ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 34

สรุปบท บทที่ 34 มือของสุภาพบุรุษ ช่างน่าสรรเสริญโดยแท้: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์

สรุปเนื้อหา บทที่ 34 มือของสุภาพบุรุษ ช่างน่าสรรเสริญโดยแท้ – ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดย เธอเป็นดาวของฉัน

บท บทที่ 34 มือของสุภาพบุรุษ ช่างน่าสรรเสริญโดยแท้ ของ ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ ในหมวดนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เธอเป็นดาวของฉัน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อลู่ซื่อเห็นว่าสีหน้าของฮูหยินเฒ่าดูแล้วไม่ถูกต้อง ก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วหันไปพูดกับนางทันทีว่า "ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกที่ท่านแม่จะจำผิด เพราะตั้งแต่โบราณมาตลอดหลายยุคหลายสมัย ไม่เคยมีธรรมเนียมที่ว่าผู้หญิงสามารถหย่าสามีได้มาก่อน"

สีหน้าของฮูหยินเฒ่าดูอึมครึม ชั่วขณะที่กำลังจะพูดอะไรออกมาบ้าง หยุนโม่กลับหันหน้าไปเอ็ดใส่ลู่ซื่อว่า "อย่างเจ้ามันจะไปรู้อะไร ที่ผู้หญิงคนอื่นหย่าสามีไม่ได้ นั่นเป็นเพราะพวกนางโง่เขลาเบาปัญญา แต่เฟิงเอ๋อของข้าโดดเด่นเกินใคร เป็นพญาหงส์ในหมู่หงส์ มีอะไรที่นางทำไม่ได้ด้วยรึ!"

หยุนหรั่นเฉิงก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วดึงลู่ซื่อไว้ บอกเป็นนัย ๆ ว่าลู่ซื่อ ไม่ควรแสดงท่าทีบุ่มบ่ามอะไรออกไป จากนั้นก็ยิ้มแล้วตอบรับคำพูดของหยุนโม่ว่า "ท่านพ่อพูดได้ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ พี่สาวเป็นคนที่มีความสามารถที่สุด"

หยุนโม่ได้ยินก็รู้สึกพอใจมาก มองไปที่หยุนหรั่นเฉินด้วยสายตาชื่นชม จากนั้นก็ย้ายสายตากลับมาที่หยุนหรั่นเฟิงอีกครั้ง แล้วพูดกับนางว่า "เฟิงเอ๋อ ท่านย่าของเจ้ารักใคร่เอ็นดูพวกเจ้าที่เป็นหลานสาวที่สุด ทั้งยังคิดถึงทุกคนในบ้านที่สุดด้วย จากนี้ไปเจ้าก็มาพูดคุยกับนางให้มาก ๆ จะได้ไม่ทำให้นางบ่นคิดถึงพวกเจ้าทุกวัน "

หยุนหรั่นเฟิงยิ้ม แล้วค้อมกายคำนับฮูหยินเฒ่าทันที "เฟิงเอ๋อขอบคุณท่านย่าที่ปกป้องคุ้มครองเรา"

สองคนพ่อลูกคนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ จนสามารถกดทับคำพูดของฮูหยินเฒ่าหยุนให้ตกไปได้เป็นผลสำเร็จ ฮูหยินเฒ่าหยุนมองไปที่หยุนหรั่นเฟิงอย่างเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ แต่เพราะมีหยุนโม่เป็นจระเข้ขวางคลองอยู่ จึงทำได้แค่พูดว่า "จะต้องมาขอบอกขอบใจอะไรกัน ข้าแก่แล้ว คงทนเผชิญเรื่องราวเอะอะวุ่นวายไม่ไหวหรอก ก็แค่อยากตักเตือนเจ้าสักสองสามคำเท่านั้น"

หยุนโม่หัวเราะแล้วพูดว่า "ท่านแม่สุขภาพแข็งแรง อยู่ไปได้ถึงหนึ่งร้อยปี!"

ฮูหยินเฒ่าหยุนพูดกลั้วหัวเราะว่า "อยู่ถึงร้อยปีอะไรกัน นั่นไม่ใช่ปีศาจเฒ่าหรอกรึ!"

สองแม่ลูกพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน ฝ่ายลู่ซื่อกับหยุนหรั่นเฉินก็ลอบสบสายตากัน แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนดุร้าย

ตอนที่หยุนหรั่นเฟิงยังไม่กลับมา พวกนางแม่ลูกก็ยังพอจะมีที่ยืน แต่ตอนนี้ทันทีที่หยุนหรั่นเฟิงกลับมา ความสนใจของทุกคนก็ไปรวมอยู่ที่หยุนหรั่นเฟิงหมด ที่เมื่อครู่หยุนโม่พยายามไกล่เกลี่ยบรรยากาศที่น่าอึดอัดนั่น ทุกคำพูดทุกประโยคไม่ใช่เพราะต้องการจะช่วยหยุนหรั่นเฟิงหรอกรึ?

ลู่ซื่อมองดูพวกหยุนโม่ทั้งสามพูดคุยกันอย่างมีความสุข ตัวนางกับหยุนหรั่นเฉินกลับไม่สามารถแทรกเข้าไปได้เลย เงาทะมึนสายหนึ่งผุดวาบขึ้นในดวงตา ในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงใช้ข้ออ้างเรื่องงานเลี้ยงของครอบครัว ขอตัวออกจากเรือนนั้นมา

เพียงไม่นาน หยุนหรั่นเฉินก็ตามหลังนางออกมา "ท่านแม่!"

ลู่ซื่อรีบเช็ดน้ำตาออกจากดวงตา เอื้อมมือไปดึงมือของหยุนหรั่นเฉิน "หรั่นเฉิน พวกเราสองคนแม่ลูกนับจากวันนี้ไปจะอยู่กันอย่างไรล่ะ? อุตสาห์ตั้งตารอคอยจนถึงวันที่หยุนหรั่นเฟิงแต่งออกไปได้อย่างยากลำบาก สุดท้ายนางดันกลับมาเสียได้! เจ้าดูพ่อของเจ้าสิ มีหรือจะยังเห็นข้ากับเจ้าอยู่ในสายตาอีก ข้ารู้ว่าเขารักแม่เลยรักไปถึงลูก แต่ถึงอย่างไรข้าก็เป็นถึงฮูหยินแม่ทัพนะ ข้าอยู่ร่วมกับเขามาสิบกว่าปี เขาถึงกับไม่ไว้หน้าข้าขนาดนั้นเลย! ข้ามีอะไรที่เทียบกับคนที่ตายไปแล้วคนนั้นไม่ได้อย่างนั้นรึ! "

หยุนหรั่นเฟิงรีบปิดปากของลู่ซื่อทันที มองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่ารอบข้างไม่มีใคร ก่อนจะพูดว่า "ท่านแม่ ท่านใจร้อนเกินไปอีกแล้วนะ"

"ทำไมข้าถึงไม่ควรต้องร้อนใจล่ะ?! เรื่องแต่งงานของเจ้ายังไม่ได้กำหนดเลยแท้ ๆ ตอนนี้หยุนหรั่นเฟิงก็กลับมาซะแล้ว นางไม่แต่งออกไป แล้วเจ้าจะแต่งได้อย่างไรล่ะ?" ลู่ซื่อพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน "เห็นลือกันว่าเซียวจิ่นหมิงทุบตีนาง ทำไมไม่ตีนางให้ตายไปซะเลยนะ จะได้ไม่ต้องกลับมาสร้างความวิบัติให้คนอื่นเขาแบบนี้!"

“ท่านแม่! คำพูดแบบนี้แม่อย่าได้พูดอีกเชียวนะ โดยเฉพาะต่อหน้าท่านพ่อจะพูดไม่ได้เด็ดขาด!” หยุนหรั่นเฉินรีบเตือนนาง “หยุนหรั่นเฟิงเพิ่งจะกลับมา น้ำเชี่ยวเราอย่าเอาเรือไปขวาง พวกเรายอมถอยให้ก่อนหนึ่งก้าว ไม่มีอะไรเสียหายนี่”

ลู่ซื่อจับมือของหยุนหรั่นเฉินอย่างห่วงใย "แม่น่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ต้องทำให้เจ้าได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจแล้ว"

หยุนหรั่นเฉินยิ้มน้อย ๆ เป็นรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตา "ไม่เป็นไรหรอก อนาคตยังอีกยาวไกล หนทางที่ต้องเผชิญยังอีกยาวไกล พวกเราต้องใจเย็น ๆ"

หยุนหรั่นเฟิงอยู่คุยกับฮูหยินเฒ่าสองสามประโยค ฮูหยินเฒ่าก็อ้างว่าปวดหัวขอตัวไปพักผ่อนแล้ว หยุนหรั่นเฟิงผ่อนคลายสบายใจไม่น้อย หลังจากอยู่คุยกับหยุนโม่ต่ออีกหลายคำ ก็กลับไปที่เรือนของตัวเอง ทันทีที่ก้าวขาเข้าไป ก็ถูกความหรูหราฟุ่มเฟือยที่ปรากฏให้เห็นเต็มเรือนทำให้ตกใจจนปากอ้าตาค้าง

มิน่าล่ะตอนแรกที่นางย้ายไปอยู่ที่เรือนเหอซิน หลินหลังถึงได้มีท่าทีน้อยเนื้อต่ำใจแทนนางซะขนาดนั้น เจ้าของร่างเดิมอยู่บ้านทั้งถูกโอ๋ถูกเอาใจขนาดนี้ พูดได้ว่าการตกแต่งในเรือนนี้ น่ากลัวว่าจะดีกว่าตำหนักขององค์หญิงในวังเลยด้วยซ้ำ!

หยุนหรั่นเฉินเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาทักทายนาง "พี่สาว เจ้ากลับมาได้เสียที ดูสิ ข้าวของทั้งหมดนี้ถูกจัดวางตามที่พี่จัดวางไว้แต่เดิมเลย ลองดูซิว่าพี่พอใจหรือไม่?"

หยุนหรั่นเฟิงปรายตามองหยุนหรั่นเฉินด้วยสายตาประหลาดใจแวบหนึ่ง

นางรู้ดีว่าหยุนหรั่นเฉินเป็นดอกบัวขาวจอมเสแสร้งขนานแท้ แต่เมื่อครู่นี้อยู่ต่อหน้าทุกคน จะเสแสร้งแกล้งทำซะหน่อยก็นับว่าสมเหตุสมผลอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่พวกนางสองคนแล้ว นางยังจะเสแสร้งแกล้งทำไปเพื่อ!?

ด้วยความที่หยุนหรั่นเฟิงเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ ด้านข้างจะมีเด็กน้อยคนหนึ่ง ในมือถือถังหูลู่พลางวิ่งทะยานออกมาราวลูกกระสุนที่พุ่งออกจากรังปืน หยุนหรั่นเฟิงไม่ทันตั้งตัว เพื่อที่จะหลีกทางให้ทางเขา จึงก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่กลับลืมไปว่าฝูงชนที่สัญจรไปมาหนาแน่นขนาดไหน จึงพลาดจนขาขัดกันสองเท้าโซเซ ก่อนจะหงายหลังล้มลงไปทันที!

“คุณหนู!” หลินหลังกรีดร้องเสียงแหลม!

มุมปากของหยุนหรั่นเฟิงถึงกับกระตุกน้อย ๆ!

หยุนหรั่นเฉินช่างเป็นตัวซวยของนางจริง ๆ อย่างกับวิญญาณอาฆาตที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดโดยแท้!

หยุนหรั่นเฟิงโยนความผิดทั้งหมดของเหตุการณ์นี้ ไปลงบนหัวของหยุนหรั่นเฉินแบบไม่มีเหตุผลทันที ได้แต่ยอมรับชะตากรรม แล้วรอคอยความเจ็บปวดและความอับอายที่จะตามมา!

ความเจ็บปวดที่รอคอยกลับมาไม่ถึง ในทางตรงข้าม นางกลับตกอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของคนผู้หนึ่ง นางผงะไปเล็กน้อย พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลางามสง่าแต่อบอุ่นของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง คิ้วคมดั่งใบดาบ ดวงตาเป็นประกายดั่งแสงดาว แววตาส่วนลึกดูคล้ายมีประกายไฟซุกซ่อนอยู่

"ระวังหน่อย" ชายแปลกหน้าคนนั้นยิ้มเล็กน้อย พอออกแรงเบา ๆ ก็ช่วยพยุงหยุนหรั่นเฟิงให้ยืนขึ้นได้สำเร็จ

หยุนหรั่นเฟิงเอียงหน้าไปเล็กน้อย ทันได้เห็นตอนที่มือของอีกฝ่ายกำเป็นหมัดพอดี ตั้งแต่ต้นจนจบ จนกระทั่งตอนที่เขาช่วยพยุงนาง เขาก็ไม่ได้แตะต้องโดนผิวเนื้อส่วนใดในร่างกายของนางเลย

มือของสุภาพบุรุษ ช่างน่าสรรเสริญโดยแท้!

หลินหลังรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาแล้ว มาหยุดขวางอยู่ตรงหน้าหยุนหรั่นเฟิงดุจดั่งองครักษ์ก็ไม่ปาน จ้องไปที่ชายคนนั้นตาเขม็ง "นี่เจ้าคิดจะทำอะไร?! เจ้าคนบ้ากาม!"

"หลินหลัง" หยุนหรั่นเฟิงส่งสายตาเป็นสัญญาณไปให้หลินหลัง ว่าไม่ให้นางทำอะไรบุ่มบ่าม จากนั้นก็หันไปยิ้มแล้วมองไปที่ชายคนนั้น "ขอบคุณมาก!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์