ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 38

ลู่ซื่อมองเงาหลังของหยุนหรั่นเฟิงที่ไกลออกไป ทั้งโกรธทั้งหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทาเหมือนสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็นเช่นนั้น แม่นมด้านข้างรีบประคองนางขึ้นมาด้วยความลนลาน “ฮูหยิน พวกเราอดทนอีกหน่อยนะเจ้าคะ รอจนคุณหนูของเราแต่งงาน ชีวิตของพวกเราก็จะดีแล้วเจ้าคะ!”

“ทำไมข้าต้องทนด้วย! ข้าเป็นนายหญิงของตระกูลหยุน เป็นภรรยาหลวงของตระกูลหยุน ยังต้องกลัวนางผู้หญิงชั้นต่ำตัวเล็กๆผู้หนึ่งด้วยรึ! ยิ่งไปกว่านั้น มีนางเป็นตัวหายนะเช่นนี้ เฉินเอ๋อของข้าจะแต่งงานเข้าตระกูลสูงศักดิ์ได้อย่างไร! ข้าปฏิเสธจวนซีผิงโหวไปแล้ว หากว่าเฉินเอ๋อไม่ได้แต่งงานกับคนดีๆ ข้าก็กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองหลวงแล้ว!”

แม่นมกล่าวด้วยความลำบากใจ “แต่เห็นได้ชัดว่าท่านแม่ทัพใหญ่ลำเอียงช่วยเหลือคุณหนูใหญ่......”

“หากว่าหยุนหรั่นเฟิงตาย ก็ไม่มีคนขวางทางเฉินเอ๋อของข้าแล้ว!” นัยน์ตาของลู่ซื่อเปล่งประกายความโหดเหี้ยมชั่วร้ายออกมา ใบหน้าบิดเบี้ยวดุดัน “ทำไมสวรรค์ถึงไม่จัดการนางซะนะ!”

แม่นมกระซิบพูดสองประโยค

ลู่ซื่อยิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัว “ดี ดีมาก......”

หยุนหรั่นเฟิงรู้ว่าตัวเองได้ล่วงเกินลู่ซื่อ แม้นางจะรู้ว่าร่างกายของตัวเองแข็งแรง แต่ชำเลืองมองหลินหลังที่ร่างกายบอบบางอ่อนแอทั้งยังโชคร้ายได้รับอันตรายอย่างต่อเนื่องจากการติดตามนาง ก็รู้สึกว่าตัวเองจำเป็นจะต้องเตรียมตัวเพื่อป้องกันไว้ก่อน

ขั้นตอนแรกในการเตรียมตัวเพื่อป้องกันไว้ก่อน ก็คือให้หลินหลังวิ่งรอบทุกวัน เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง

หลินหลังวิ่งจนเหมือนตายทั้งเป็น แทบจะหมดลม “คุณหนู ข้าสามารถเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายได้หรือไม่เจ้าคะ? ออกไปวิ่งทุกวัน ทุกคนต่างมองมาที่ข้ากันหมดเลยเจ้าคะ”

น่าอายเกินไปแล้ว!

“ก็ดี ทั้งได้ออกกำลังกาย และสามารถฝึกเพิ่มระดับความหน้าด้านได้ด้วย” หยุนหรั่นเฟิงมองไปยังใบหน้าน้อยๆที่มีเลือดฝาดของเด็กสาวด้วยความพอใจ “เจ้าจำไว้ ครั้งหน้าหากถูกคนอื่นทุบตีอย่างไร้เหตุผลอีก ก็วิ่งไปที่ถนนใหญ่ให้ข้าซะ”

หลินหลังคิดถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา ตกใจหวาดหวั่นทันที แทบจะคุกเข่าให้คุณหนูของตัวเองแล้ว

เสียงของแม่ครัวดังมาจากข้างนอก หลินหลังกลัวว่าหยุนหรั่นเฟิงจะคิดอะไรพิสดารออกมาอีก รีบออกไปรับ ไม่นานก็ยกกล่องอาหารเข้ามา “คุณหนู นี่เป็นข้าวพระที่ฮูหยินเฒ่าไปไหว้พระแล้วตั้งใจขอกลับมา แล้วให้ในห้องครัวเล็กต้มเป็นโจ๊กข้าวเหนียวตามความชอบของแขกแต่ละคน บอกว่าปัดเป่าความอัปมงคลเจ้าค่ะ”

หยุนหรั่นเฟิงกำลังหิวอยู่เล็กน้อยพอดี กินไปหนึ่งคำ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบวางช้อนซุปลงทันที “หืม?”

“คุณหนู รสชาติไม่ดีหรือเจ้าคะ?” หลินหลังแปลกใจ

หยุนหรั่นเฟิงเหลือบมองโจ๊กข้าวเหนียวนั่นแวบหนึ่ง หัวเราะเยาะเบาๆ “รสชาติดี แค่เพิ่มยาพิษเข้ามา ทำให้โจ๊กข้าวเหนียวดีๆเสียเปล่าไปชามหนึ่ง”

หลินหลังสูดหายใจเข้าด้วยความตกใจ “มีคนวางยาพิษ? คุณหนู! นี่มีคนกำลังทำร้ายท่าน!” รีบเดินออกไปด้านนอกด้วยความรีบร้อน “ข้าจะไปรายงานท่านแม่ทัพใหญ่เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”

“กลับมา” หยุนหรั่นเฟิงเรียกสาวใช้นิสัยใจร้อนกลับมา “เจ้าไปตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร เพียงแต่จะแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้น ถึงเวลาหากว่ามีคนฆ่าปิดปากอีก ก็ตกเป็นการตายโดยพิสูจน์หลักฐานไม่ได้ เจ้าเอาเข็มเงินไปสืบดูด้วยตัวเอง ว่าเป็นการวางยาพิษแค่ที่พวกเรา หรือว่าในโจ๊กทั้งหมดล้วนมีความผิดปกติ”

“เจ้าค่ะ!”

หลินหลังออกไปแล้ว หยุนหรั่นเฟิงก็ไม่ได้อยู่ว่าง ถือโจ๊กชามนั้นเข้าห้องทดลอง ไม่นานก็ตรวจออกมาได้ว่าเป็นสารพิษที่เป็นยาพิษชนิดเรื้อรัง สามารถทำให้ประสาทของคนเสื่อมถอยอ่อนแอและเสียชีวิตโดยไม่มีใครสังเกตได้ เป็นวิธีที่ดีในการฆ่าคนที่อยู่ในส่วนลึกของบ้านจริงๆ

ก็ไม่รู้ว่า เป็นผู้ใดที่ต้องการจะฆ่านาง?

แววตาของหยุนหรั่นเฟิงเย็นชาเล็กน้อย แฝงด้วยประกายความเฉียบคม!

หยุนหรั่นเฟิงออกจากห้องทดลอง ไม่นาน หลินหลังก็กลับมา “คุณหนู ในเรือนอื่นๆล้วนไม่มีปัญหาเจ้าคะ มีแค่พวกเราตรงนี้......”

เบ้าตาของหลินหลังแดงอีกแล้ว ชีวิตคุณหนูของตัวเองลำบากจริงๆ อยู่ที่จวนองค์ชายก็ไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆ กลับบ้านก็ต้องเจอกับคนลอบทำร้ายอีก!

“เมื่อครู่เจ้าบอกว่า โจ๊กนี่เป็นข้าวพระที่ฮูหยินเฒ่าต้มและส่งมา?”

“ใช่เจ้าค่ะ! แม่นมของฮูหยินเฒ่าทางนั้นยังตั้งใจกำชับมาอีกว่า นี่เป็นข้าวที่ได้ถวายหน้าพระมาก่อน ห้ามล้างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความประสงค์ดีของพระพุทธเจ้ามีราคีได้!”

“.......” หยุนหรั่นเฟิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย

โชคดีที่ไม่ได้กินยาพิษลงไป ไม่เช่นนั้นกินลงไปแล้ว จะไม่เป็นโรคกระเพาะลำไส้อักเสบหรือไง?

“คุณหนู พวกเราจะไม่บอกท่านแม่ทัพใหญ่หรือเจ้าคะ?”

“แน่นอนว่าต้องบอก แต่ว่าต้องจับฆาตกรตัวจริงให้ได้”

หลินหลังตะลึง “นี่ นี่จะจับอย่างไรเจ้าคะ?”

แววตาของหยุนหรั่นเฟิงหดลงเล็กน้อย ค่อยๆยิ้ม “ในเมื่อครั้งนี้ข้าไม่ได้กิน ก็ต้องลำบากนาง ให้มาอีกรอบแล้ว”

“ห๊ะ?”

หลินหลังยังตอบสนองกลับมาไม่ได้ หยุนหรั่นเฟิงโบกมือ สาดซุปพร้อมทั้งถ้วยออกไปนอกหน้าต่าง ตั้งใจทำเสียงดังสูง “แมวจรจัดมาจากไหน เสียดายโจ๊กถ้วยนี้แล้ว หลินหลัง ไปห้องครัวแล้วเอามาอีกถ้วย!”

พูดจบ ก็กะพริบตาไปทางหลินหลัง

อยู่ที่จวนองค์ชายหลินหลังก็มีประสบการณ์มาไม่น้อย ในที่สุดก็ขัดเกลาออกมาได้ สะดุ้งเล็กน้อยสุดท้ายก็ตระหนักได้ “เจ้าค่ะ! ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้!”

เงาคนด้านนอกประตูแฉลบผ่านไปทันที แวบหายไปไร้ร่องรอย

ไม่นาน หลินหลังก็ยกถ้วยอาหารมาถึงห้องครัวจริงๆ แม่ครัวเฒ่ารีบเข้ามาถามทันทีว่า “ทำไม คุณหนูใหญ่ไม่ชอบหรือ?”

หลินหลังมองไปรอบๆโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็นึกถึงสิ่งที่หยุนหรั่นเฟิงกำชับขึ้นมาในทันที สูดหายใจเล็กน้อย กล่าวด้วยความสงบและมีพลังว่า “ก็ไม่รู้ว่าแมวจรจัดมาจากไหนชนซุปหก คุณหนูใหญ่บอกว่าเสียดาย ให้ท่านทำให้ใหม่อีกชุด”

“ข้าจะทำเดี๋ยวนี้” หญิงชรารีบกล่าว

หลินหลังพยักหน้าอย่างสำรวม และดึงแม่บ้านชราไว้ “ท่านให้ไปคนเก็บกวาดก่อน คุณหนูใหญ่ยังอยากกินอาหานที่ต้มด้วยไฟอ่อนอีกอย่างหนึ่ง ทั้งห้องครัวก็ท่านนี่แหละที่ทำอร่อยที่สุด”

“โธ่เอ๋ย ได้ ได้!”

แล้วหลินหลังก็ชี้คนไปเรื่อยอีกสองสามคน “ยังมีพวกเจ้าอีกสองสามคนก็อย่าอยู่ว่าง ช่วยไปเก็บกวาด เหลืองแค่สองคนไว้ดูไฟอยู่ในนี้ก็พอแล้ว”

หยุนหรั่นเฟิงเป็นของหัวแก้วหัวแหวนในมือของแม่ทัพใหญ่หยุนโม่ ฐานะของหลินหลังที่เป็นสาวใช้ข้างกายของหยุนหรั่นเฟิงก็สูงด้วยเป็นธรรมดา ทันทีที่นางพูด ก็ไม่มีคนกล้าขัดขืนแน่นอน ห้องครัวที่ครึกครื้น ไม่นานก็เหลือเพียงหญิงชราหูตาฝ้าฟางไม่กี่คนรวมทั้งสาวใช้ที่ไม่ได้สนใจเรื่องราวใดๆ

หลังจากนั้นไม่นาน สาวใช้อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีผู้หนึ่งก็เข้ามาที่ห้องครัวช้าๆ พูดสองสามคำ จากนั้นก็เดินไปหน้าหม้อซุปอย่างชะล่าใจ “ในนี้ต้มของดีอะไรไว้ หอมมาก”

“นี่คือโจ๊กข้าวเหนียวที่คุณหนูใหญ่ตั้งใจสั่งเอง”

“ใช่หรือ? ข้าดูหน่อย ว่าเป็นของดีอะไร” สาวใช้พูดพลาง ก็เปิดหม้อโจ๊กพลาง มืออีกข้างที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อขยับเล็กน้อย ห่อยาสีขาวเล็กๆสั่นไหวและยื่นออกมา ผงยาเล็กละเอียดโรยลงไปด้านใน

แทบจะในเวลาเดียวกัน มืออีกข้างหนึ่งก็ยื่นออกมาอย่างรวดเร็ว คว้าจับข้อมือของสาวใช้ไว้ หลินหลังตะคอกกล่าวด้วยเสียงอันเฉียบขาด “เจ้าคิดจะใส่ของอะไรลงในซุปคุณหนูของข้า!”

สาวใช้ตกใจจนหน้าซีด “เจ้า เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไร!”

หลินหลังแย่งห่อยาในมือของนางที่ยังโรยไม่หมดมาด้วยความรวดเร็ว “ข้าเพ้อเจ้อ? ข้าเห็นกับตาตัวเองว่าเจ้าโรยของลงไป เจ้ากล้าให้คนตรวจดูหรือไม่ว่า ในห่อยานี้เป็นยาอะไร!”

พยานและหลักฐานอยู่ครบ สาวใช้ตัวสั่นเทา จะพูดอะไรออกมาได้อีกที่ไหน

หลินหลังตะคอกกล่าว “เจ้าพูดมาซะ! เป็นใครที่ใช้ให้เจ้าทำกันแน่!”

สาวใช้กัดฟัน ด่าทอ “คุณหนูใหญ่ปฏิบัติไม่ดีกับข้า ทั้งทุบตีและดุด่าข้า ข้าอยากให้นางตาย ข้าจึงวางยาพิษนาง! ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของข้าคนเดียว! ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น!”

หลินหลังโกรธเคือง “เจ้ายังกล้าผลักความผิดมาไว้บนตัวคุณหนูของข้าอีก ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปพบท่านแม่ทัพและฮูหยินใหญ่! ข้าจะดูซิว่าเจ้ายังจะกล้าพูดความจริงหรือไม่!”

สาวใช้สะดุ้งเล็กน้อย ในตามีแววความหวาดกลัวแวบผ่าน และไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน สะบัดหลุดออกจากมือของหลินหลัง วิ่งพุ่งไปทางบ่อน้ำด้านนอกด้วยความผลุนผลัน!

“นางจะหนี!”

“แย่แล้ว นางต้องการจะกระโดดบ่อน้ำ!” หลินหลังร้องเสียงหลง “รีบขวางนางไว้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์