ลู่ซื่อมองเงาหลังของหยุนหรั่นเฟิงที่ไกลออกไป ทั้งโกรธทั้งหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทาเหมือนสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็นเช่นนั้น แม่นมด้านข้างรีบประคองนางขึ้นมาด้วยความลนลาน “ฮูหยิน พวกเราอดทนอีกหน่อยนะเจ้าคะ รอจนคุณหนูของเราแต่งงาน ชีวิตของพวกเราก็จะดีแล้วเจ้าคะ!”
“ทำไมข้าต้องทนด้วย! ข้าเป็นนายหญิงของตระกูลหยุน เป็นภรรยาหลวงของตระกูลหยุน ยังต้องกลัวนางผู้หญิงชั้นต่ำตัวเล็กๆผู้หนึ่งด้วยรึ! ยิ่งไปกว่านั้น มีนางเป็นตัวหายนะเช่นนี้ เฉินเอ๋อของข้าจะแต่งงานเข้าตระกูลสูงศักดิ์ได้อย่างไร! ข้าปฏิเสธจวนซีผิงโหวไปแล้ว หากว่าเฉินเอ๋อไม่ได้แต่งงานกับคนดีๆ ข้าก็กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองหลวงแล้ว!”
แม่นมกล่าวด้วยความลำบากใจ “แต่เห็นได้ชัดว่าท่านแม่ทัพใหญ่ลำเอียงช่วยเหลือคุณหนูใหญ่......”
“หากว่าหยุนหรั่นเฟิงตาย ก็ไม่มีคนขวางทางเฉินเอ๋อของข้าแล้ว!” นัยน์ตาของลู่ซื่อเปล่งประกายความโหดเหี้ยมชั่วร้ายออกมา ใบหน้าบิดเบี้ยวดุดัน “ทำไมสวรรค์ถึงไม่จัดการนางซะนะ!”
แม่นมกระซิบพูดสองประโยค
ลู่ซื่อยิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัว “ดี ดีมาก......”
หยุนหรั่นเฟิงรู้ว่าตัวเองได้ล่วงเกินลู่ซื่อ แม้นางจะรู้ว่าร่างกายของตัวเองแข็งแรง แต่ชำเลืองมองหลินหลังที่ร่างกายบอบบางอ่อนแอทั้งยังโชคร้ายได้รับอันตรายอย่างต่อเนื่องจากการติดตามนาง ก็รู้สึกว่าตัวเองจำเป็นจะต้องเตรียมตัวเพื่อป้องกันไว้ก่อน
ขั้นตอนแรกในการเตรียมตัวเพื่อป้องกันไว้ก่อน ก็คือให้หลินหลังวิ่งรอบทุกวัน เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
หลินหลังวิ่งจนเหมือนตายทั้งเป็น แทบจะหมดลม “คุณหนู ข้าสามารถเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายได้หรือไม่เจ้าคะ? ออกไปวิ่งทุกวัน ทุกคนต่างมองมาที่ข้ากันหมดเลยเจ้าคะ”
น่าอายเกินไปแล้ว!
“ก็ดี ทั้งได้ออกกำลังกาย และสามารถฝึกเพิ่มระดับความหน้าด้านได้ด้วย” หยุนหรั่นเฟิงมองไปยังใบหน้าน้อยๆที่มีเลือดฝาดของเด็กสาวด้วยความพอใจ “เจ้าจำไว้ ครั้งหน้าหากถูกคนอื่นทุบตีอย่างไร้เหตุผลอีก ก็วิ่งไปที่ถนนใหญ่ให้ข้าซะ”
หลินหลังคิดถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา ตกใจหวาดหวั่นทันที แทบจะคุกเข่าให้คุณหนูของตัวเองแล้ว
เสียงของแม่ครัวดังมาจากข้างนอก หลินหลังกลัวว่าหยุนหรั่นเฟิงจะคิดอะไรพิสดารออกมาอีก รีบออกไปรับ ไม่นานก็ยกกล่องอาหารเข้ามา “คุณหนู นี่เป็นข้าวพระที่ฮูหยินเฒ่าไปไหว้พระแล้วตั้งใจขอกลับมา แล้วให้ในห้องครัวเล็กต้มเป็นโจ๊กข้าวเหนียวตามความชอบของแขกแต่ละคน บอกว่าปัดเป่าความอัปมงคลเจ้าค่ะ”
หยุนหรั่นเฟิงกำลังหิวอยู่เล็กน้อยพอดี กินไปหนึ่งคำ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบวางช้อนซุปลงทันที “หืม?”
“คุณหนู รสชาติไม่ดีหรือเจ้าคะ?” หลินหลังแปลกใจ
หยุนหรั่นเฟิงเหลือบมองโจ๊กข้าวเหนียวนั่นแวบหนึ่ง หัวเราะเยาะเบาๆ “รสชาติดี แค่เพิ่มยาพิษเข้ามา ทำให้โจ๊กข้าวเหนียวดีๆเสียเปล่าไปชามหนึ่ง”
หลินหลังสูดหายใจเข้าด้วยความตกใจ “มีคนวางยาพิษ? คุณหนู! นี่มีคนกำลังทำร้ายท่าน!” รีบเดินออกไปด้านนอกด้วยความรีบร้อน “ข้าจะไปรายงานท่านแม่ทัพใหญ่เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”
“กลับมา” หยุนหรั่นเฟิงเรียกสาวใช้นิสัยใจร้อนกลับมา “เจ้าไปตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร เพียงแต่จะแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้น ถึงเวลาหากว่ามีคนฆ่าปิดปากอีก ก็ตกเป็นการตายโดยพิสูจน์หลักฐานไม่ได้ เจ้าเอาเข็มเงินไปสืบดูด้วยตัวเอง ว่าเป็นการวางยาพิษแค่ที่พวกเรา หรือว่าในโจ๊กทั้งหมดล้วนมีความผิดปกติ”
“เจ้าค่ะ!”
หลินหลังออกไปแล้ว หยุนหรั่นเฟิงก็ไม่ได้อยู่ว่าง ถือโจ๊กชามนั้นเข้าห้องทดลอง ไม่นานก็ตรวจออกมาได้ว่าเป็นสารพิษที่เป็นยาพิษชนิดเรื้อรัง สามารถทำให้ประสาทของคนเสื่อมถอยอ่อนแอและเสียชีวิตโดยไม่มีใครสังเกตได้ เป็นวิธีที่ดีในการฆ่าคนที่อยู่ในส่วนลึกของบ้านจริงๆ
ก็ไม่รู้ว่า เป็นผู้ใดที่ต้องการจะฆ่านาง?
แววตาของหยุนหรั่นเฟิงเย็นชาเล็กน้อย แฝงด้วยประกายความเฉียบคม!
หยุนหรั่นเฟิงออกจากห้องทดลอง ไม่นาน หลินหลังก็กลับมา “คุณหนู ในเรือนอื่นๆล้วนไม่มีปัญหาเจ้าคะ มีแค่พวกเราตรงนี้......”
เบ้าตาของหลินหลังแดงอีกแล้ว ชีวิตคุณหนูของตัวเองลำบากจริงๆ อยู่ที่จวนองค์ชายก็ไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆ กลับบ้านก็ต้องเจอกับคนลอบทำร้ายอีก!
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่า โจ๊กนี่เป็นข้าวพระที่ฮูหยินเฒ่าต้มและส่งมา?”
“ใช่เจ้าค่ะ! แม่นมของฮูหยินเฒ่าทางนั้นยังตั้งใจกำชับมาอีกว่า นี่เป็นข้าวที่ได้ถวายหน้าพระมาก่อน ห้ามล้างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความประสงค์ดีของพระพุทธเจ้ามีราคีได้!”
“.......” หยุนหรั่นเฟิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย
โชคดีที่ไม่ได้กินยาพิษลงไป ไม่เช่นนั้นกินลงไปแล้ว จะไม่เป็นโรคกระเพาะลำไส้อักเสบหรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...
รอตอนต่ออยู่นะค่ะ...
รบกวนอัพเดทตอนใหม่ให้ด้วยนะคะ รอรอรอ...
สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่ค่ะ...
รอการอัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ😭...
รอการอัพเดทอยู่นะคะ...
❤❤❤...
รออ่านเรื่องนี้ตั้งหลายวันนนน...