้น้อย ๆ สีขาวที่แสนจะบอบบางอ่อนแอ ร้องไห้สะอึกสะอื้นดูน่าสงสาร!

เซียวจิ่นหมิงชำเลืองมองนางแวบหนึ่ง ขมับสั่นระรัวจนเจ็บจี้ด ก้าวขึ้นไปข้างหน้า "เสด็จพ่อ โปรดฟังคำอธิบายของลูกก่อน...."

หยุนโม่ตะโกนเสียงดังลั่น "ยังมีอะไรต้องอธิบายอีก! ลูกสาวของข้าแต่งเข้าจวนองค์ชายไปในสภาพดี ๆ มาตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวกลับเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว มีทั้งพยานมีทั้งหลักฐานครบ ยังมีอะไรที่ต้องอธิบายอีก?! เซียวจิ่นหมิง เจ้าเองก็เป็นถึงองค์ชายผู้ทรงเกียรติคนหนึ่ง จะหลงใหลอนุจนละเลยภรรยาก็นับว่าแล้วกันไปเถอะ แต่นี่ถึงกับทุบตีเฟิงเอ๋อเชียวรึ!”

หยุนหรั่นเฟิงร้องไห้ 'ในเวลาที่เหมาะสม' พอดิบพอดี "พ่อ! ลูกเสียใจภายหลังเหลือเกินแล้วเจ้าค่ะ!"

"ท่านแม่ทัพ!"

เดิมทีฮ่องเต้เฉียนคังก็ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรดี แต่พอได้ฟังคำพูดสองสามประโยคของหยุนโม่ ก็พอจะเดาได้คร่าว ๆ แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น จึงโกรธจนชี้มือไปที่เซียวจิ่นหมิง “ไอ้ลูกชั่ว! ช่างทำเรื่องงามหน้านักนะ!”

คิ้วของเซียวจิ่นหมิงพลันกระตุก "เสด็จพ่อ เรื่องนี้ลูก....."

ฮ่องเต้เฉียนคังโกรธจัดจนถึงขั้นตัดบทคำพูดของเขา "เรื่องมาจนถึงขนาดนี้ เจ้ายังคิดจะอธิบายอะไรอีก! เข้ามาคุมตัวเขาให้ข้าเดี๋ยวนี้! การแต่งงานครั้งนี้ได้รับพระราชทานจากไทเฮา ดังนั้นเจ้าก็ไปอธิบายต่อหน้าไทเฮาด้วยตัวเองเถอะ!"

องครักษ์สองสามคนก้าวขึ้นมาข้างหน้า จับเซียวจิ่นหมิงมัดจนแน่น ที่ผ่านมาเซียวจิ่นหมิงไม่เคยได้รับความอับอายขนาดนี้มาก่อน สองตาจ้องมองไปที่หยุนหรั่นเฟิงอย่างดุดัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์